ข่าวคราวครึกโครมในบ้านเราเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พัวพันกับ “พนันออนไลน์” ทำให้ “การเล่นบอล” ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดในสังคมอีกครั้ง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า “แทงบอล” คือการพนันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดประเภทหนึ่ง

หลายประเทศในโลก การเล่นพนันแทงฟุตบอล เป็นเรื่องถูกกฎหมาย มีบริษัทรับพนันเป็นเรื่องเป็นราว ออกราคาให้คนเข้ามาเสี่ยงโชคในแต่ละนัด และมีกฎหมายที่ควบคุมดูแลอย่างเข้มงวด มีกฎชัดเจนว่าใครเล่นได้ เล่นไม่ได้ ขณะที่รัฐบาลก็จัดเก็บภาษีเข้ารัฐเป็นกอบเป็นกำ

แน่นอนว่า เราไม่สนับสนุนการพนัน และไม่ได้ชักชวนให้คนมาเล่นการพนัน แต่วันนี้ เราจะนำ “ความจริง” ที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเรา โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ที่จะเติบโตเป็นอนาคตของชาติ มาเล่าสู่กันฟัง

ส่วนฟังแล้วจะตัดสินใจกันยังไง เป็นเรื่องของเกี่ยวข้อง และผู้มีอำนาจ เขาจะว่ากันไป

  • ความจริงที่น่าตกใจ –
    ข้อมูลจาก “ศูนย์ศึกษาการพนัน” พบว่า คนรุ่นใหม่ (อายุ 15-25 ปี) ใช้เวลาเล่น “อินเตอร์เนต” เฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมง และ 1 ชั่วโมง ในจำนวนนี้ หรือ 1 ใน 10 เป็นการ “เล่นพนันออนไลน์”

เงินหมุนเวียนในการเล่นพนันออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ อยู่ที่เฉลี่ยปีละ 58,675 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วคนละ 1,633 บาทต่อเดือน

การพนันที่นิยมเล่นมากที่สุดคือ “สลอตแมชชีน/ตู้พนัน” เฉลี่ยปีละ 20,728 ล้านบาท ส่วน “พนันฟุตบอล” อยู่ที่เฉลี่ยปีละ 5,194 บาท

การพนันออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 5 อันดับแรกคือ 1.สลอตแมชชีน/ตู้พนัน 2.หวยใต้ดิน 3.สลากกินแบ่งรัฐบาล 4.ไพ่พนัน 5.พนันฟุตบอล

มินนี่ ผู้ต้องหาคดีเว็บพนันออนไลน์

ที่น่าสนใจคือ คนรุ่นใหม่เริ่มเล่นพนันออนไลน์ครั้งแรกที่อายุเฉลี่ย 19.5 ปี ต่ำสุดที่พบว่าเล่นคือ 12 ปี

และคนรุ่นใหม่ 1 ใน 3 เริ่มเล่นพนันออนไลน์ตั้งแต่อายุไม่เกิน 18 ปี

เหตุผลที่เล่นกันเยอะ และ “หนัก” ขนาดนี้ เดาไม่ยาก นั่นก็เนื่องจาก มันเป็นสิ่งที่ง่าย และใกล้ตัวจนแทบจะกลายเป็นชีวิตประจำวัน

คนรุ่นใหม่ถึง 87.7% บอกว่า พบเห็น หรือได้รับการชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์

ช่องทางที่พบเห็นมากที่สุดก็คือ “เฟซบุ๊ค” มากถึง 84.4%

ส่วนประเภทการพนันที่พบเห็นในโฆษณามากที่สุดคือ “ไพ่พนัน” 58.7% ส่วน “แทงบอล” อยู่ที่ 18.4%

หนักกว่านั้นคือ เมื่อเห็นแล้ว คนรุ่นใหม่ “เกือบครึ่ง” หรือ 43.7% มีความรู้สึกว่า “อยากลองเล่น”

และถึง 96.7% บอกว่า เคยพบเห็นบุคคลแวดล้อมเล่นการนัน มากที่สุดคือพบเห็นจากพ่อแม่ 67.3%

เก็บสถิตินับจนถึงกลางปี 2566 คนรุ่นใหม่ 32.3% หรือราว 3 ล้านคน เคยเล่นการพนันออนไลน์

ในจำนวนนี้ เป็นผู้หญิงก็ไม่น้อยถึง 1.2 ล้านคน ขณะที่ผู้ชาย 1.8 ล้าน

  • สะท้อนให้เห็นอะไร? –
    ความจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด สะท้อนให้เห็นชัดเจนว่า การพนันในบ้านเรา มีแล้ว มีอยู่ และจะมีต่อไป

กิเลสของมนุษย์มีมากมายฉันท์ใด การพนันก็จะคงอยู่กับโลกและทุกประเทศต่อไปฉันท์นั้น คำถามจึงจะอยู่กัมันอย่างไร และทำให้ลดน้อยลงได้ยังไง

อย่าลืมว่า ที่ว่ามาทั้งหมดนั้นเป็นเพียงแค่ “กลุ่มคนรุ่นใหม่” ไม่ใช่คนทั้งประเทศ

และมันจะน่าตกใจมากกว่า ถ้าหากคุณรู้ว่า นับเฉพาะ “ฟุตบอลโลก 2022” เมื่อปลายปีที่แล้ว มีเงินหมุนเวียนในการเล่นพนันบอลถึงรวมถึงราว 11,202 ล้านบาท !

ย้ำอีกครั้งว่า “เราไม่ได้สนับสนุนการพนัน” แต่ในเมื่อมันแก้ไขไม่ได้ ปราบปรามไม่หมด คำถามจึงไม่ใช่ มีหรือไม่มี แต่เป็นจะอยู่ร่วมกันได้ยังไงให้ได้ผลประโยชน์ทุกฝ่าย

“บอสตาล” พงษ์ศิริ ฐาราชวงศ์ศึก อดีตประธานสโมสรลำพูนวอริเออร์ ถูกตำรวจจับกุมข้อหาเปิดเว็บพนันออนไลน์-ฟอกเงิน

การหยิบยกขึ้นมาทำให้มันถูกต้อง มีการตรวจสอบ การเสียภาษี ออกกฎให้ชัดเจนว่าอะไรยังไง เป็นเรื่องที่ถูกยกขึ้นมาพูดกันบ่อยครั้งในหลายวงสนทนา แต่ก็มักจะโดนปัดตกไปเสมอ

เหตุผลคลาสสิกกก็คือเราคือเมืองพุทธ ถ้าทำให้ถูกกฎหมาย ลูกหลานจะอยู่กันอย่างไร

แต่เอาเข้าจริง ที่ทำไม่ได้ เพราะเหตุผลอย่างอื่นมากกว่าหรือเปล่า

เนื่องจากถ้าถูกกฎหมาย หลายฝ่ายคงจะเสียผลประโยชน์ไปมหาศาล หรือถึงขั้นทำให้กลไกลในการทำงานบางอย่างง่อยเปลี้ยเสียขาไปเลยทีเดียว?