@เริ่มต้นที่การเดินทาง”ลงใต้” โดยมี”หมุดหมาย” ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา ของ”เศรษฐา ทวีสิน “ นายกรัฐมนตรี เพื่อพบกับ”ดาโต๊ะ ตันสรี อัลวาร์ อิมราฮิบ” นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย เพื่อการประชุมร่วมมือในการ”พัฒนาเศรษฐกิจชายแดนภาคใต้” โดยเฉพาะในกรณีของ”ด่านศุลกากรสะเดา”แห่งใหม่ ที่”สร้างเสร็จ” หลายปีแล้วแต่ยังเปิดใช้ไม่ได้ เพราะยังไม่มีการ”เชื่อมต่อ” กับ”ด่านศุลกากรมาเลเซีย” ที่”บูกิ๊ตกายูฮีตำ” ฝั่งมาเลเซีย แต่ถึงจะมีการ”หารือ” ระหว่าง”ผู้นำทั้งสองประเทศ” แล้วก็จริง แต่กว่าจะเปิดใช้ได้ก็ยังต้องรอถึงปี 2567 และกว่าจะ”สมบูรณ์”จริงๆ ก็ โน่น ปี 2568 แต่ก็ถือว่า”โอกาสดี” ที่ผู้นำทั้งสองประเทศ ได้มีการ”พบปะสนทนา” ในปัญหาระหว่างประเทศ ที่”คาราคาซัง” มาหลายปี จะได้หมดเรื่อง”ที่ทำการ”ศุลกากรตาบอด” เสียที…..
@ส่วนปัญหาใหม่ ที่ ประชาชนใน เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ที่เมือง”เมืองชายแดน” ติดกับ”มาเลเซีย” ยื่นเรื่อง”ร้องขอ” ให้ ด่านศุลกากรแห่งใหม่ เป็น “เส้นทางของรถบรรทุกขนส่งสินค้า” เพียงอย่างเดียว ส่วนรถของ “นักท่องเที่ยว” ให้ผ่านเส้นทาง”ด่านศุลกากรเก่า” เพราะหาก ให้รถยนต์ทุกชนิด ใช้ เส้นทาง”ด่านศุลกากรใหม่” ธุรกิจการค้าขาย การลงทุน ใน เขตเทศบาลตำบลสำนักขาม ต้องได้รับผลกระทบ เพราะพื้นที่ชายแดนใน เทศบาลตำบลสำนักขาม มีโรงแรม รีสอรต์ ทั้ง เล็ก ใหญ่ ถูกต้อง และ” ผิดกฎหมาย” นับร้อยแห่ง มี สถานบันเทิงทุก ตรอก ซอก ซอย” มี ร้านค้าหลายร้อยแห่ง ถ้าปล่อยให้”รถทัวร์” รถของ นักท่องเที่ยว ไปใช้”ด่านใหม่” ชาวบ้าน,นายทุน ก็จะ”เจ๊งกันระนาว” ก็เป็น”หน้าที่” ของ “ท้องถิ่น” ที่ต้องร่วม”จังหวัด” ในการ แก้ปัญหา เพื่อให้”มีกรอบ” ของ”น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ไม่ใช่ทุกปัญหา ต้องให้”รัฐบาล” หรือ”นายกรัฐมนตรี”มา”แบกรับ” ไม่อย่างนั้น “ผู้ว่าราชการจังหวัด,นายอำเภอ,นายกเทศบาล” จะมีไว้เพื่ออะไร จริงมั้ย “ สมนึก พรหมเขียว” ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา…..
@แต่ที่น่าสังเกต ในการ”หารือ” ระหว่าง”นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศ” ไม่มีเรื่องของ”ความมั่นคง” เกี่ยวกับความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เกี่ยวกับการ”ขับเคลื่อนการเจรจาสันติภาพ” ระหว่าง”รัฐบาลไทย” กับ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” ที่มี”รัฐบาลมาเลเซีย” ทำหน้าที่ในการ”อำนวยความสะดวก” หรือเป็นเพราะเรื่องนี้”เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ได้มีการ”พูดคุยหารือ” กับ”ดาโต๊ะ ตันสรี อัลวาร์ อิมราฮิม ในการเดินทางไปประชุมที่ “สหรัฐอเมริกา” ก่อนหน้านี้ ซึ่ง”ทั้งสอง ได้มีการ”หารือ”แบบ”ปิดลับ” ถึง 30 นาที หรือ เหมือนๆกับทุก “รัฐบาล” ที่ผ่านมา ที่เรื่อง”สำคัญที่สุด” อย่างเรื่อง”บีอาร์เอ็น” ที่ตั้ง”ฐานที่มั่น” ใน”มาเลเซีย” แต่มีการ”ปฏิบัติการ” ก่อการร้ายใน จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นเรื่องที่ต้องหารือ”ใต้โต๊ะ” เพราะการหารือ”บนโต๊ะ” เป็นเรื่อง”แสลง”ของผู้นำประเทศมาเลเซีย…….
