ตรวจสถานการณ์น้ำ

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางไปตรวจติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่บริเวณ หมู่ 6 ตำบลสนามชัย อำเภอบางไทร เนื่องจากกรมชลประทานมีการระบายน้ำท้ายเขื่อนแม่เจ้าพระยาสูงขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งมีประมาณ 15 ครัวเรือน จากนั้น ได้เดินทางไปที่วัดบางไทร เพื่อสังเกตการณ์ระดับน้ำในจุดนี้ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำน้อยและแม่น้ำเจ้าพระยาไหลมาบรรจบกันและมุ่งหน้าไปจังหวัดปทุมธานี อีกทั้งเดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ในชุมหมู่ 1 ตำบลกระแชง อำเภอบางไทร ซึ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำจุดนี้ มีทั้งหมด 16 ครัวเรือน โดยมี นายสันต์ สร้อยแสง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ นายธนากร ตันติกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ได้เตือนเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จะทำให้แม่น้ำน้อยมีระดับสูงขี้น ฝากพี่น้องประชาชนติดตามข่าวสารใกล้ชิดด้วย ส่วนนายเฉลิมชัย สระบัว นายอำเภอบางไทร ปลัดอำเภอ ผู้นำท้องถิ่น รายงานสถานการณ์ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำมีปริมาณน้ำสูงขึ้น

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การมาในวันนี้เป็นการเยี่ยมให้กำลังใจชาวบ้านตำบลสนามไชย และตำบลกระแชง โดยได้รับรายงานจาก ผอ.โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ว่าปริมาณน้ำที่ปล่อยท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ประมาณ 1,400 ลบ.ม./วินาที ส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำ ขอให้ฟังข่าวสารจากอำเภอเพื่อเตรียมต (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

วัคซีนเชิงรุก

ที่ผ่านมา เทศบาลตำบลวิหารแดง โดย ท่านนายกอรนุช คูวิจิตรสุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลวิหารแดง จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ประธานสภาเทศบาล สมาชิกสภาเทศบาล และหัวหน้าส่วนราชการ ดำเนินการจัดโครงการ ฉีดวัคซีนเชิงรุก ฯ โดยได้ให้บริการสำหรับประชาชนที่ครบกำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองจำนวน 1000 ราย และให้บริการสำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนเข้ารับวัคซีนเข็มแรกจำนวน 300 ราย รวมทั้งยังสามารถรองรับประชาชนที่ Walk in เข้ามารับการฉีดวัคซีนอีกจำนวน 100 รายด้วยกัน (สมชาติ มานะยิ่งเมต / สระบุรี)

รับตำแหน่งพ่อเมือง

วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วย นางปิติมา รักพานิชมณี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุทัยธานี สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดอุทัยธานี เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี โดยมี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี และหัวหน้าส่วนราชการให้การต้อนรับ

โดยท่านผู้ว่าฯ และนายกเหล่ากาชาด เข้าสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดอุทัยธานี และเข้าถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ จากนั้นเดินทางไปยังวัดสังกัสรัตนคีรี เข้าสักการะหลวงพ่อพุทธมงคลศักดิ์สิทธิ์ และเข้าถวายสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกจากนั้นเดินทางกลับศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี เข้าสักการะพระแสงราชศัสตราวุธประจำเมืองอุทัยธานี และสักการะพระพุทธนวราชบพิตร ประจำจังหวัดอุทัยธานี (ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม / อุทัยธานี )

ร่วมสร้างเมรุวัด

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ทีพีไอ โพลีน มอบหมายให้ นางวิบูลย์ศิริ บุญพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการ สำนักงานบริหารฯ เป็นตัวแทนถวายปัจจัย อุปกรณ์ก่อสร้าง ประกอบด้วย กระเบื้องหลังคาคอนกรีตทีพีไอ,ครอบสันหลังคา,ครอบปิดจั่ว, สีน้ำมันทีพีไอ และปูนซีเมนต์ ทีพีไอ M 402 พร้อมค่าแรง ในการก่อสร้างซุ้มหลังคา คลุมทางเดินขึ้น-ลง เมรุ ให้แก่ วัดศรีบุรีรตนาราม (วัดเพรียว) อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรี รวมงบประมาณ 447,900 บาท ทั้งนี้เพื่อร่วมพัฒนา ทำนุบำรุงพระศาสนา โดย พระเดชพระคุณ พระราชเมธากร ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดศรีบุรีรตนาราม รับมอบ (วิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ / สระบุรี)

สาธารณสุขโยกย้าย

ประชา ธนบัตรวิโรจน์ สาธารณสุขอำเภอวิหารแดง หลังรับราชการมา 34 ปี เศษ จนกลายเป็นชาววิหารแดง ได้ฤกษ์ย้ายไปเป็นสาธารณสุขอำเภอหนองแค โดยมี ร่วม มะโนน้อม จากหนองแค โยกมาแทน มีกำนันวีรวัฒน์ คูวิจิตรสุวรรณ ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านวิหารแดงและชมชมเพื่อนเจมส์ดา พร้อมเพื่อนสนิทมิตรสหายมาร่วมยินดีที่อาคารสำนักงานสาธารณสุขอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี (สมชาติ มานะยิ่งเมต / สระบุรี)

