ผมเคยไปเล่านิทานกับอดีตนางสาวไทย “คุณอรอนงค์ ปัญญาวงศ์” พอรู้ว่าคุณอรอนงค์เพิ่งเปิดร้านติ่มซำที่ตลาดบองร์มาเช่ ผมไม่รอช้าที่จะไปอุดหนุน และร้านก็เปิดใหม่เอี่ยมจริง ๆ เพราะป้ายร้านยังไม่ได้ติดเลยครับ สำหรับท่านที่อยากจะตามไปชิม ผมจะบอกลายแทงไว้ให้ครับ เริ่มจากถามหาบันไดเลื่อนขึ้นไปชั้น 2 ทางขึ้นบันไดเลื่อนจะเจอร้านเสื้อผ้า “อรอนงค์” พอมองลงไปที่โซนขายอาหารก็จะเจอร้าน 7 ติ่มซำ”

คุณอรอนงค์เล่าให้ผมฟังว่า เลข 7 ถือว่าเป็นเลขสำคัญของร้านนี้ เพราะมีความเชื่อว่าเลข 7 เป็นเลขดี มีหุ้นส่วน 7 คน และเพิ่งเปิดร้านเมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ร้านเริ่มเปิดขายตั้งแต่ 7 โมงเช้าทุกวัน ตอนนี้เมนูของร้านยังมีไม่มากนัก ทยอยเติมกันเข้ามา แต่ทุกเมนูที่ขายอร่อยแน่นอนไม่เหมือนใคร หนึ่งในหุ้นส่วนคือ พี่เจี๊ยบเป็นเชฟและเคยทำร้านอาหารมาก่อน มีลูกสาวจบมาจากโรงเรียนช่างฝีมือในวังหญิง เพราะฉะนั้นจะมีสูตรและเคล็ดลับการทำในแต่ละเมนูที่กินแล้วต้องชอบแน่นอน

เมนูที่ขายในร้าน ได้แก่ ขนมจีบหมูไข่กุ้ง กุ้งนึ่งมะนาว หมูห่อสาหร่ายปู เต้าหู้ออร์แกนิคห่อสาหร่าย เต้าหู้ออร์แกนิคเห็ดเข็มทองห่อสาหร่าย หมูสับห่อสาหร่ายไข่เค็ม ขนมจีบกุ้ง และขนมจีบปู ทุกเมนู 35 บาทเท่ากันหมด ทุกเมนูจะให้คำโต สมกับสโลแกนของร้านว่า 7 ติ่มซำ อร่อยเต็มคำ” และยังมีทีเด็ดคือ นอกจากจะให้จิ๊กโฉ่วที่มีรสเปรี้ยวแล้ว จะมีน้ำจิ้มซีฟู้ดเพิ่มให้ด้วย เพราะทางร้านคิดว่า อยากให้ลูกค้าได้ลองกินติ่มซำกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้านดู จะรู้สึกว่าไม่เลี่ยน แล้วกินได้เรื่อย ๆ

คุณอรอนงค์เล่าให้ฟังว่า เธอผูกพันกับตลาดบองมาร์เช่มานาน เคยมีคลินิกดูแลผิวหน้าที่นี่มาก่อน ต่อมาก็มีร้านเสื้อผ้าที่ขายเสื้อลายลูกไม้แบบไทย ๆ เดิมเคยอยู่ชั้น 2 แล้วย้ายลงมาชั้นล่างก็ยังเปิดอยู่ เมื่อมีโควิด งานแสดงและงานบันเทิงก็ต้องหยุดลง แต่คิดว่าเรื่องธุรกิจเกี่ยวกับอาหารยังพอไปได้อยู่ จึงคุยกับหุ้นส่วนที่รักกันทั้ง 7 คนว่ามาเปิดร้านติ่มซำกันดีกว่า คุณอรอนงค์ชอบกินอะไรที่รวดเร็ว ปรุงเสร็จใหม่ ๆ ถ้ามาขายที่ตลาดบองมาร์เช่น่าจะดี เพราะมีที่จอดรถสะดวกสบาย คนไม่แออัดจนเกินไป แบ่งโซนขายของชัดเจน แล้วที่คนชอบมาอุดหนุนคึกคักคือ โซนฝั่งอาหาร มีของหลากหลาย มีร้านเจ้าดัง ๆ และมีของกินอร่อย ๆ เยอะ