@แต่การ”ขับเคลื่อน” การ” พูดคุยสันติสุข” หรือ”การเจรจาสันติภาพ” แล้วแต่ฝ่ายไหนจะให้คำ”นิยาม” ก็มีการ ดำเนินการอย่างเป็น”รูปธรรม” จาก รัฐบาลนิดหนึ่ง” แล้ว เพราะมีการแต่งตั้ง”ฉัตรชัย บางชวด” รองเลขาธิการสภาความมั่นคง ( สมช.) ที่ “ชวด” ตำแหน่ง “เลขาธิการสภาความมั่นคง” เพราะต้องเปิด”ตำแหน่ง” ให้ “ พล.ต.อ.รอย อิงคโพโรจน์” รอง ผบ.ตร. ผู้”ชวด” ตำแหน่ง ผบ.ตร. ไป นั่งในตำแหน่ง “เลขาธิการสภาความมั่นคง ( สมช.) ก่อน 1 ปี ก่อนเกษียณอายุราชการ ดังนั้นการแต่งตั้งให้”ฉัตรชัย บางชวด” ทำหน้าที่”หัวหน้าคณะเจรจากับขบวนการแบ่งแยกดินแดน” จึงเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง 1 เป็น ครั้งแรกที่”หัวหน้าคณะพูดคุยฯ” เป็น “พลเรือน” 2 .”ฉัตรชัย บางชวด” รอง เลขาธิการสภาความมั่นคง ( สมช.) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการ”พูดคุย”หรือการ”เจรจา” กับ “ขบวนการแบ่งแยกดินแดน” มาเป็นเวลานานหลายปี ”รู้แจ้ง เห็นจริง” กับ”เหลี่ยม คู เล่ห์กล” ของ”บีอาร์เอ็น, มาเลเซีย” และ “ องค์กรต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น” เจนีวาคอลล์” หรือ” ไอซีอาร์ซี” และอีก”หลายกลุ่ม” ที่เข้ามา”แทรกแซง” ใน”ขบวนการสันติภาพ” ของไทย และ 3 เป็นการให้”รางวัล”กับ” ฉัตรชัย บางชวด” ที่ “ชวด” ตำแหน่ง”เลขาธิการสภาความมั่นคง( สมช.) ได้”สั่งสม” ประสบการณ์ ก่อนที่จะได้ขึ้นเป็น”ตัวจริง” ของ” สภาความมั่นคงแห่งชาติ และ คณะ”พูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้” มี ผู้แทน”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ทำหน้าที่เป็น”กรรมการ”และ”เลขานุการ” ……
@ก็ดู”ทหาร”ที่”เกษียณอายุ”แล้ว ทำหน้าที่”หัวหน้าคณะพูดคุยฯ” มาแล้ว หลายคน ตั้งแต่” พล.อ.อักษรา เกิดผล, พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ, พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์” แต่ถูกมองว่า”ขบวนการพูดคุย” เหมือนกับ”พายเรือในอ่าง”วนไปวนมา”ไปไหนมาสามวาสองศอก” ครั้งนี้เมื่อ หัวหน้าคณะพูดคุยเป็น”พลเรือน” ผลงานจะ”เข้าตาประชาชนหรือไม่ โดยเฉพาะ ณ วันนี้” นายกรัฐมนตรี” เศรษฐา ทวีสิน” ก็เป็น” พลเรือน” รัฐมนตรีกลาโหม” สุทิน คลังแสง” ก็เป็น” พลเรือน” และ”ฉัตรชัย บางชวด” หัวหน้าคณะพูดคุย ก็เป็น”พลเรือน” สมใจของ”นักวิชาการ,เอ็นจีโอ,และ”ภาคประชาชนสังคม ที่ออกมา”เรียกร้อง”ให้”พลเรือน” ทำหน้าที่ของ”คณะพูดคุยฯ ก็ติดตามกันต่อไปว่า”สุดท้าย” ผลที่ออกมาจะสามารถทำให้”จังหวัดชายแดนภาคใต้” กลับคืนไปสู่ความ”สงบสุข”หรือไม่ และที่”ท้าทาย” การใช้”เวทีการพูดคุย” จะเป็นทางออกของการ ”ดับไฟใต้” ได้ตามที่”นักวิชาการ,และ”เอ็นจีโอ.” คาดหวังหรือไม่…..