7 ต.ค. 2566 เป็นวันที่กลุ่มฮามาสเป็นฝ่ายเปิดฉากโจมตี และรุกรานถึงแผ่นดินอิสราเอล นักรบฮามาสหลายพันคนเข้ามาก่ออาชญากรรมสงคราม เข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ทำร้าย และลักพาตัวประชาชน แม้เวลาล่วงเลยมา 1 เดือนแล้ว แต่สถานการณ์ที่้เกิดขึ้นทั้งหมดยังเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจ มีผู้เสียชีวิตในอิสราเอลมากกว่า 1,400 ราย จากโศกนาฏกรรม ซึ่งเป็นผลจากการก่อการร้ายที่เกิดขึ้น

นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย

ยิ่งไปกว่านั้น มีความเป็นไปได้สูงมาก ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากยังมีร่างอีกจำนวนไม่น้อยซึ่งยังไม่ผ่านการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล พฤติการณ์ของกลุ่มฮามาสทำให้อิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่น นอกเหนือจากการต้องเข้าสู่สงคราม การโจมตีอันป่าเถื่อนและโหดเหี้ยมของกลุ่มฮามาส ผลักดันให้อิสราเอลต้องเข้าสู่สงคราม

ดังนั้น สิ่งที่อิสราเอลกำลังดำเนินการ คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนว่า “นับจากนี้จะไม่มีกลุ่มฮามาสอีกต่อไป” ขณะเดียวกัน “กลุ่มฮามาสต้องไม่ปฏิบัติการอยู่ในฉนวนกาซาอีกต่อไป” ที่หมายความรวมถึง กลุ่มฮามาสจะไม่มีสิทธิปกครอง และไม่สามารถเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดไว้ภายในฉนวนกาซาได้อีก หรือพูดให้ง่ายคือ กลุ่มฮามาสต้องไม่มีตัวตนอีก และทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มฮามาสต้องออกไปให้ห่างจากชายแดนของอิสราเอล

แม้กลุ่มฮามาสกำหนดโครงสร้าง ว่ามีทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายบริหาร แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่อย่างนั้น สำหรับอิสราเอล กลุ่มฮามาสคือ “องค์กรก่อการร้าย” สมาชิกทุกคนของฮามาส ไม่ว่าจะเป็นแกนนำหรือสมาชิกทั่วไป ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่เกิดขึ้นกับอิสราเอล โดยเฉพาะบรรดาแกนนำที่ซ่อนตัวอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน ซึ่งเป็นการกระทำที่ขี้ขลาดอย่างมาก

อาชญากรรมสงครามที่กลุ่มฮามาสก่อขึ้นครั้งนี้ สร้างผลกระทบสือบเนื่องไม่เพียงแต่กับทั้งประชาชนในอิสราเอล แต่ยังรวมถึงชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาด้วย อิสราเอลขอยืนยันว่า ไม่เคยมีเจตนาทำร้ายพลเรือนในฉนวนกาซา กองทัพอิสราเอลประกาศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นสงคราม ขอให้มีการอพยพลงไปทางใต้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสกลับต้องการใช้ผู้บริสุทธิ์เหล่านี้เป็นโล่มนุษย์ นอกจากนี้ กลุ่มฮามาสยังซ่อนตัวอยู่ตามโรงเรียน โรงพยาบาล และพื้นที่ซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น

ชาวปาเลสไตน์ในภาคเหนือของฉนวนกาซา อพยพตามเส้นทางปลอดภัยที่กำหนดโดยกองทัพอิสราเอล เพื่อไปยังพื้นที่ทางใต้

ขณะเดียวกัน กลุ่มฮามาสไม่ได้สังหารเฉพาะชาวอิสราเอล แต่ยังทำร้ายและเข่นฆ่าชาวต่างชาติ รวมถึงชาวไทย จับตัวประกันไปด้วยเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีคนไทยรวมอยู่ด้วย ประชาคมโลกจึงควรแสดงจุดยืนที่จริงจังร่วมกัน กดดันให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันทั้งหมดโดยปราศจากเงื่อนไข