มอบอุปกรณ์แพทย์

ที่ห้องทานตะวัน ศาลากลางจังหวัดลพบุรี พล.อ. สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ประธาน กรรมการโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมด้วย นายวิทยา ผิวผ่อง นายถาวร เทพวิมลเพชรกุล นายสาธิต เหล่าสุวรรณ พล.อ ศุภรัตน์ พัฒนาวิสุทธิ์ นางฉวีรัตน์ เกษตรสุนทร พล.อ. บุญธรรม โอริส สมาชิกวุฒิสภา และ พล.อ. ศุภวุฒิ อุตมะ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้ร่วมส่งมอบวัสดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์และสิ่งของจำเป็น เช่นเครื่องดูดเสมหะเคลื่อนที่แบบเล็ก จำนวน 6 เครื่อง เครื่องวัดความดันโลหิตแบบดิจิทัล จำนวน 5 เครื่อง เครื่องวัดความอิ่มตัวของออกซิเจน จำนวน 25 เครื่อง ถุงมือสำหรับตรวจโรค หน้ากากอนามัย จำนวน 5,000 ชิ้น สบู่เหลวเดทตอล จำนวน 48 ขวด ถุงขยะแพคสีดำ และถุงซิปจำนวน 3,000 ใบ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของโรงพยาบาลในพื้นที่ จ.ลพบุรี โดยมี นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.ลพบุรี นายสุภกิณห์ แวงชิน รอง ผวจ. ผศ(.พิเศษ) นพ.ทศพร ศิริโสภิตกุล ผอ.ร.พ.พระนารายณ์มหาราช และผู้แทนด้านสาธารณสุขร่วมรับมอบ

ทั้งนี้นายนิวัฒน์ ได้รายงานถึงสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ จ.ลพบุรี ว่าถูกกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เนื่องจากมีผู้ป่วยสะสมถึง 12,952 ราย รักษาหาย 9,630 ราย เสียชีวิต 155 ราย ซึ่งกลุ่มผู้ป่วยจะเป็นผู้ที่เดินทางจากต่างจังหวัดเข้ามาในพื้นที่ จากสถานประกอบกิจการ โรงงานต่างๆและผู้ป่วยจากการกักตัวใน LQ และ HQ โดยข้อมูลข้อมูลการฉีดวัควีนให้แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีอยู่ 618,406 คน ได้รับการฉีดวัควีนเข็มที่หนึ่งแล้ว 172,794 คน คิดเป็นร้อยละ 27.94 ซึ่ง พล.อ. สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา ได้รับปากว่าจะพยายามช่วยผลักดันการกระจายวัคซีนมาในพื้นที่จังหวัดลพบุรีให้มากที่สุด (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

เกษียณอายุราชการฯ

พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ วิเชียรสรรศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับ ข้าราชการตำรวจ ผู้ใต้บังคับบัญชา สภ.เมืองสระบุรี (โดยรักษามาตรการป้องกันการติดเชื้อ โควิด) เพื่ออำลาชีวิตราชการตำรวจ โดยมี พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษศิริ ผกก.สภ เมืองสระบุรี มอบของที่ระลึก และถ่ายภาพร่วมกัน ณ ห้องประชุมของ สภ เมืองสระบุรีเมื่อวันก่อน (วิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ / สระบุรี)

เยาวชนสร้างชาติ

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นางสรัลพัชร ประโมทะกะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาผู้นําเยาวชนสร้างชาติ Online หัวข้อ “ค้นหาตัวตนสู่ชีวิตที่มีคุณค่าสูงสุดเพื่อส่วนรวม”เยาวชนสร้างชาติ (NBI-Youth) จังหวัดพระนครศรีอยธุยา โดยมี นายปราโมทย์ ศรีวงศ์สงวน ประธานคณะนักศึกษาหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติ รุ่นที่ 5 ผู้อำนวยการโรงเรียน/วิทยาลัย คณะครู คณะกรรมการจัดงาน และนักเรียนนักศึกษาทุกคน เข้าร่วมพิธีเปิดผ่านระบบ ZOOM เยาวชนสร้างชาติ เพื่อเป็นการรวมพลังเยาวชนที่ ดี เก่ง กล้า ของเยาวชนสร้างชาติในทุกชมรม พัฒนาทักษะความรู้ความเข้าใจในการค้นหาตนเองและต่อยอดไปสู่การเป็นเยาวชนที่ดี เก่ง กล้า ตามอัลักษณ์และเอกลักษณ์ในแบบของตนเอง และเพื่อการสร้างความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องของสมาชิกชมรม และสร้างเครือข่ายเยาวชนสร้างชาติ โดยมีสถานศึกษาที่เข้าร่วม 16 สถาบัน ประกอบด้วย โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4-5 วิทยาลัยระดับ ปวช. 1-2 มหาวิทยาลัยปริญญาตรี 1-3