และที่ต้องติดตามต่อไปคือ”ฝ่ายของ”บีอาร์เอ็น” จะมีใครบ้างที่เป็น”คณะพูดคุยฯ” ยังจะเป็น”คณะพูดคุยชุดเดิม” ที่ถูก ตั้งข้อสังเกตว่า เป็น”บีอารเอ็น” ก็จริง แต่หลังการเปิดตัวเป็น”คณะพูดคุยฯ ก็มีการ”ปลดออก” จากตำแหน่ง”บริหาร” ของขบวนการฯ จึงไม่มีอำนาจในการที่จะ”ตัดสิน” ว่าจะ”เยส” หรือ”โน”ในเวทีของการ”พูดคุย” ที่ผ่านมา ซึ่งมีข่าว”วงใน” แจ้งว่า” ในการ”ขับเคลื่อน” เวทีการ”พูดคุยสันติสุข” ครั้งนี้ จะมีผู้ที่เป็น”ผู้นำ”จิตวิญญาณ”เป็น “หัวหน้าคณะ ถ้าเป็นจริง นี่คือ”สัญญาณ” ที่ดีของเวทีการ”พูดคุยสันติสุข” ที่อาจจะมองเห็น”จุดหมายปลายทาง” หรือ” แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์”……
@สังคมไทย”ป่วยไข้” และต้องหาทาง”เยียวยา” ก่อนที่จะ”โคม่า” ยิ่งกว่านี้ มีอย่างที่ไหนที่ “สังคม” ต่าง”เห็นใจ” และ”ยกย่อง” เชาวลิต ทองด้วง หรือ”เสี่ยแป้ง” ที่เป็น”อาชญากร” มีการ”ก่อคดีมากมาย” โดยตนเอง และเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง โดยข้อเท็จจริง” เสี่ยแป้ง” ทำผิดกฎหมาย และใช้เงินในการ”ติดสินบน” เจ้าหน้าที่เพื่อให้”พ้นผิด” แต่เมื่อเกิดข้อ”ผิดพลาด” และถูกพวกเดียวกัน”หักหลัง” เพื่อ”เอาตัวรอด” จึงทำให้”เสี่ยแป้ง” วางแผน”หลบหนีจาก”เรือนจำ” เพื่อ”แก้แค้น” พวกเดียวกันที่”หักหลัง” และ”เชิดเงิน” ที่ใช้ในการ”ล้มคดี” ดังนั้น”เสี่ยแป้ง” จึงไม่ใช่”คนดี” ที่ สังคมจะไป”ยกย่อง”…..วันนี้สังคม”ชื่นชม”และ”เชียร์” เสี่ยแป้ง เหมือนกับคดี”น้องชมพู่”กับ”ลุงพล” และเหมือนกับคดี”ดาราที่หล่นจากเจ๊ตสกี” ที่ “สังคม” ไม่เชื่อถือ”ตำรวจ” ทั้งที่”ตำรวจ” มีหลักฐานที่”ชัดเจน”ว่า เรื่องจริง เป็นอย่างไร เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ต้องให้”น้ำหนัก” ในการที่ต้องกู้”วิกฤติศรัทธา” ของ”ประชาชน” ที่มีต่อ”สถาบันตำรวจ”……
@ถูกต้อง คดีนี้”เสี่ยแป้ง” หรือ”เชาวลิต ทองด้วง” ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคนที่ร่วมทำผิดอีก 5 คนและผู้ร่วมก่อเหตุได้รับการ”ประกันตัว” ในชั้นการ”พิจารณาคดี” และถูก”สั่งไม่ฟ้อง”ในขณะที่”เสี่ยแป้ง” นอกจากไม่ได้รับการประกันตัวแล้ว ยังถูก”สั่งฟ้อง” เมื่อ”พิจารณา”อย่างถี่ถ้วน จะพบว่าขบวนการยุติธรรม” ทั้งแต่”ต้นน้ำ”คือ”ตำรวจ” ที่เป็น ผู้จับกุม ผู้กล่าวหา ผู้สอบสวน และ ผู้ส่งฟ้อง มี”พฤติกรรม” ที่” ไม่ชอบมาพากล” ตั้งแต่การจับกุม”นักค้ายาเสพติด”ที่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี และ ขยายผลมาจับ”นายจรวด” ที่บ้านพักใน จ.พัทลุง” และมีการ”ต่อรอง” ที่ต่างฝ่ายต่างกล่าวหากัน ถึงเรื่องการ”ติดสินบน” จนนำมาสู่การ”วางแผน”ให้ “เสี่ยแป้ง” คุม”ลูกสมุนโจร” ไปชิงตัว”นายจรวด” นักค้ายาเสพติด ในจุด”นัดพบ” ที่ อ.ควนขนุน” จ.พัทลุง “ นอกจาก”ชิงตัวผู้ต้องหา” แล้วยังมีการ”ชิงอาวุธปืน” และ”โทรศัพท์” มือถือของ”ตำรวจ” มาด้วย และ”ตำรวจ” ที่ถูก “ชิงผู้ต้องหา”และ”ชิงปืน ชิงโทรศัพท์” ยังไม่มีการ”แจ้งความ” ในทันทีทันใด แต่กลับมีการ”เจรจา” ขอ”ปืนและโทรศัพท์” คืนจาก”เสี่ยแป้ง” ก่อนที่จะมีการ” แจ้งความ”เพื่อ”เอาผิด” กับ “เสี่ยแป้ง” “พลพรรค” จำนวน 7 คน ทั้งที่มีคน ร่วมก่อเหตุ” 20 กว่าคน…..
