ยามนี้ชื่อ ชัย บ่อกรุ หรือ ณัฐนัย ดวงแก้ว ติดลมบนไปหลายปีแล้ว ในฐานะผู้ชำนาญและนักสะสมพระเครื่องยอดนิยมในสายสุพรรณบุรี และพระหลัก ๆ หลายเกจิคณาจารย์
ชัย เป็นชาวบ่อกรุโดยกำเนิด มีพี่น้องรวม 7 คน ชาย 3 คน หญิง 4 คน ชัยเป็นคนสุดท้อง อาชีพหลักครอบครัวเดิมคือ ทำไร่ทำนา เรียนจบ ป.6 โรงเรียนบ้านลาด ก็ไปต่อ ม.3 โรงเรียนบ่อกรุวิทยา แล้วไปเรียนวิทยาลัยเกษตรสุพรรณบุรี (สถาบันเทคโน โลยีสุพรรณบุรีปัจจุบัน) เริ่มทำงานในบริษัทเอกชนตำแหน่งซูเปอร์ไวเซอร์ ออกแบบงานจัดสวน ทำได้ 4-5 ปี ลาออกไปเป็นเซลส์ขายสารเคมี 2 ปี และลงเล่นการเมืองท้องถิ่น เป็นเลขานุการนายกสังกัดหนึ่ง ชีวิตพลิกผันเข้าวงการพระเครื่องนับจากนั้น
“แรงบันดาลใจ เกิดจากความผูกพันแต่วัยเด็ก ปู่ พ่อ มีวิชาติดตัวเรื่องอาบน้ำมนต์ ดูดวงชะตา และตั้งศาลพระภูมิสายเขมร สมัยเด็ก ๆ พ่อให้คล้องพระบอกกันผีได้ กันหมากัด จนปู่และพ่อจากไป โดยสั่งเสียไว้ว่าอย่าเรียนวิชาเลย อาคมเขมรแรง แต่จำคำสอนได้ขึ้นใจ หากเราปฏิบัติตัวดี มีสัมมาคารวะ รู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน ให้เกียรติคนอื่น เราก็อยู่ได้ในสังคม”
“ประสบการณ์เกี่ยวกับพระ สมัยเป็นเซลส์ 3 วันแรกขายของไม่ได้เลย มีลุงชาวอุทัยธานีแนะนำให้บนหลวงพ่อเคลือบ วัดหนองกระดี่ ใช้เหล้าขาว 1 ขวด มะขามเปียก 1 ก้อน เกลือ 1 ถุง ก็ลองทำดู วันนั้นขายได้ 10 ร้านและขายดีมาก ๆ ทำให้ศรัทธาพระ เข้าวงการไปหาเช่าบูชา หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สมัยนั้นดูไม่เป็น โดนหลอกมาก็เยอะ สุดท้ายค่อย ๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ อาศัยผู้ใหญ่แนะนำในการสะสม อาทิ พี่ใหญ่ อู่ทอง อาจารย์แดง วัดฝาโถ พระอาจารย์ลอย วัดบ่อกรุ นายศักดิ์ชัย จันทร์ใหม่มูล นายกเทศบาลตำบลบ่อกรุ ก็เลยเล่นพระเรื่อยมา ตอนนี้เก็บไว้หลากหลาย”
ชัย ตบท้ายด้วยว่า ทุกวันนี้ได้รับความไว้วางใจจากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน จัดหาพระเครื่องให้ตลอดตามวาระต่าง ๆ พวกปีใหม่ เกษียณอายุราชการ แต่งตั้งโยกย้าย ขอฝากแง่คิดไว้ว่า เล่นพระสมัยนี้ ง่ายกว่าเมื่อก่อนเยอะ ทั้งเรื่องการดูพระ แม้แต่การเช่าซื้อ โดยการผ่านสื่อออนไลน์ มีทั้งดีและไม่ดีอยู่ในตัวมัน ที่สำคัญถ้ามีที่ปรึกษาดี อาจารย์ดี เพื่อนพ้องน้องพี่ดี ตัวเราต้องดีพร้อม มีสัมมาคารวะ ให้ความเคารพผู้ใหญ่ นอบน้อมถ่อมตนสำคัญสุดครับ.
พุทธานัง
