เมืองทางตะวันออกอันงดงาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของเครื่องลายครามอันโด่งดังที่สุดของจีน ดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเรียนรู้ศิลปะโบราณ ซึ่งสืบทอดต่อกันมานานนับพันปี
ในปัจจุบัน คนหนุ่มสาวในจีนเผชิญกับความยากลำบาก ทั้งอัตราการว่างงานของเยาวชนที่สูงเป็นประวัติการณ์ การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา และสำหรับหลายคน พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงโอกาสที่รุ่นพ่อแม่ได้รับ แต่ในเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น พวกเขาพบสิ่งที่แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่าราคาถูก การใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ และความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ในเมืองที่มีประชากรแค่ 1.6 ล้านคน ซึ่งถือว่าน้อยมาก ตามมาตรฐานของจีน
น.ส.เหอ หยุน นักวาดภาพประกอบวัย 28 ปี กล่าวว่า หลังถูกเลิกจ้าง เธอมาถึงเมืองจิ่งเต๋อเจิ้นเมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา และได้พบกับสถานที่ที่ทำให้เธอไม่รู้สึก “กดดัน”
“ฉันมาที่นี่เพราะทุกคนในสื่อสังคมออนไลน์บอกว่า มันคือสถานที่ยอดเยี่ยม สำหรับคนชอบงานฝีมืออย่างฉัน และมันมีกลิ่นของอิสรภาพ” เหอ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในตอนที่เธอตกงาน เธออยู่ที่บ้านและรู้สึกหดหู่ แต่เมื่อมาที่นี่ การหาเพื่อนใหม่เป็นเรื่องง่ายมาก แถมยังได้เพลิดเพลินทิวทัศน์อันสวยงาม จากห้องพักที่มีค่าเช่าแค่ 500 หยวนต่อเดือน (ราว 2,474 บาท)
วันปกติสำหรับเหอ เริ่มจากการรับประทานอาหารเช้าแบบสบาย ๆ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังเวิร์กชอป เพื่อทำเชิงเทียนเซรามิกและสร้อยคอ และนำมันไปเผาในเตาเผาที่มีอยู่หลายแห่งในเมือง จากนั้นในตอนเย็น เธอกับเพื่อน ๆ ก็ไปยังหมู่บ้านที่อยู่รอบ ๆ และว่ายน้ำในลำธารเพื่อผ่อนคลายตัวเอง
การเติบโตทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงของจีน เป็นผลมาจากประชากรชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น ซึ่งพวกเขาได้รับคำสัญญาว่า จะมีความสุขกับความเจริญรุ่งเรือง และช่วยให้บุตรหลานมีชีวิตที่ดีขึ้น หากพวกเขาทำงานหนักพอ อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนรุ่นใหม่ของประเทศ กลับเผชิญกับโอกาสที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง นั่นคือ อัตราการว่างงานของเยาวชนที่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และค่าจ้างต่ำ
ด้วยเหตุนี้ วัฒนธรรมต่อต้านที่เรียกว่า “ถ่างผิง” จึงได้รับความนิยมมากขึ้น ซึ่งมันคือ การปฏิเสธความคาดหวังของสังคม โดยละทิ้งอาชีพการงานและเงินทอง เพื่อมุ่งความสนใจไปยังชีวิตที่เรียบง่ายและความสุข ซึ่งเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น คือคำตอบของผู้ที่แสวงหาสิ่งนั้น
“คนหนุ่มสาวจำนวนมากหางานทำไม่ได้ พวกเขาจึงมาที่นี่เพื่อลดความวิตกกังวล” ผู้อำนวยการโรงเรียนสอนปั้นเซรามิกแห่งหนึ่ง ในเมืองจิ่งเต๋อเจิ้น กล่าว “เซรามิกเข้าถึงได้ง่ายมาก ซึ่งภายใน 2 สัปดาห์ พวกเขาสามารถผลิตชิ้นงานง่าย ๆ และนำไปขายในตลาดได้”
แม้คนรุ่นใหม่ที่มายังจิ่งเต๋อเจิ้น เคยประกอบอาชีพที่ต่างกัน ทว่าพวกเขามีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ ความรู้สึกอยากออกจากชีวิตในเมืองใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยการแข่งขัน ความเครียด ความเหนื่อยล้า เพื่อตามหาชีวิตอีกรูปแบบหนึ่งที่มีความสุขมากขึ้น มีอิสระมากขึ้น และได้พบปะผู้คนที่มีอุดมคติเดียวกัน.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AFP