@และหลังที่”เสี่ยแป้ง” และพวก เข้ามอบตัวเพื่อ”ต่อสู้คดี” ก็มีการอ้างว่า”จ่ายเงิน” จำนวนหนึ่ง เพื่อ”ล้มคดี” และที่ทำให้”ประชาชน”เชื่อว่ามีการ”ใช้เงิน” เพื่อ”ล้มคดี” เป็นความจริง” เพราะคดีนี้ สั่ง”ไม่ฟ้อง” ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน แต่เมื่อมีการส่งสำนวนให้”อัยการภาค 9” มีการ”เห็นแย้ง” จนทำให้มีการ”สั่งฟ้อง” ผู้ต้องหา 2 คน นั้นคือ” เสี่ยแป้ง” และ”นายจรวด” และนี่เป็น”ชนวนเหตุ” ที่”เสี่ยแป้ง” อ้างว่าไม่”ยุติธรรม” และต้อง”หลบหนีเรือนจำ” มาทวงถามความ”ยุติธรรม” จาก” เจ้าหน้าที่บ้านเมือง” เพราะคนทั้ง 7 รวมกันทำผิด”กฎหมาย” แต่กลับ”หลุดรอดร่างแห”ของ”กฎหมาย”….ก็ ถูกต้องแล้วที่ “คดีเสี่ยแป้ง” ต้องนำมา”พิจารณา” กันใหม่ ถ้ามี”หลักฐานใหม่” โดย “สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ”รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม” พ.ต.อ” ทวี สองส่อง” ถึงกับ”เชิญชวน” ให้”เสี่ยแป้ง” มอบตัว เพื่อเข้าสู่ขบวนการ”ทวงคืนความชอบธรรม”ของ”กฎหมาย…..
@คดีนี้ใหญ่กว่า คดีของกำนันตุ้ม ที่ จ.นครปฐม เพราะคดี “กำนันตุ้ม” ผู้”เสียหาย” มีเพียง”ตำรวจ”ที่”เสียชีวิต” และ “สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ที่”เสียชื่อเสียง” เพราะปล่อยให้”กำนัน” ใหญ่กว่า”ผู้กำกับ” และ”สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” แต่คดี”เสี่ยแป้ง” ทำให้”ขบวนการยุติธรรม” เสียหายทั้งระบบ โดย ประชาชน เชื่อว่า มีการ”ซื้อ-ขาย” สำนวนคดี นี่คือความ”เสียหาย” ใน”ขบวนการยุติธรรม” ที่ทำให้ ประชาชนขาดความเชื่อถือ ซึ่งเป็นหน้าที่ของ”กระทรวงยุติธรรม” ที่จะต้องมีการ”สังคายนา” ครั้งใหญ่ จากคดีที่”เสี่ยแป้ง” เรียกร้อง…..ที่สำคัญ”เสี่ยแป้ง” จะ”เรียกร้อง” ผ่านทาง”สื่อ” อย่างเดียวไม่ได้ เพราะ”สื่อ” ไม่มีหน้าที่” ดังนั้นถ้า”เสี่ยแป้ง” จะขอ”คืนความชอบธรรม เพื่อให้คนทำ”ทำผิด” ทุกคน ได้รับโทษเหมือนกับ”เสี่ยแป้ง” เสี่ยแป้ง ต้องมอบตัว เพื่อทำหน้าที่เป็นโจทย์ เป็นผู้”เสียหาย” ในคดีนี้ แต่ถ้า”เสี่ยแป้ง” ยัง หลบหนี เรื่องการ”คืนความชอบธรรม” ก็เดินหน้าต่อไม่ได้ และ”เสี่ยแป้ง” ต้อง”หลบหนี” จนกว่าจะสิ้นอายุความ พร้อมทั้งถูก”ไล่ล่า” ทั้งจาก” เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ซึ่งจะมีการถูก”วิสามัญ” สูงยิ่ง รวมทั้ง”เสี่ยแป้ง” ถูก”ไล่ล่า” จากผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ เพื่อการ”ปิดปาก” ดังนั้น ทางออกเดียวของ”เสี่ยแป้ง” คือการ”มอบตัว” เพื่อให้พ้นจาก”ความตาย”และ”พิสูจน์ความจริง”..….ส่วนใครที่”ช่วยเหลือ” ให้”เสี่ยแป้ง” หลบซ่อนในบ้าน”ในตระ” อย่างปลอดภัย เชื่อว่าวันนี้” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผบ.ตร. และ”ผู้ช่วยแมน” คงจะรู้แล้วว่า “เกลือเป็นหนอน” เกิดจาก” ตำรวจคนไหน ที่ ลอบให้การช่วยเหลือ”เสี่ยแป้ง” ให้ รอดพ้นจากการถูก” วิสามัญ” บนเทือกเขาบรรทัด และ ก็คงรู้แล้วว่า “บุคคลใด” ที่ให้ความช่วยเหลือพา”เสี่ยแป้ง” หนีจากพื้นที่”บ้านในตระ” หลังจาก”ปะทะ” กับ”ตำรวจ” ก็ต้องรอดูว่าจะมีการ”เช็คบิล” คนใน”สีเดียวกัน” อย่างไร……
