
พิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศถวาย สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18
ช่วงเช้าของ วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ที่ ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธีบำเพ็ญพระกุศล ถวายแด่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 และพิธีเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในวันครบรอบปีที่ 37 ของศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ ในโอกาสนี้ ได้ไถ่ชีวิตโค-กระบือ จำนวน 207 ตัว เพื่อนำเข้าโครงการธนาคารโค กระบือเพื่อเกษตรกรตามพระราชดำริ และเลี้ยงอาหารผู้สูงอายุ โดยมี สมเด็จพระพุทธพจนวชิรมุนี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธนสุนทร สว่างสาลี รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ คณะผู้บริหารในสังกัดกระทรวง พม. และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธี
นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ กล่าวว่า ศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ สังกัดกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แรกตั้ง คือ สถานสงเคราะห์คนชราวาสนะเวศม์ ตั้งอยู่เลขที่ 200/11 หมู่ที่ 2 ตำบลบ่อโพง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเนื้อที่ 53 ไร่ ซึ่งก่อตั้งขึ้นด้วยพระบารมีธรรมของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ ด้วยแรงกตัญญูกตเวทิตาธรรมของคณะศิษยานุศิษย์ ที่ร่วมแรงร่วมใจในการก่อตั้งสถานสงเคราะห์คนชราวาสนะเวศม์แห่งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลืออุปการะผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน ไม่มีที่อยู่อาศัย ขาดผู้อุปการะ และมอบให้กับกรมประชาสงเคราะห์ ในสมัยนั้น โดยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิด เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2530 นอกจากนี้ ทรงโปรดฯ พระราชทานทุนทรัพย์ในการจัดสร้างเรือนนอนผู้สูงอายุ จำนวน 3 หลัง ได้แก่ บ้านมหิดล บ้านศรัทธรา และบ้านเบ็ตตี้ และสมเด็จพระสังฆราชเจ้า โปรดประทานนามว่า “วาสนะเวศม์” แปลว่า “ที่อยู่ของผู้มีบุญ” (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

กรมสมเด็จพระเทพฯ โปรดพระราชทานผ้าไตรงานพระราชทานเพลิงศพ โดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ทอดพระไตรพระราชทาน
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร ไปทอดถวายพระสงฆ์บังสุกุล ในการบำเพ็ญกุศลออกเมรุพระราชทานเพลิงศพ พระราชสังวรญาณ (สมุทร อธิปญโญ) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี-สระบุรี (ธรรมยุต) และอดีตเจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน (เขาจีนแล) โดยสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ทอดผ้าไตรพระราชทาน โดยมีนายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยคณะสงฆ์ คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ณ เมรุชั่วคราววัดเวฬุวัน (เขาจีนแล) ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

ประชุมเตรียมความพร้อมจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานตามโครงการสืบสาน พระราชปณิธาน แก่ราษฎรอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี (หลังใหม่) นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย นายพีระพล ตัณฑโอภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุมเตรียมความพร้อม จัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานตามโครงการสืบสานพระราชปณิธาน แก่ราษฎรอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี
ด้วยสำนักงานองคมนตรี จะจัดพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานตามโครงการสืบสานพระราชปณิธาน แก่ราษฎรอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ในวันพฤหัสบดีที่ 25 พฤษภาคม 2566 โดย พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทาน
ทั้งนี้ ในพิธีมอบความช่วยเหลือพระราชทานตามโครงการสืบสานพระราชปณิธาน แก่ราษฎรอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี ยังมีการให้บริการจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่จากโรงพยาบาลรามาธิบดี หน่วยบริการให้คำปรึกษาทางด้านกฎหมายจากสำนักงานอัยการสูงสุด หน่วยบริการเผยแพร่ความรู้และรับเรื่องร้องเรียนจากสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และจากมูลนิธิต่างๆ อีกด้วย (ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม / อุทัยธานี)

