ท่ามกลางโลกที่รุดหน้าอย่างรวดเร็ว การพัฒนาคนตั้งแต่จุดเริ่มต้นจึงยิ่งสำคัญ โดยเฉพาะเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกลอีกจำนวนไม่น้อย ที่ยังรอคอยการสนับสนุน และโอกาสทางความรู้ของตัวเองผ่านการศึกษา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทุกคนในสังคมสามารถมีส่วนร่วมหยิบยื่น ประคับประคองในแบบที่ทำได้ 

เช่นเมื่อเร็วๆ นี้ มีหนึ่งตัวอย่างกิจกรรมเกิดขึ้นที่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านต้นมะม่วง ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดย คณะหลักสูตรวิทยาการผู้นำไทย-จีน (วทจ.) รุ่นที่ 5 ลงพื้นที่ช่วยเหลือครู นักเรียน ผ่านการมอบสิ่งของอย่าง อุปกรณ์การเรียน และเครื่องอุปโภคบริโภค

วทจ.รุ่นที่ 5 ที่ร่วมให้การสนับสนุนเด็กๆ ครั้งนี้ มี นพ.สุขุม กาญจนพิมาย นายกแพทยสมาคม ประธานรุ่น วทจ.5, พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วย ผบ.ตร., พรสรรค์ กำลังเอก, ผศ.ดร.ศิริพงศ์ พฤทธิพันธุ์ อดีตรองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย และประธานมูลนิธิการรถไฟไทย และพิพิธภัณฑ์รถไฟไทย ประธาน CSR และคณะ วทจ.5 ร่วมกันแจกจ่ายสิ่งของถึงมือเด็กๆ โดยมี พ.ต.ท.สุพงศ์สิทธิ์ แจ้งพันธ์ รอง ผกก.ตชด.ที่ 13 และ พ.ต.ท.วิรัช วรรณะพุก ครูใหญ่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านต้นมะม่วง และคณะครูนักเรียน ให้การต้อนรับ 

การช่วยเหลือนอกจากสิ่งของ อุปกรณ์การเรียน เครื่องอุปโภคบริโภค แล้วคณะ วทจ.รุ่นที่ 5 ยังร่วมกันมอบเงินสด จำนวน 50,000 บาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนการศึกษาให้นักเรียนทุกคน ขณะที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านต้นมะม่วง แสดงความขอบคุณผ่านการนำเยี่ยมชมโครงการตามพระราชดำริของโรงเรียน และการแสดงชุดรำอวยพรของเด็กๆ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านต้นมะม่วง และการแสดงของนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเฮงเค็ลไทย ในชุดระบำชนเผ่า มีวงดนตรีพื้นบ้านประยุกต์ของนักเรียนเป็นผู้บรรเลง

สำหรับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านต้นมะม่วง สังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน พื้นที่รับผิดชอบของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 เดิมนักเรียนในหมู่บ้านต้นมะม่วง ต้องเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทุ่งมะเซอย่อ ซึ่งปัจจุบันคือโรงเรียนตำราจตระเวนชายแดนเฮงเค็ลไทย เนื่องจากในหมู่บ้านไม่มีโรงเรียน การเดินทางก็ยากลำบาก ต้องข้ามห้วยน้ำในช่วงฤดูฝน

ต่อมา นายมั่น จี้อุ่น ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้านในสมัยนั้น ได้ทำหนังสือถึงกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน เขต 7 เดิม ปัจจุบันคือกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 13 ขอสร้างโรงเรียน โดยนายมั่น จี้อุ่น ได้มอบที่ดินของตนเอง จำนวน 18 ไร่ 2 งาน 75 ตารางวา มาเป็นพื้นที่ใช้สร้างโรงเรียน 

ปัจจุบันทั้งโรงเรียนมีนักเรียนรวม 96 คน ครู 11 คน เป็นครูตำรวจตระเวนชายแดน 8 นาย ครูอัตราจ้าง 1 คน และผู้ดูแลเด็ก 2 คน ทำการสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล จนถึงประถมศึกษาปีที่ และดำเนินโครงการตามพระราชดำริทั้งหมด 8 โครงการ ได้แก่  

1.โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน 2.โครงการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน 3.โครงการส่งเสริมโภชนาการและสุขภาพอนามัยแม่และเด็กในถิ่นทุรกันดาร 4.โครงการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา 5.โครงการนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ 6.โครงการฝึกอาชีพ 7.โครงการส่งเสริมสหกรณ์ และ 8.โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

การสนับสนุนเล็กๆ ผ่านกิจกรรมช่วยเหลือ อาจไม่ได้ช่วยพลิกวิถีชีวิตใครได้ในทันที แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้ผู้ที่เสียสละทำงานในพื้นที่ห่างไกลมีกำลังใจ และช่วยให้เด็กๆ มีความพร้อมในการเล่าเรียนมากขึ้น ก่อนเติบโตมาเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า ช่วยพัฒนาประเทศต่อไป.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน

[email protected]