@ถามกันจังถึงเรื่องการแจกเงิน 10,000 บาท หรือโครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” เพื่อให้ประชาชนนำไป”ใช้จ่าย” เพื่อการ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” ของ”รัฐบาลนิดหนึ่ง” ซึ่ง”นายกรัฐมนตรี” เศรษฐา ทวีสิน” ผลักดันเรื่องนี้อย่าง”เต็มสูบ” โดยไม่ฟังเสียงของ”ผู้เห็นต่าง” ซึ่งสุดท้ายก็ต้องรอให้ ขบวนการทางกฎหมาย “ ชี้ขาด” นโยบาย”กู้เงินมาแจกประชาชน” ทำได้หรือไม่ แต่ดู”แนวโน้ม”แล้วข้อ”กฎหมาย” น่าจะผ่าน และถ้า นำเข้าสภาฯ เพื่อขอ”มติ” ก็คงจะ”ฉลุย” เพราะ พรรครวมรัฐบาล ยังต้องการ”เกาะกลุ่ม” เป็นรัฐบาลให้ยาวนานที่สุด ไม่มีใครอยากให้รัฐบาล”อายุสั้น” เพราะ พรรคการเมืองทุกพรรค ต้องมีการ”สะสมเสบียงกรัง” เพื่อการ”เลือกตั้งในอีก 4 ปีข้างหน้า ก็บอกกับ ประชาชน ว่า เงิน 10,000 บาท ที่”รัฐบาล” แจกฟรี ได้ใช้แน่แต่ช้าหน่อย ใจเย็นๆ นะโยม…..วันนี้ต้องเห็นใจรัฐบาลของ” เศรษฐา ทวีสิน” ที่เข้ามาบริหารประเทศได้เพียง 3 เดือน ที่มีปัญหามา”รุมเร้า”มากมายเหมือน 3 ปี โดยเฉพาะปัญหา “เศรษฐกิจ” ที่ อุตส่าห์ ใช้นโยบาย” ฟรีวีซ่า” ให้กับประเทศจีน เพื่อต้องการให้”ชาวจีน” มา เที่ยวประเทศไทยให้มากที่สุด แต่”สุดท้าย” นอกจาก” ตัวเลขของการคาดการณ์จะ”ห่างไกลความเป็นจริงแล้ว” สายการบิน 10 บริษัทของประเทศจีน ยัง”ยกเลิกไฟล์บิน” มาประเทศไทยอีกต่างหาก และที่”ต้องจับตามอง” คือ นโยบาย”ฟรีวีซ่า” ของ”รัฐบาลจีน ที่ยกเว้นการ”ขอวีซ่า” เข้าประเทศจีน เพื่อทำธุรกิจ เพื่อการท่องเที่ยว เยี่ยมญาติเป็น เวลา 15 วัน ให้กับประเทศต่างๆ 6 ประเทศ และ 1 ใน 6 ประเทศ มี”มาเลเซีย” ที่เป็น”เพื่อนบ้าน”ของประเทศไทย แต่ไม่มีประเทศไทยใน 6 ประเทศนั้น ถามว่า”รัฐบาลจีน” คิดอะไร และ”รัฐบาล”ของ”เศรษฐา ทวีสิน” คิดอย่างไร…..
@รวมทั้งเรื่องของโครงการ”แลนดบริดจ์” หรือการก่อสร้าง”สะพานบก” เชื่อม “มหาสมุทรอินเดีย” กับ”ทะเลจีนใต้ “ เข้าด้วยกัน ที่ จ.ชุมพร และ จ.ระนอง มีข่าวว่า “รัฐบาลจีน” ไม่ให้ความสนใจ แต่”รัฐบาลจีน” กำลังมองหา “ช่องทาง” อื่นๆ ในการ”ขนส่ง” ประเด็นนี้ ก็ต้องถามว่า การ”ส่งสัญญาณ” ของ”รัฐบาลจีน” ที่ส่อไปใน”ทางลบ”ต่อประเทศไทยหลายเรื่อง มาจากปัญหา”เรือดำน้ำ” ที่ “รัฐบาลไทย” ทำการ”ชักเข้าชักออก” จนทำให้”รัฐบาลจีน” ส่ง”สัญญาณ”ของความ”ไม่พอใจ” ใช่หรือมั้ย และถ้าใช่” เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี จะแก้ไขอย่างไร……
@เรื่องการท่องเที่ยวในประเทศ หลังจากที่”สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง” มีการยกเลิกการ ”เขียนคำร้อง ตม.6” ที่ ด่านพรมแดน อ.สะเดา จ.สงขลา ทำให้การเดินทางของ”นักท่องเที่ยว”จาก”มาเลเซีย-สิงคโปร์” มีความ”สะดวก” และไม่ต้อง”เสียเบี้ยใบ้รายทาง” ให้กับ”นายหน้า” ผู้”รับจ้าง” เขียนเอกสาร ตม.6 ทำให้นักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามายัง จ.สงขลาเพิ่มขึ้นถึง 30 กว่า %…..ดังนั้นเรื่อง”เอกสาร ตม.6” ต้องมีการ”ยกเลิก” ในทุกด่านพรมแดน โดยเฉพาะที่ ด่านตรวจคนเข้าเมือง” ที่ อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งวันนี้มีนักท่องเที่ยว จากต่างชาติ “หลั่งไหล” เข้ามา “ท่องเที่ยว กำลังจะ”ทะลุ 1 ล้านคน” และนอกจากต้องเขียน”เอกสาร ตม.6 “ ที่ ทำให้เกิดความ”ล่าช้า” แล้วยังมีการ เปิด”ช่องทาง”ให้ “เข้าเมือง” เพียงช่องทางเดียว ที่เรียกว่า”ช่องทางวีไอพี” ซึ่ง “นักท่องเที่ยว” ให้ข้อมูลว่า คำว่า”ช่องทาง วีไอพี” คือ”หัวละ 200- 300 บาท เท็จจริงอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่ต้องมีการ”ตรวจสอบ”……