ผู้ว่าฯ อยุธยา “นิวัฒน์” ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงาน ส่วนบรรยากาศเลือกตั้งล่วงหน้าอยุธยา คึกคัก
เช้าวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 บรรยากาศการเลือกตั้งล่วงหน้าในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณอยุธยาฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา เป็นไปอย่างคึกคัก ประชาชนจำนวนมากมารอลงคะแนนตั้งแต่เวลา 07.00 น. โดย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางมาลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในการเลือกตั้งล่วงหน้า โดยมี นางสาวณัฏฐ์อริญ แก้วญาณะสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนายเดชาธร เชาว์เลขา นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ พร้อมนำตรวจเยี่ยมหน่วยตั้งที่ให้บริการประชาชน
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการตรวจเยี่ยมจุดเลือกตั้งที่จัดไว้บริการประชาชนของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดี ประชาชนไม่แออัด และการตั้งจุดเลือกตั้งล่วงหน้าในศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา มีความสะดวกเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งอากาศไม่ร้อนด้วย
นางสาวณัฏฐ์อริญ แก้วญาณะสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาชนมีความตื่นตัวที่จะมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นอย่างมาก โดยมีผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตเลือกตั้ง เขต 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจำนวนถึง 27,679 คน ทางสำนักงานการเลือกตั้งฯ ได้จัดสถานที่ไว้บริการประชาชน ไม่ให้ต้องคอยนาน รวมถึงจัดสถานที่จอดรถโดยรอบบริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลอยุธยา สามารถจอดได้กว่า 4,000 คัน รวมถึงมีรถรางบริการรับส่งฟรีอีกด้วย ส่วนการเลือกตั้งล่วงหน้าของผู้พิการ ได้จัดสถานที่เลือกตั้งไว้ภายในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวาสนะเวศม์ ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีเจ้าหน้าที่มาให้บริการและอำนวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการด้วยเช่นกัน (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จับมือ กกต.อยุธยา จัดกิจกรรมออกรณรงค์โค้งสุดท้าย Big Day เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 14 พ.ค. ให้มากที่สุด
วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 เวลา 07.30 น. ที่บริเวณหน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรณรงค์ เชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม ที่จะถึงนี้ จัดขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำโดยนางสาวณัฏฐ์อริญ แก้วญาณะสิทธิ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้รับความร่วมมือจาก พลตำรวจตรี ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ นักเรียน นักศึกษา สมาคม ชมรมสตรี และประชาชน ร่วมกิจกรรมกว่า 500 คน รวมทั้งช้างจากวังช้างแลเพนียด จำนวน 4 เชือก ร่วมกิจกรรมรณรงค์
โดยหลังจากทำพิธีเปิดแล้ว นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้สาธิตการลงคะแนนเลือกตั้ง ด้วยบัตร 2 สี พร้อมนำช้างจากวังช้างแลเพนียด ร่วมลงนามและหย่อนบัตรเลือกตั้ง ทั้ง 2 สีด้วย จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมเดินรณรงค์พร้อมกับปล่อยขบวนเชิญชวนเลือกตั้ง ส.ส. ไปตามถนนอู่ทอง ผ่านตลาดเจ้าพรหม จนถึงสำนักงานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ระยะทางกว่า 1.5 กิโลเมตร พร้อมแจกแผ่นพับเชิญชวนประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้
นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการรณรงค์การเลือกตั้ง ส.ส. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ทั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ เพื่อเชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส. ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 เพื่อเลือกผู้แทนทำหน้าที่กระบอกเสียงให้กับประชาชน ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำหนดเป้าหมายการเลือกตั้ง ส.ส. ในครั้งนี้ จะต้องมีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีก 5% จากปี 2562 ที่มีผู้มาใช้สิทธิกว่า 80% และจำนวนบัตรเสียต้องลดลงและไม่เกิน 2% (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

ศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสระบุรี จัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันปฐมบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10)
วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ที่ วัดหนองมน ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานจังหวัดสระบุรี มอบหมายให้ นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นายภูธนะ ชมพูมิ่ง หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยจิตอาสา 904 หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 18 กำลังพลจิตอาสาพระราชทานมณฑลทหารบกที่ 18 กอ.รมน.สบ. จิตอาสาพระราชทานอำเภอดอนพุด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจิตอาสา เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา พัฒนาปรับภูมิทัศน์ทำความสะอาดชุมชน กำจัดผักตบชวาในแม่น้ำ คู และคลองระบายน้ำใหญ่เริงรางบ้านหนองมน เนื่องในวันปฐมบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ วัดหนองมน ตำบลบ้านหลวง อำเภอดอนพุด จังหวัดสระบุรี มีผู้ร่วมกิจกรรม จำนวน 450 คน (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เปิดงานอนุรักษ์วัฒนธรรม สืบสานวิถีชีวิต อัตลักษณ์ ภูมิปัญญา กลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง บ้านเนินขาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณวัดเนินขาม อำเภอเนินขาม จังหวัดชัยนาท นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานอนุรักษ์วัฒนธรรม สืบสานวิถีชีวิต อัตลักษณ์ ภูมิปัญญา กลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง บ้านเนินขาม พร้อมด้วยนายศรณ์จักร์ชัย ชวาพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท โดยมีปลัดจังหวัดชัยนาท หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดชัยนาท ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเนินขาม หัวหน้าส่วนราชการอำเภอเนินขาม นายกเทศบาลตำบลเนินขาม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกลุ่มชาติพันธ์ุที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด เข้าร่วมพิธีฯ
นางสาวสิริญรัศมิ์ นุตตะรังค์ นายอำเภอเนินขาม กล่าวว่า งานอนุรักษ์วัฒนธรรม สืบสานวิถีชีวิต อัตลักษณ์ภูมิปัญญา กลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง บ้านเนินขามประจำปี 2566 เพื่อดำรงรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามของกลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง บ้านเนินขาม ที่สืบทอดกันมาแต่โบราณให้คงอยู่ตลอดไป ปัจจุบันชาวบ้านเนินขามยังคงรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณีที่สืบทอดมาแต่โบราณ โดยในทุกปีจะมีประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมา เช่น ประเพณีบุญสารทลาว ประเพณีบุญกลางบ้าน ประเพณีบุญข้าวจี่ (แจกข้าว) ประเพณีแห่ข้าวพันก้อน ประเพณีสงกรานต์ เป็นต้น ด้านวัฒนธรรมปัจจุบันก็ยังคงไว้ เช่น วัฒนธรรมด้านภาษาที่ชาวบ้านเนินขาม ยังคงพูดภาษาลาวเป็นภาษาหลัก วัฒนธรรมการทอผ้าที่มีลวดลายสวยสดงดงามเป็นเอกลักษณ์ของผ้าทอบ้านเนินขามไม่ว่าจะเป็น ผ้าทอมือ ผ้าซิ่นตีนจก ผ้าซิ่นตีนจกลายช่อใบมะขาม ผ้าขาวม้า 5 สี เสื้อจุบหม้อ
ปัจจุบันชาวเนินขาม ยังคงมีการแต่งกายที่แสดงออกถึงอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ลาวเวียงบ้านเนินขาม ได้อย่างงดงาม และวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่ยังคงมีการประกอบอาหารพื้นบ้าน ยังคงไว้ซึ่งรสชาติ และวิธีแบบดั้งเดิม นอกจากนั้นยังคงมีพิธีกรรมตามความเชื่อของคนโบราณที่สืบทอดกันมายาวนาน เช่น พิธีสืบเคราะห์ต่อชะตา (ชาวลาวเวียงบ้านเนิน เรียกว่า เอ็ดเวียก) พิธีตอกหลักปี พิธีบายศรีสู่ขวัญ เป็นต้น (สุรพล บำรุงศรี / ชัยนาท)

รณรงค์เลือกตั้ง
นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานในพิธีกิจกรรม รณรงค์การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโค้งสุดท้าย Big Day ของจังหวัดลพบุรี และนำอ่านคำประกาศของผู้มีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 โดยมี นายขวัญเพชร ถนอมนาม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการ การเลือกตั้งประจำจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาชน ร่วมกิจกรรม กว่า 700 คน ณ ลานหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช บริเวณวงเวียนเทพสตรี อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี
สำหรับกิจกรรมรณรงค์การเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โค้งสุดท้าย Big day มีกำหนดจัดพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นเชิญชวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอย่างพร้อมเพรียงกัน ในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม 2566 และเพื่อเป็นการแสดงพลังประชาธิปไตยของประชาชนชาวจังหวัดลพบุรี เผยแพร่สู่สาธารณชน ให้การ เลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี เป็นไปอย่างสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

เหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรีจัดกิจกรรม “วันกาชาด บรรเทาทุกข์ บำรุงสุข ปวงประชา” อำเภอเสาไห้ ตามพันธกิจเหล่ากาชาดจังหวัด ด้านสังคมสงเคราะห์และส่งเสริมคุณภาพชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า ที่หอประชุมอำเภอเสาไห้ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ประธานในพิธี “วันกาชาด บรรเทาทุกข์ บำรุงสุข ปวงประชา” มอบถุงธารน้ำใจจากเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี และผ้าขนหนูจากชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสระบุรี ณ หอประชุมอำเภอเสาไห้ อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี มีนายชินนาอาชว์ รสิอัครศักดิ์ นายอำเภอเสาไห้ กล่าวต้อนรับ นางวันทนา ดำธรรม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ จากนั้น นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กล่าวเปิดกิจกรรม
“วันกาชาด บรรเทาทุกข์ บำรุงสุข ปวงประชา” และร่วมกับนางวันทนา ดำธรรม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี มอบถุงธารน้ำใจ จำนวน 204 ถุง และผ้าขนหนู จำนวน 204 ผืน ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี เพื่อนำไปมอบให้แก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

สิงห์บุรีเปิดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เนื่องในวันฉัตรมงคล ปี 2566
นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมสาธารณประโยชน์ เนื่องในวันฉัตรมงคล พ.ศ. 2566 และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้สูงอายุราษฎรตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จำนวน 5 ราย ณ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี โดยมี นายสัมฤทธิ์ กองเงิน พร้อมนายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นายอำเภอบางระจัน เหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสิงห์บุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านจ่าและอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดกิจกรรมการเยี่ยมบ้านผู้สูงอายุที่ประสบปัญหาเดือดร้อนด้านที่อยู่อาศัยในพื้นที่ตำบลบ้านจ่า จำนวน 5 ราย เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและพิจารณาให้ความช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุ ในพื้นที่ตำบลบ้านจ่า อำเภอบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี ได้บูรณาการให้ความช่วยเหลือปรับสภาพที่อยู่อาศัย รวมจำนวน 65 ราย เป็นเงิน 1,712,313 บาท ประกอบด้วยบ้านผู้สูงอายุ จำนวน 16 ราย บ้านคนพิการ จำนวน 13 ราย บ้านงบพัฒนาจังหวัด จำนวน 14 ราย และบ้านพอเพียงชนบท จำนวน 22 ราย
ทั้งนี้ จังหวัดสิงห์บุรี ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูแลช่วยเหลือพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงเพื่อให้กลุ่มเปราะบาง ได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิต มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสามารถดำเนินชีวิตร่วมกับคนในสังคมอย่างมีประสิทธิภาพ ในโอกาสวันที่ 4 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันฉัตรมงคล เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมกันแสดงพลังบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมอย่างยืน (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

ชัยนาท เปิดงาน Walking Streetตลาดนัดชุมชนตลาดโรงพักเก่าสรรพยา และงานส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนเมืองสาปยา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดโรงพักเก่าสรรพยา ตำบลสรรพยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นายศรณ์จักร์ชัย ชูวาพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานในพิธีเปิดงาน Walking Street ตลาดนัดชุมชนตลาดโรงพักเก่าสรรพยา และงานส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนเมืองสาปยา โครงการส่งเสริมการจัดกิจกรรมการท่องเที่ยววิถีชุมชนเชิงสร้างสรรค์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีปลัดจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยนายอำเภอสรรพยา หัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศมนตรีตำบลสรรพยา นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยนาท ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองสาปยา เข้าร่วมกิจกรรม
นายมหิทธร สุรบุญจรัส ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยนาท กล่าวว่า การจัดงาน Waling Street ตลาดนัดชุมชนตลาดโรงพักเก่าสรรพยา และงานส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนเมืองสาปยา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นการบูรณาการงานร่วมกันระหว่างสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยนาท สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดชัยนาท สำนักงานเทศบาลตำบลสรรพยา วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเมืองสาปยา และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดการหมุนเวียน นักท่องเที่ยวเดินทางมาจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดชัยนาทเพิ่มมากขึ้น และการอนุรักษ์และสืบสานประเพณี วัฒนธรรม ซึ่งเป็นวิถีชุมชนให้คงอยู่สืบไป
ทั้งนี้ การจัดงาน Walking Street ตลาดนัดชุมชนตลาดโรงพักเก่าสรรพยา และงานส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมชุมชนเมืองสาปยา จะจัดขึ้นจำนวน 10 ครั้ง ครั้งละ 1 วัน ซึ่งในช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2566 จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 1 และ 2 ในระหว่างวันที่ 6-7 พฤษภาคม 2566, ครั้งที่ 3 และ 4 จัดขึ้นในวันที่ 20-21 พฤษภาคม 2566, ครั้งที่ 5 และ 6 วันที่ 3-4 มิถุนายน 2566, ครั้งที่ 7 และ 8 วันที่ 17-18 มิถุนายน 2566 และครั้งที่ 9 และ 10 วันที่ 1-2 กรกฎาคม 2566 ณ ตลาดโรงพักเก่าสรรพยา จังหวัดชัยนาท นอกจากนี้ การจัดงานภายใต้แนวคิด ตลาดกรีนดีหรือตลาดสีเขียว กิจกรรมประกอบด้วย ร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน ซุ้มสาธิตทางวัฒนธรรม จุดสาธิตการทำอาหารพื้นถิ่น บูธกิจกรรมพื้นถิ่นสร้างกระบวนการมีส่วนร่วม การแสดงบนเวที และการประกวดแข่งขันร้องเพลง (วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)

