ปฏิเสธไม่ได้ว่าปัญหาปากท้องกับพี่น้องประชาชนนับว่า เป็นสิ่งที่ท้าทายกับรัฐบาลชุดนี้ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาลนำโดย “เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เพราะหลายคนคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะต้องดีขึ้นมีเงินในกระเป๋าแบบจุก ๆ วันนี้ “คอลัมน์ตรวจการบ้าน” จึงต้องมาสนทนากับ “เสี่ยอ้วน” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เพราะเป็นหนึ่งในคีย์แมนหลักอีกคนหนึ่งในการขับเคลื่อนหลักเศรษฐกิจของประเทศ ณ เวลานี้

โดย“ภูมิธรรม” เปิดฉากเล่ามิติใหม่ในกระทรวงพาณิชย์ในยุคนี้ ว่า ขวัญกำลังใจข้าราชการน่าจะไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะผมให้ความสำคัญและความรู้สึกกับเจ้าหน้าที่และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์และความเคารพ ในความเป็นมืออาชีพของทุกคน เพราะฝ่ายการเมืองเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ข้าราชการในอยู่ที่เดิม บางทีข้าราชการก็ลำบากใจกับฝ่ายการเมือง ผมได้อธิบายไปแล้วว่า มาที่นี่เพื่อมาแก้ปัญหาให้ประเทศชาติ ถึงแม้รัฐบาลนี้จะเป็นรัฐบาลผสม แต่มาด้วยวิกฤตและความยากลำบากหลายประการ ดังนั้นขวัญกำลังใจของข้าราชการจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยยึดกรอบประเทศชาติและประชาชนได้ประโยชน์ ส่วนนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาลในการนำพาประเทศผ่านวิกฤตไปได้นั้น มีหลักคิด 3 ประการ คือ

1.“กระตุ้น” พื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีต้องเกิดการกระตุ้นอย่างรุนแรง ตนได้อธิบายนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตกับข้าราชการไปแล้วว่า หลักคิด คือ การใช้เงินให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเกิดการหมุนเวียนเศรษฐกิจในชุมชนและในประเทศ

2. “เร่งด่วน” การผลักดันรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พักหนี้เกษตรกร และลดรายจ่ายด้านพลังงาน ให้ภาคครัวเรือนและภาคขนส่งมีต้นทุนในการใช้ชีวิตและดำรงชีพ รวมถึงให้ต้นทุนด้านธุรกิจลดลง

3. “สร้าง” สร้างรายได้ใหม่ เปิดประตูการท่องเที่ยว เปิดประตูการค้า สร้างรายได้ใหม่จากการพัฒนาเกษตร การลดความเหลื่อมล้ำ การออกโฉนดที่ดิน 50 ล้านไร่ แปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน สร้างรัฐบาลดิจิทัล ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รวมทั้งสร้างคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นด้วยการปราบปรามยาเสพติด

“กระทรวงพาณิชย์ในยุคของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” จะทำงานอย่างสมาร์ท สามารถที่จะก้าวทันโลกได้ สามารถขยายฐานสินค้าและสามารถขยายตลาดได้กว้างขวางขึ้น เราจะทำงานเชิงบูรณาการกับหน่วยงานต่าง ๆ ลดข้อจำกัดระหว่างกันให้มากขึ้น อย่าให้ปัญหามันเป็นอุปสรรคในการทำงาน” 

@ จะมีแนวทางการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงได้อย่างไร

กระทรวงพาณิชย์ต้องทำงานเชิงรุก แจ้งเตือนเพื่อปรับแผนทันที ยกตัวอย่าง ข้าวขาดตลาดจากผลกระทบเอลนีโญ เราต้องไม่รอวิ่งตามปัญหา แต่เราต้องคำนวณว่าผลิตผลจะออกมาเมื่อไร และจำนวนมากน้อยแค่ไหนในแต่ละปี แล้ววางแผนจะกระจายสินค้าอย่างไร วันนี้เราได้มีการลดราคาน้ำมัน เท่ากับเป็นการลดราคาต้นทุนการผลิต และการขนส่งสินค้า ดังนั้นจึงต้องมีการคำนวณต้นทุนสินค้าได้สมดุลกับราคา ด้วยการหารือกับผู้ประกอบการหาจุดที่สมดุลกันอย่างไร อีกทั้งตนได้มอบหมายให้ไปทบทวน ราคาสินค้าว่าแต่ละชิ้นมีราคาเป็นอย่างไรด้วย สินค้าสำคัญที่พี่น้องประชาชนจะต้องเจอก็คือ ข้าวสาร ไข่ไก่ หมู และสินค้าอุปโภคบริโภค หรือเครื่องนุ่งห่ม จึงต้องมาดูว่าต้นทุนการผลิต และราคาพลังงานที่มีราคาเปลี่ยนแปลงไปและหาจุดร่วมที่อยู่กันพอดีทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค 