@โยกย้าย ตำแหน่ง ผู้ว่าการจังหวัดครั้งล่าสุดของ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม รอง ผวจ.ปัตตานี ก็ได้รับการพิจารณาให้ไปขึ้นเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด นราธิวาส ทำให้ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้มี “ผู้ว่าราชการจังหวัด”ครบทุกจังหวัด…..ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ก็เป็นไปตามคาดคือ”ทรงกลด สว่างวงศ์ รอง ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ขยับขึ้นเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดแทน “ขจรศักดิ์ เจริญโสภา” ที่”ตกม้าตาย” ต้องออกจากราชการ จากเรื่อง”จัดซื้อจัดจ้าง” เรื่องตรวจจับวัตถุระเบิด”อัลฟ่า” หรือ”ทีจี 200” และ” สมชาย หาญภักดีปฏิมา” รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และ “นริศ นิรามัยวงศ์ รองผู้ว่าจังหวัดนครสวรรค์ เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นการ “ขยับ” รองผู้ว่าราชการจังหวัด ให้เป็น ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งสิ้น……
@คดีการ”ก่อวินาศกรรม” ร้านทองใน อ.ตากใบ” และ “ก่อวินาศกรรม” สถานที่ต่างๆ 8 จุด ใน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ในคืนวันที่ 21 ต.ค. 66 วันนี้มีความคืบหน้าแล้ว เมื่อ พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รอง ผบก. ภ.จว.นราธิวาส แถลงข่าวว่า มีการ”ออกหมายจับ” ผู้ก่อเหตุชุดแรก ที่มี”หลักฐาน” สาวไปถึง จำนวน 4 คน และที่อยู่ระหว่างรวบรวบหลักฐานเพื่อออกหมายจับอีก 3 คน เมื่อ”ป้องกันการก่อเหตุ”ไม่ได้ หลังการก่อเหตุ มีการ”จับกุม” หรือ”ออกหมายจับ” ได้ ก็คือเป็น”ประสิทธิภาพ”ของการ”สืบสวนสอบสวน” วันนี้ผู้ต้องหาทั้งหมด อาจจะ”หลบอยู่” ใน”มาเลเซีย” แต่ วันหนึ่งก็ต้อง”จับได้” เพราะ”คนร้าย” เหล่านี้ “ข้ามไป-มา” ระหว่าง ไทย และ มาเลเซีย เป็นประจำ….
@ฝนตกหนัก และ “น้ำท่วม” ใน หลายพื้นที่ของ จ.นราธิวาส และ ปัตตานี นอกจาก” เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง”และ”ท้องถิ่น” ที่ ออกให้การช่วยเหลือ”ประชาชน” ผู้ที่”เดือดร้อน” จากเรื่อง”น้ำท่วม” แล้ว ก็เห็น”กำลังพล” ของ”กองทัพภาคที่ 4 “ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ที่มี”ความพร้อม” ทั้ง “กำลังพล” และ”ยานพาหนะ” ที่ ลงพื้นที่ทันท่วงที และที่สำคัญ”ถุงยังชีพ” ที่ให้ความ”ช่วยเหลือ” ต่อประชาชน อย่างทันท่วงที และ นี่คือคำตอบว่า”ทหารมีไว้ ทำอะไร” และทั้งหมดคืน “นโยบาย” ในงานด้าน”มวลชน” ของ “พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 และ”ผอ.กอ.รมน.ภาค 4….ความ”ยุติธรรม” ที่ต้อง”ดิ้นรน” เพื่อ”เรียกร้อง” แม้จะต้องใช้เวลายาวนานถึง 12 ปี สุดท้าย คดีที่ “พลทหาร”วิเชียร เผือกสม” ถูก”ซ้อมทรมาน”จนเสียชีวิต จาก”ครูฝึก” ในค่ายทหารใน จ.นราธิวาส ก็มีการ”พิพากษา” ให้”จำเลยทั้ง 7 นาย ได้รับโทษ ตามที่ญาติของผู้เสียชีวิตเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งทำให้เห็นว่า”ความเป็นธรรม” มีอยู่จริง แต่บางครั้งต้อง”ออกแรง” ในการ”เรียกร้อง” และต้องใช้เวลาในการ”รอคอย”..…
