นายสุทินตอบว่า 1.เอาที่ดินซึ่งอยู่ในความครอบครองของหน่วยทหารทั่วประเทศ ตรงโน้นหมื่นไร่ ตรงนี้พันไร่ มาให้ประชาชนทำกิน

2.ทำโปรโมชันล่อใจให้คนมาสมัครเป็นทหาร ถ้าสมัครกันมาก ๆ เท่าที่ความต้องการทหารในแต่ละปี ก็ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร (จับใบดำ-ใบแดง) โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องแก้กฎหมายเพื่อยกเลิกเกณฑ์ทหาร

3.ลดจำนวนนายพล ซึ่งที่ผ่านมาเป็นการลดตามธรรมชาติ ให้ “ยศ” อย่างเดียวจึงลดจำนวนได้น้อย แต่ถ้ามีเงินล่อใจ จะสามารถลดจำนวนนายพลได้อย่างรวดเร็ว

รมว.กลาโหมบอกด้วยว่าการ “ปฏิรูปกองทัพ” ตามเสียงเรียกร้องคงทำแบบโครมครามไม่ได้ เพราะเท่าที่สัมผัสกันมา ทหารก็รู้ว่าประชาชนคิดอย่างไร…เขาเข้าใจ แต่สุดท้ายปลายทางแล้วเขาก็มี “ศักดิ์ศรี” นะ!

“แต่ถ้าทำ 3 ข้อในข้างต้นได้สำเร็จ ถือว่าเป็นการปฏิรูปกองทัพแบบเงียบๆ ไม่ต้องโครมครามหรือเปล่าล่ะ” รมว.กลาโหม ถาม! โดยเฉพาะการลดนายพล คงทำปุ๊บปั๊บไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป โดยอีก 1-2 ปีข้างหน้าจะมีเกษียณราชการกันมาก ขณะเดียวกันต้นทางคือโรงเรียนนายร้อยต่างๆ ก็ปรับลดการรับนักเรียนกันอยู่

 แต่ถ้าจะให้ลดแบบวูบวาบ ต้องใช้งบปีละ 500 ล้านบาท เป็นเงินล่อใจเพื่อให้ “เออร์ลี่” กันมาก ๆ

“พยัคฆ์น้อย” คุยกับนายพลหลายคน หลายครั้ง ได้ความรู้ว่าจำนวนทหารประจำการทั้งหมดในประเทศไทย ณ ขณะนี้ มีนายพลทั้ง 3 เหล่าทัพ (บก-เรือ-อากาศ) รวมกันไม่เกิน 400 คน พอแล้ว! พูดง่ายๆว่านายพล 1 คน ต่อทหารยศน้อยลงไปประมาณ 450-500 คน ( (1:500)

ในยุคที่โอกาสเกิดสงครามระหว่างประเทศ-สงครามขนาดใหญ่แทบเป็นศูนย์! มีแค่ 7 กองพลรบหลัก (7กองกำลัง) เพียงพอแล้ว โดยแต่ละกองกำลังต้องใช้คนที่เก่งทางด้านเทคโนโลยี เนื่องจากสงครามสมัยใหม่สู้รบกันแบบไม่เห็นตัว  แต่ใช้อาวุธยิงจากระยะไกล และใช้โดรนเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

ดังนั้นจึงต้องลดนายพล ลดหน่วยงานทหารที่มีภารกิจซ้ำซ้อนกับกระทรวงอื่น ๆ-หน่วยงานท้องถิ่น เพื่อเอางบประมาณเหล่านี้มาพัฒนาเสริมประสิทธิภาพ 7 กองกำลังรบ ให้จิ๋วแต่แจ๋ว

เนื่องจากภารกิจหลักของทหาร คือการป้องกันประเทศจากภัยนอกประเทศ และเตรียมกำลังให้พร้อมในยามที่ไม่มีภัยจากนอกประเทศ ส่วนงานอื่นๆเป็นภารกิจรอง หรือเป็นฝ่ายสนับสนุนเมื่อมีการร้องขอ เช่น การบรรเทาสาธารณภัยช่วยเหลือประชาชนถูกน้ำท่วม-ภัยแล้ง

ส่วนการจัดงบติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ใช้กับเครื่องสูบน้ำ งบทำโรงไฟฟ้าชีวมวลในค่าย งบติดตั้งกล้องวงจรปิด เหมือนที่เคยโผล่มาเมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว อย่าให้มีอีก

เนื่องจากบางกรณีและบางพื้นที่ไม่ใช่ภารกิจจริงๆ บางจุดทำทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ใช้งานไม่ได้ ตามที่เคยปรากฏเป็นข่าว ดังนั้นต้องคอยดูว่าการจัดงบปี 67 จะมีการตั้งงบไปทำโครงการแปลกๆ ที่ไม่ใช่ภารกิจหลักหรือไม่

เอาเป็นว่าอะไรที่ลึกเข้ามาจากชายแดน ต้องปล่อยให้ผู้ว่าราชการจังหวัด-หน่วยงานท้องถิ่นเขาทำกันไป ส่วนทหารที่ไม่ใช่ 7 กองกำลังรบ ต้องพยายามลดบทบาทและตัดงบประมาณซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นออกไป!!.