“เราพยายามทำอย่างเต็มที่ ได้เท่าไรต้องมาดูกันอีกที ถ้าเรามาแบบนี้ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่งเพราะว่าเราเริ่มต้นได้ดี ทุกฝ่ายก็ได้ทำงานของตัวเองและมีความสบายใจ”

@ แนวทางการหารายได้จากการส่งออกสินค้าจะทำอย่างไร

สำหรับเรื่องการหารายได้จากการส่งออก จะเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศได้ เพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น และเพิ่มช่องทางการส่งออกให้มากขึ้น ขยายโอกาสและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของไทยให้มากขึ้นได้ สิ่งสำคัญที่เราให้นโยบายไว้ก็ คือ ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งการให้ความสำคัญกับการส่งออกสินค้าด้านวัฒนธรรม หรือนวัตกรรมใหม่ ๆ มากขึ้น ก็เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าต่าง ๆ ของเรามีมูลค่าสูงขึ้น ทั้งนี้ทูตพาณิชย์ ต้องระบุว่า มีสินค้าอะไรที่เป็นที่นิยมบ้างในต่างประเทศบ้าง ซึ่งสินค้าของประเทศไทยเอง ก็เป็นที่นิยมและชื่นชอบ ถ้าทำตลาดได้ดี สร้างเทคนิคส่งเสริมการขาย และสามารถสร้างสตอรี่สินค้า เชื่อว่าสินค้าจะเป็นที่ต้องการ ของตลาดได้ทางตลาดพรีเมี่ยมและตลาดทั่วไป

@ นายกรัฐมนตรีวางกรอบรัฐมนตรีจะต้องมีผลงานภายใน 100 วัน กระทรวงพาณิชย์วางแผนอย่างไร และจะชูอะไรเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง

สิ่งที่ต้องการที่สุด คือ ผลงานที่ตอบสนองพี่น้องประชาชนได้ โดยผมได้ให้นโยบายไปแล้วว่า 100 วันแรก อะไรคือ ผลงานที่จะสามารถสร้างความมั่นใจให้พี่น้องประชาชน ว่า เราได้ทุ่มเททำงาน เพื่อเป็นประโยชน์กับเขา ดังนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ต้องไปคิดแผนกันมา และจะต้องทำทุกอย่างให้จบภายในหนึ่งเดือนแรก โดยเฉพาะโครงการที่วางเอาไว้ 100 วันแรกจะเป็นอย่างไร และ 1 ปีจะเป็นอย่างไร 

ผมอยากเห็นแอคชั่นแพลน ว่า จะประเมินสินค้าอย่างไร มีแผนตรึงราคาสินค้ากำหนดราคาสินค้าอย่างไร มีแผนส่งออกและเปิดตลาดใหม่อย่างไร ตนคิดว่าภายใน 1 เดือนที่ตนมาที่กระทรวงพาณิชย์ จะต้องตอบโจทย์อย่างเป็นรูปธรรมให้พี่น้องประชาชนเห็นว่า เราจะทำเป้าหมายอะไร ลดรายจ่ายเพิ่มรายได้อย่างไร ขยายโอกาสได้อย่างไร คนตัวใหญ่ดึงคนตัวกลางฉุดคนตัวเล็กได้อย่างไร เพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย ยืนยันว่าทุกอย่างต้องเป็นรูปธรรมตรวจสอบได้ เราจะเป็น “กระทรวงพาณิชย์แนวใหม่” ที่ตอบสนองทันต่อตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ กับตลาดสมัยใหม่ออนไลน์

“เป็นการจับไม้จับมือระหว่างกับฝ่ายนโยบายและฝ่ายประจำบูรณาการ สิ่งที่จะทำร่วมกันทั้งหมด ผมอยากเห็นสิ่งนี้แล้วเชื่อว่าสิ่งนี้จะอำนวยประโยชน์ให้ทุกฝ่ายทุกส่วนที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่การค้าขายทั้งหมดทั้งผู้ประกอบการ ผู้บริโภค ผู้ผลิต และคนกลาง จะต้องได้ประโยชน์ร่วมกัน โดยเรามีในการดูแลกฎควบคุมกฎ และประสานประโยชน์ให้ทุกฝ่าย”.