นางสรัลพัชร ประโมทะกะ กล่าวว่า ขอชื่นชมสถาบันการสร้างชาติและนักบริหารระดับสูงเพื่อการสร้างชาติรุ่นที่ 5 ที่เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาเยาวชนเพื่อเป็นกำลังในการสร้างอนาคตของประเทศเราให้เจริญรุ่งเรือง การจัดค่ายเยาวชนสร้างชาติรุ่นที่ 4 ในภาคกลาง 17 จังหวัดที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรีระหว่างวันที่ 23 – 25 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา หลังจากนั้น ยังได้ดำเนินการให้มีการจัดตั้งชมรมเยาวชนสร้างชาติขึ้นในทุกโรงเรียน เพื่อพัฒนาเยาวชนอย่างต่อเนื่อง โดยสถาบันการสร้างชาติเป็นแหล่งเรียนรู้ของประเทศในเรื่องของการพัฒนาภาวะการนำ ภาวะบริหาร และภาวะคุณธรรม ของบุคลากรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ตลอดจนเยาวชนในระดับมัธยมศึกษา อาชีวศึกษา และอุดมศึกษา ได้มีส่วนร่วมสร้างชาติสู่ความเป็นอารยะประเทศที่พัฒนาทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ที่ยั่งยืนและเสถียรภาพ ต่อไป (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

วันพระราชทานนาม

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ไพศาล บุรินทร์วัฒนา อธิการบดี พร้อมด้วย ผู้บริหาร อาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) ร่วมพิธีถวายราชสดุดี และถวายสัตย์ปฏิญาณ และเยี่ยมชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติ เนื่องในวันคล้ายวันได้รับพระราชทานนาม “ราชมงคล” เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพล อดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “ราชมงคล” ณ ชั้น2 อาคารบูรณมงคล มทร.สุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยา หันตรา(ศูนย์ข่าว ภาคกลาง)

มอบโล่นายอำเภอ

ณ ที่โรงไฟฟ้าวังน้อย ตำบลวังจุฬา อำเภอวังน้อย จังพระนครศรีอยุธยา นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เดินทางเข้าร่วมพิธีมอบรางวัลผู้ทำคุณประโยชน์ ต่อโรงไฟฟ้าวังน้อย ได้แก่ นายวิเชียร จูห้อง นายอำเภอวังน้อย และ Mr.Markus Kuerten ณ โรงไฟฟ้าวังน้อย ต.ข้าวงาม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

นายวิเชียร จูห้อง ย้ายมาดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังน้อย เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 เป็นนายอำเภอที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มศักยภาพของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ ตลอดอายุราชการ 37 ปี ขณะดำรงตำแหน่งนายอำเภอวังน้อยได้นำนโยบายของรัฐบาลและภารกิจของกระทรวงมหาดไทย ไปปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม มีการบูรณาการกับโรงไฟฟ้าวังน้อย ในการพัฒนาชุมชนอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับพี่น้องประชาชนตลอดจนสนับสนุนการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าวังน้อย ให้ความช่วยเหลือและสร้างความเข้าใจระหว่างหน่วยงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กับหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชน และชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าวังน้อย จนทำให้การดำเนินงานของโรงไฟฟ้าวังน้อย ประสบผลสำเร็จด้วยดีเสมอมา นายวิเชียร จูห้อง นายอำเภอวังน้อย จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติ เป็นผู้สร้างคุณประโยชน์ต่อโรงไฟฟ้าวังน้อย ประจำปี 2564 (ชาญ ชูกลิ่น / อยุธยา)

ช่วยเหลืออัคคีภัย

นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา/ประธานกรรมการมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเชิญสิ่งของพระราชทานของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ไปมอบให้แก่ นางจริน อรรถลำ บ้านเลขที่ 98 หมู่ที่ 1 ตำบลวังพัฒนา อำเภอบางซ้าย ที่ประสบอัคคีภัยบ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยมี นายสันต์ สร้อยแสง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ นายปริญ นิทัศน์เอก นายอำเภอบางซ้าย สมาชิกแม่บ้านมหาดไทยประจำจังหวัด กรรมการเหล่ากาชาดจังหวัด ผู้แทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฯ ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัย เนื่องจากเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักอาศัยเสียหายทั้งหลัง จำนวน 1 หลังคาเรือน ซึ่งมีผู้ได้รับความเดือดร้อน จำนวน 1 ราย หลังจากนั้น รองผู้ว่าฯ และคณะ ได้เชิญสิ่งของพระราชทานฯ ไปมอบให้แก่ นายศุภกฤษ หวังที่ชอบ ที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านหีบ อำเภออุทัย ผู้ประสบอัคคีภัยที่บ้านได้รับความเสียหายทั้งหลัง โดยมี นายสมลักษณ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภออุทัย และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธี

นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ กล่าวว่า ด้วยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เชิญสิ่งของพระราชทาน โดยสนองพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชูปถัมภ์ แห่งมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยในความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเบิกจ่ายตามหลักเกณฑ์มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ให้แก่ผู้ประสบอัคคีอัคคีภัยบ้านได้รับความเสียหาย โดยมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ให้ความช่วยเหลือจัดซื้อเครื่องครัว เครื่องนอน มอบให้กับผู้ประสบภัยเพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบภัยดังกล่าว (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)