อิสราเอลเป็นประเทศที่ยึดมั่น และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด จนถึงตอนนี้ รัฐบาลและกองทัพยังคงเปิดทาง ให้มีการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าผิดหวังอย่างยิ่ง ว่าความสนับสนุนดังกล่าวไม่เคยไปถึงตัวประกัน ที่กำลังรอความช่วยเหลือ

อิสราเอลต้องการแยกแยะระหว่างพลเรือนผู้บริสุทธิ์ กับสมาชิกกลุ่มฮามาส จึงเป็นเหตุผลให้มีการประกาศเส้นทางปลอดภัยออกมาเป็นระยะ แน่นอนอิสราเอลจำเป็นต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซาก แต่ในเวลาเดียวกัน ขอเน้นย้ำว่า อิสราเอลไม่เคยพุ่งเป้าไปที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ อิสราเอลขอเรียกร้องให้สหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมมากกว่านี้

สถานการณ์ที่อิสราเอลกำลังเผชิญ ย่อมเป็นไปไม่ได้แน่นว่า จะมีประเทศใดอยู่เฉย การดำเนินการของอิสราเอล “คือการใช้สิทธิอันชอบธรรม” เพื่อปกป้องตนเอง เพราะสงครามครั้งนี้เป็นผลจากการที่อิสราเอลเป็นฝ่ายถูกรุกรานก่อน บนแผ่นดินของตัวเอง และอิสราเอลจะดำเนินการด้วยความอดทน จนกว่าจะสามารถกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้หมดไป

อิสราเอลขอเน้นย้ำว่า สงครามครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับชาวปาเลสไตน์ หรือกับชาวอาหรับ แต่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส อิสราเอลเป็นประเทศที่ต้อนรับประชาชนจากทุกเชื้อชาติและศาสนา ปัจจุบันราว 20% ของประชากรในอิสราเอลเป็นชาวมุสลิม ประชาชนกลุ่มนี้ร่วมประณามการก่อการร้ายของกลุ่มฮามาสเช่นกัน นี่คือสิ่งที่อิสราเอลพยายามสื่อสารกับชาวโลกมาตลอด ว่าคู่สงครามครั้งนี้ คือกลุ่มฮามาสเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สมรภูมิในเวลานี้ไม่ได้มีเพียงเฉพาะในฉนวนกาซา กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ซึ่งมีฐานอยู่ในภาคใต้ของเลบานอน ยิงจรวดข้ามพรมแดนมายังภาคเหนือของอิสราเอลไม่เว้นแต่ละวัน การกระทำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์มีเจตนาชัดเจน ว่าต้องการเปิดแนวรบใหม่ แน่นอนอิสราเอลไม่ต้องการแนวรบใหม่ แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อการยิงจรวดข้ามมาจากฝั่งเลบานอนยังคงเกิดขึ้น

ตอนนี้ในอิสราเอลมีแรงงานไทยทำงานอยู่ราว 30,000 คน อิสราเอลมีความเสียใจอย่างสูงสุด ต่อการเสียชีวิตของแรงงานไทยทุกรายในสงครามครั้งนี้ ในส่วนของครอบครัวของแรงงานที่เสียชีวิต ซึ่งมีมากกว่า 30 ราย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอิสราเอลจะให้ความดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่กระบวนการบางขั้นตอนอาจล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่ปกติ

อิสราเอลให้ความดูแลชาวไทยทุกคนในระดับเดียวกับพลเมืองอิสราเอล อิสราเอลหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ตัวประกันชาวไทยมากกว่า 20 คน จะได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัย และเดินทางกลับบ้านอย่างสวัสดิภาพ ในเวลาเดียวกัน อิสราเอลขอบคุณและซาบซึ้งใจ กับการที่แรงงานไทยบางส่วนสมัครใจทำงานต่อ

แรงงานไทยถือเป็นกระดูกสันหลังให้กับภาคการเกษตรของอิสราเอล อิสราเอลหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้มีโอกาสต้อนรับแรงงานไทยทุกคนอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์กลับคืนสู่สภาวะปกติ.

ภัทราพร ไพบูลย์ศิลป

เครดิตภาพ : AFP

ขอขอบคุณ : สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย