ก่อนสงครามที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน อิสราเอลกับกลุ่มฮามาสของปาเลสไตน์ ต่อสู้กันครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2564 โดยในเวลานั้น ความรุนแรงลุกลามไปยังเมืองต่าง ๆ เช่น เมืองเอเคอร์ ซึ่งมีทั้งประชาชนชาวยิวและชาวอาหรับอาศัยอยู่ร่วมกัน
ในเมืองเอเคอร์ ซึ่งมีประชากรราว 50,000 คน และตั้งอยู่ตามแนวชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน ทางตอนเหนือของอิสราเอล โรงละครร่วมยิว-อาหรับ และร้านอาหารที่เป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลานาน ถูกเผาทำลายระหว่างการสู้รบในปี 2564
นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ต.ค. จนกลายเป็นสงครามครั้งล่าสุด แต่นายยูริ เยเรเมียส ชาวยิว วัย 79 ปี ยังคงเปิดร้านอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาต่อไป แม้บรรยากาศในพื้นที่จะเงียบเหงาก็ตาม

ทั้งนี้ สมาชิกของชนกลุ่มน้อยชาวอาหรับในอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่ระบุว่าเป็นชาวปาเลสไตน์ มีสัดส่วนประมาณ 20% ของประชากรทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม องค์กรสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มมักเน้นย้ำถึงการเลือกปฏิบัติ ที่ชุมชนอาหรับต้องเผชิญเป็นประจำ ทั้งที่พวกเขาเป็นพลเมืองอิสราเอลเหมือนกัน
วันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสเปิดฉากปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งในอิสราเอลและฉนวนกาซา
ยิ่งไปกว่านั้น อิสราเอลยังปะทะกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์จากเลบานอน ซึ่งเป็นพันธมิตรของกลุ่มฮามาส จนทำให้เกิดการอพยพผู้คนในชุมชนทางใต้ของชายแดนอิสราเอล-เลบานอน ซึ่งเมืองเอเคอร์อยู่ห่างจากจุดสู้รบข้างต้นเพียง 20 กิโลเมตรเท่านั้น
ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้น พล.ต.อ.โคบิ ชาบไต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติของอิสราเอล ชื่นชม “พฤติกรรมที่เป็นแบบอย่าง” ของสมาชิกชนกลุ่มน้อยชาวอาหรับที่ไม่มีความขัดแย้งกับชาวยิว
กระนั้น มันไม่ได้ช่วยบรรเทาความกังวลของชาวเมืองเอเคอร์ได้มากนัก เพราะพวกเขายังคงใช้ชีวิตอยู่กับความกลัวที่ว่า ตัวเองอาจเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต จากการโดนลูกหลงในสงคราม
นายอาลี อาวับตาวี นักธุรกิจ วัย 46 ปี กล่าวว่า “พวกเราทุกคนหวังว่าจะเกิดสันติภาพในสักวันหนึ่ง เพราะไม่มีใครต้องการใช้ชีวิตแบบนี้”.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AFP