“ธีรพล” อดีตบิ๊ก กพร. ปลื้มมหาวิทยาลัยฯ เน้นเรียนภาคปฏิบัติ พัฒนาทักษะพร้อมทำงานหลังจบ
นายธีรพล ขุนเมือง อดีตอธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลฯ และกรรมการส่งเสริมของมหาวิทยาลัยราชภัฏฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยทุกแห่ง หากมุ่งเน้นทฤษฎีมากเกินไป แต่ไม่เน้นให้นักศึกษาได้เรียนรู้ภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น จะทำให้นักศึกษาเมื่อจบออกมาจะขาดประสบการณ์ในการทำงานจริง และไม่สามารถประกอบอาชีพตามที่คาดหวังได้ ดังนั้นแต่ละมหาวิทยาลัยฯ จึงมุ่งเน้นการเรียนภาคปฏิบัติ ในรูปแบบ “สหกิจศึกษา” มากยิ่งขึ้น
ซึ่งนอกจากการเรียนในรูปแบบนี้แล้ว การออกไปศึกษาดูงานเพิ่มเติมจากบริษัทต่างๆ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จึงมีความจำเป็นยิ่ง ซึ่งต้องขอชื่นชมมหาวิทยาลัยบางแห่งที่ได้ดำเนินการในลักษณะนี้ อาทิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร และล่าสุดวันนี้ (8 พ.ค 66) มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา สาขาวิชาวิศวกรรมการจัดการอุตสาหกรรม คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม ได้เดินทางไปบริษัท ยูเอสอี. โฟร์-ไลน์ จำกัด ตั้งอยู่จังหวัดปทุมธานี เพื่อศึกษาดูงานพร้อมอบรมขั้นพื้นฐานหลักสูตร Automatic & Robotic รวมถึงหลักสูตรไฮดรอลิกที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม โดยเรียนรู้ตั้งแต่เริ่มกระบวนการผลิต จนถึงการส่งมอบสินค้า อันเป็นกระบวนการที่จำเป็นยิ่งในการเสริมการเรียนการสอนในภาคปฏิบัติด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย
นายธีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ แห่งนี้ ได้มีการจัดตั้ง “ศูนย์นวัตกรรมและพัฒนาทักษะสำหรับอุตสาหกรรม” เพื่อส่งเสริมสนับสนุนนักศึกษาและบุคคลทั่วไปที่สนใจเข้ารับการอบรมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาฝีมือแรงงาน ทั้งการ Re-skill, Up-skill เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ สู่ thailand 4.0 ซึ่งต้องขอชื่นชมมหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่ง เพราะนอกจากเป็นประโยชน์ต่อนักศึกษาโดยตรงแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างกำลังคนของประเทศ ให้มีทักษะฝีมือที่จำเป็นในการพัฒนาประเทศด้วย (เผอิญ ไทยสม ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