ร้าน 7 ติ่มซำเปิดตั้งแต่เช้าเพราะลูกค้าบางคนออกกำลังกายเสร็จจะมาแวะซื้อไปกินเป็นอาหารเช้าหรือนำไปใส่บาตร มื้อเที่ยงกับมื้อเย็น ลูกค้าก็จะมากหน่อย ต้องใจเย็น ๆ นิดนึง ส่วนใหญ่จะเดินมาสั่งแล้วชำระเงินไว้ ลูกค้าก็จะไปเดินซื้อของอย่างอื่นก่อน พอ 15 นาทีก็วนมารับของได้เลย ที่ร้านจะนึ่งสด ๆ ให้ทันทีหลังจากลูกค้าสั่ง จะซื้อกลับบ้าน หรือจะนั่งกินในตลาดก็ได้ โชคดีที่ตอนนี้มีมาตรการปลดล็อกแล้ว ลูกค้ามานั่งรับประทานอาหารที่นี่มากขึ้น เพราะอากาศโปร่งสบายและมีการจัดโต๊ะที่เว้นระยะห่างด้วย

นอกจากติ่มซำแล้ว คุณอรอนงค์แนะนำ “ขนมจีบโบราณ” ให้ผมลองชิม สังเกตว่าขนมจีบนี้ลูกจะเล็กกว่าขนาดปกติ คุณอรอนงค์เล่าว่า ขนมจีบโบราณจะมีขนาดเล็กห่อยากกว่าและต้องพิถีพิถัน ไส้จะเป็นหมูผสมเนื้อแห้วและกุ้งแห้ง กินแล้วรสชาติจะแตกต่างไม่เหมือนกับขนมจีบหมูทั่วไป กัดแล้วจะกรอบ ๆ มีกลิ่นและรสเป็นเอกลักษณ์ น้ำจิ้มมีความพิเศษไม่ได้ใส่แต่จิ๊กโฉ่วหรือซอสเปรี้ยวอย่างเดียว…อยากให้ลอง

ผมซื้อติ่มซำกลับบ้านมาทุกเมนูเลยครับ รวมทั้งขนมจีบโบราณด้วย ผมกับลูกชายชอบพวกขนมจีบหมูไข่กุ้ง กุ้งนึ่งมะนาว หมูห่อสาหร่ายปู หมูสับห่อสาหร่ายไข่เค็ม ขนมจีบกุ้ง และขนมจีบปู แล้วเอามาจิ้มกับจิ๊กโฉ่วสลับกับน้ำจิ้มซีฟู้ด แซ่บดีครับ ส่วนภรรยาชอบแนวสุขภาพ เพราะฉะนั้นจะถูกใจเต้าหู้ออร์แกนิคห่อสาหร่ายและเต้าหู้ออร์แกนิคเห็ดเข็มทองห่อสาหร่ายมาก และเราทั้งบ้านชอบขนมจีบโบราณ รสชาติอร่อย ส่วนน้ำจิ้มแปลกดี ใส่เนื้อพริกด้วยแน่นอน เพราะลูกและภรรยากินแล้วซี้ดซ้าด ใครสนใจลองไปอุดหนุนร้าน 7 ติ่มซำกันได้ครับ https://www.facebook.com/7-ติ่มซำ-110129364739176

อ้อ…แล้วใครจะสั่งกลับบ้าน ถ้ามีภาชนะมาด้วย ทางร้านจะยินดีมาก ๆ เลยครับ ถือว่าช่วยกันรักษ์โลก ไม่สิ้นเปลืองการใช้ภาชนะพลาสติกครับ

*คุณอรอนงค์ไม่ใส่หน้ากากเฉพาะช่วงถ่ายภาพเท่านั้น

………………………………………..
คอลัมน์ : ก้อนเมฆเล่าเรื่อง
โดย “น้าเมฆ”
https://facebook.com/cloudbookfanpage