ราชมงคลสุวรรณภูมิ สร้างความร่วมมือด้านการศึกษาไทย เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลสู่เศรษฐกิจโลก
รองศาสตราจารย์ ดร.ประมุข อุณหเลขกะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารเข้าเยี่ยมชมการจัดการศึกษาที่มีความแตกต่างจากมาตรฐาน ของ The Open University of Fujian สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต (Life long learning) ทั้งในหลักสูตรที่ได้ปริญญาและหลักสูตรระยะสั้น โดยมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีการจัดการเรียนการสอนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และมีชื่อเสียงด้านระบบราง ในการนี้ ทั้งสองมหาวิทยาลัยได้หารือเพื่อทำความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนนักศึกษาจีน เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอกในมหาวิทยาลัย รวมทั้งแนวทางการแลกเปลี่ยนอาจารย์ของทั้งสองมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน วิจัย และบริการวิชาการ ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือด้านอื่น ๆ ในอนาคตต่อไป ณ The Open University of Fujian สาธารณรัฐประชาชนจีน (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

เลขาธิการหอการค้าไทย พร้อมหอการค้านนทบุรี ร่วมอาลัย นักจัดรายการดัง
ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการ เลขาธิการหอการค้าไทย พร้อมด้วย คณะหอการค้าจังหวัดนนทบุรี ร่วมแสดงความไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ในงานฌาปนกิจศพ นายพิพัฒน์ หาบุญญาพิพัฒน์ นักจัดรายการชื่อดัง เจ้าของห้างขายยาจอมทอง ฌาปนสถานวัดตรีทศเทพ กรุงเทพฯ (สมคิด – สมนึก ลือประดิษฐ / นนทบุรี)

โรงพยาบาลเสนา วันพยาบาลสากล 2566
วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 โรงพยาบาลเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา “จัดกิจกรรมวันพยาบาลสากล ประจำปี 2566” เพื่อเชิดชูเกียรติ แด่มิสฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ผู้ก่อกำเนิดวิชาชีพการพยาบาล ซึ่งตรงกับวันที่ 12 พฤษภาคม ของทุกปี โดยมี แพทย์หญิง ชนิญญา พัฒนศักดิ์ภิญโญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเสนา เป็นประธานเปิดงาน คุณพิมพ์ฉวี เตชะภัทร รองผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล พร้อมคณะพยาบาล จัดกิจกรรมเชิญชวนผู้มารับบริการ บริจาคอวัยวะและดวงตา พร้อมทั้งบริจาคโลหิต ณ แผนกผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลเสนา (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

อบจ.อยุธยา ร่วมกับ สมาคมเครือข่าย ทสม. จัดโครงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติ “การริเริ่มนำร่องและพัฒนาระบบธนาคารน้ำใต้ดินแบบผสมผสาน เพื่อเกษตรมูลค่าสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา”
วันพุธที่ 10 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.00 น. ณ ห้องพลูหลวง โรงแรมอยุธยา แกรนด์ โฮเต็ล นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติ “การริเริ่มนำร่องและพัฒนาระบบธนาคารน้ำใต้ดินแบบผสมผสาน เพื่อเกษตรมูลค่าสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” โดยมี นายสมชาย สุวิบาย รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวรายงาน
ในปัจจุบันแนวโน้มและความเสี่ยง รวมทั้งผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยธรรมชาติ ทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาอยู่ในสภาวะที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งความแปรปรวนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในเชิงปริมาณน้ำและกระบวนการทางอุทกวิทยา ผนวกกับความต้องการใช้น้ำในสาขาการพัฒนาต่างๆ ทำให้ปริมาณน้ำที่มีจำกัด ไม่สามารถจัดสรรได้อย่างเพียงพอ ส่งผลต่อการสูญเสียศักยภาพและความพร้อมในการวางแผนพัฒนาของลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำคาบเกี่ยว ที่เชื่อมโยงกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สมาคมเครือข่าย ทสม. ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงได้กำหนดจัดโครงการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติ “การริเริ่มนำร่องและพัฒนาระบบธนาคารน้ำใต้ดินแบบผสมผสาน เพื่อเกษตรมูลค่าสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา” ขึ้น โดยเป็นโครงการที่ขยายผลสัมฤทธิ์ของการจัดทำโครงการในระยะที่ 1 ที่ผ่านมา (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)