@เห็นความ”ขยันขันแข็ง” ของ” พ.ต.ท.วรรณพงศ์ คชรักษ์ “ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.) ที่ “เดินสาย” ลงพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพบกับผู้นำ” องค์กร” และ”บุคคล” สำคัญ ในพื้นที่ เพื่อการ”แสวงหาความร่วมมือ” ในการ”พัฒนา”เพื่อให้เกิด”สันติสุข” และความ”อยู่ดีกินดี” ของคนในพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้ ก็คงเห็นชัดถึง “นโยบาย” ของ “ศอ.บต.” ในการ”ขับเคลื่อน” งานด้านต่างๆ ที่ต้อง”ตอบโจทย์” ของ ปัญหา และ ของคนในพื้นที่…..มีผู้”หวังดี”ต่อประเทศชาติ ส่ง”จดหมาย” และ”ภาพถ่าย” การโค่นป่าที่สมบูรณ์ ในนิคมสร้างตนเองท้ายเหมือง จ.พังงา ในพื้นที่ 50 ไร่มาร้องเรียน ซึ่ง ” วิไลวรรณ บุญอามร” ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเอง” อ้างว่าเป็นการ “ไถพื้นที่” เพื่อการ”ทำการเกษตร” ปลูกผัก ปลูกหญ้า” แต่ ปัญหาที่ ชาวบ้าน”ข้องใจ” คือ” ได้มีการ”ขออนุญาตโค่นป่าที่มีความสมบูรณ์ต่ออธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ถูกต้อง และได้รับการ “อนุมัติ” แล้วหรือไม่ และ”ข่าวว่า” เป็นการโค่นป่าเพื่อ”ทำสวนปาล์ม” เป็นความจริงหรือไม่ และเป็น”สวนปาล์ม” ของใคร เรื่องนี้ต้องสร้างความ”กระจ่าง” ให้กับสังคมโดยเร็ว อย่าให้ความ”สงสัย” กลายเป็นเรื่องของ”ไฟลามทุ่ง” นะ”ผู้ปกครอง”…
@กระทรวงอุตสาหกรรม จัดงานเทศกาลสินค้าอุตสาหกรรมภาคใต้ (Industrial Fair) ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ ลานอเนกประสงค์ ตลาดเสาร์-อาทิตย์ ถนนพัฒนาการคูขวาง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช โดย รัฐมนตรีอุตสาหกรรม พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เป็นประธานเปิดงาน จุดประสงค์ของงานก็เพื่อส่งเสริมสินค้าอุตสาหกรรมภาคใต้ ในโครงการนี้จะมีบูธจำหน่ายสินค้ากว่า 300 บูธ ซึ่งผู้เข้าชมงานครั้งนี้จะมีโอกาสซื้อสิ้นค้าในราคาโปรโมชั่นพิเศษ อาทิ ถ่ายน้ำมันเครื่องรถมอเตอร์ไซค์ฟรีวันละ 75 คัน นอกจากนั้นท่านผู้ชมงานมีโอกาสชมคอนเสิร์ตการแสดงของศิลปินดัง ๆ 5 วันเต็ม…
@วันก่อน “ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล” นายกสมาคมหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย (สนต.) นำคณะ”สื่อมวลชน” และ”ผู้ประกอบการท่องเที่ยว” จากประเทศมาเลเซีย และ อินโดนีเซีย มา”ทัศนศึกษา” สถานที่ท่องเที่ยว และดูงานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งข้อเท็จจริง ที่เกี่ยวกับการแก้ปัญหา”ความมั่นคง” ได้รับการ”ต้อนรับ” อย่างดียิ่งจาก “อำพล พงษ์สุวรรณ์” ผู้ว่าราชารจังหวัดยะลา พ.จ.ท. อนันต์ บุญสำราญ รอง ผวจ. และ “เอก ยังอภัย ณ สงขลา “ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา “สกุล เล็งลัคค์กุล” นายกเทศมนตรีเบตง และ”โตหอง แซ่หลี” นายกสมาคมการท่องเที่ยว และ “ผู้จัดการ”สวนหมื่นบุปผา ที่สร้างความประทับใจ ให้กับ”สื่อมวลชน” ของทั้งสองประเทศ เป็นอย่างยิ่ง ก็ต้องกล่าวคำว่า”ขอบคุณ” อีกหลายๆ ครั้ง….. เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต. ) และ” พล.ท.ศานติ ศกุลตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ที่ให้ความสำคัญ ให้เวลา”คณะสื่อมวลชนทั้งสองประเทศ” เข้าพบ และ บรรยายถึงเรื่องของการการ”พัฒนา” และเรื่องของ”ความมั่นคง” ที่”สื่อมวลชน” ต่างเข้าใจถึงข้อเท็จจริง นี้แหละ ที่เรียกว่า”สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น” แล้วพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้า สวัสดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก

ป้องกันการลักลอบ. พล.ท.ศานติ ศกุลตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ลงพื้นที่ ชายแดน อ.กระบุรี จ.ระนอง เพื่อติดตาม ป้องกันการลักลอบขนยางเถื่อนข้ามประเทศเข้ามาขายในประเทศ และการลักลอบค้ายาเสพติด ตามนโยบายของ ผบ.ทบ.

พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผบ.กองพลทหารราบที่ 15 / ผอ.ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วยคุณสมฤดี ขำเขียว ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองพลทหารราบที่ 15 เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี ณ ที่พักสงฆ์อัมพวัน บ้านสะพานเคียน ต.สะท้อน อ.นาทวี จ.สงขลา

เปิดหลาดเก่า. มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา เปิดตัวกิจกรรม “เปิดหลาดเก่า” ยะลาเมือง เมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) ได้รับเกียรติจาก วิศาล จิรภาพงพันธ์ รอง นายกเทศมนตรีนครยะลา เปิดกิจกรรม “เปิดหลาดเก่า” โครงการวิจัยการยกระดับและขับเคลื่อนเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) โครงการวิจัยเรื่อง การพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อยกระดับเศรษฐกิจด้วยสถาปัตย์วัฒนธรรมผ่านพื้นที่การเรียนรู้เมืองเก่ายะลา โดยมี ผศ.ดร.ดุษฎี นาคเรือง ในฐานะหัวหน้าโครงการ , ณ สถานีรถไฟยะลา

มอบรางวัล. อำพล พงศ์สุวรรณ ผวจ.ยะลา มอบโล่เกียรติยศให้แก่เด็กและเยาวชน ที่เข้าร่วมกิจกรรมด้านคนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนไทยไร้สโตรค ตามที่ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช ให้จังหวัดจัดมอบโล่รางวัลเกียรติยศแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ซึ่งได้มีการมอบโล่รางวัล จำนวน 11 รางวัล และมอบเกียรติบัตรแก่สถานศึกษา จำนวน 18 สถานศึกษา ที่มีนักเรียน นักศึกษา ร่วมขับเคลื่อนกิจกรรมคนรุ่นใหม่ ณ ห้องประชุมศรียะลา อ.เมือง จ.ยะลา

ฝึกทักษะ. ที่สนามกีฬาฟุตบอลหญ้าเทียม ร.ร.เตรียมศึกษา จ.ปัตตานี บริษัท ปตท. ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ และสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ได้จัดโครงการ PYN Yong Soccer เยาวชนฟุตบอลไทย 3 ชายแดนใต้ โดยมี กริช อิทธิโชติกร ผู้อำนวยการโครงการ PYN Young Soccer 3 ชายแดนใต้ จัดการแข่งขันฟุตบอลให้กับเยาวชนปัตตานี เพื่อสนับสนุน และส่งเสริมให้เด็ก และเยาวชน ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาตนเองเพื่อก้าวสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพ

พบผู้บริหาร. พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแเดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พบผู้บริหารมหาวิทยาลัยฟาตอนี นำโดย รศ .ดร.อิสมาแอล ลุตฟีจะปะกียา อธิการบดี เพื่อหารือทิศทางการพัฒนาการศึกษาให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น ณ มหาวิทยาลัยฟาตอนี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

ทุนการศึกษา. ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สส.เขต 4 สงขลา พรรคพลังประชารัฐ พร้อม โดมเดช ขุนกลับ นายก อบต.บ่อแดง และคณะผู้บริหาร ได้ร่วมเป็นเกียรติมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์การเรียน และอุปกรณ์การกีฬาให้กับเด็กนักเรียน ณ โรงเรียนวัดบ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา

แถลงข่าว. พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แถลงข่าวเปิดตัว แพลตฟอร์ม เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ การจัดการเมืองอัจริยะ ของเทศบาลเมืองยะลา โดยมี พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศบาลนครยะลาให้การต้อนรับ และ สกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองเบตง ร่วมงาน ณ อุทยานการเรียนรู้ เทศบาลนครยะลา

น้ำท่วม. ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก.อบจ.สงขลาพร้อม ผอ.ทางหลวงชนบท ผอ.กองช่างอบจ.สงขลาลงพื้นที่ ต.สทิ้งหม้อ และ ต.ทำนบ เพื่อติดตามปัญหาน้ำท่วมพร้อมช่วยเหลือความเดือดร้อนเบื้องต้นต่อไป

สินค้าชุมชน. ชูชีพ ธรรมเพชร รอง ผวจ.สตูล และปุณณานันท์ ทองหยู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูลร่วมเปิดงานมหกรรมสินค้าชุมชนและการท่องเที่ยวของเครือข่ายการท่องเที่ยวระดับประเทศ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลหาดใหญ่ จ.สงขลา

พัฒนาสังคม. โสพิญฐ์ สุวรรณหงส์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดโดย ชาลี เมืองนก นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาท่ามใต้ กล่าวรายงาน คณะอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาครอบครัวจังหวัดตรัง หน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. (One Home) จังหวัดตรัง สภาเด็ก และเยาวชน จ.ตรัง อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ครูและนักเรียนโรงเรียนวัดนานอน เจ้าหน้าที่ อบต.นาท่ามใต้ เข้าร่วม ณ โรงเรียนวัดนานอน ต.นาท่ามใต้ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง

ชี้แจงโครงการ. ทรงกลด สว่างวงศ์ ผวจ.ตรัง เป็นประธานเปิดการประชุมชี้แจงโครงการเพิ่มทักษะด้านอาชีพแก่นักเรียนที่ไม่ได้เรียนต่อหลังจบการศึกษาภาคบังคับ จังหวัดตรัง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ที่ห้องประชุมศรีตรัง ชั้น 2 อาคารอำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคตรัง ต.บ้านควน อเมืองตรัง จ.ตรัง

ติดตามปัญหา. พ.อ.กฤษฎา คงพันธุ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดตรัง ลงพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ติดตามประสานงานรับฟังปัญหาขัดข้องและแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีผลต่อการขับเคลื่อน ในการสืบสาน รักษา และ ต่อยอดโครงการอ่างเก็บน้ำเขาพลูพร้อมระบบส่งน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมกับมอบหนังสือให้กับห้องสมุดของอุทยานฯ ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อ.สิเกา จ.ตรัง

ห่วงใย. พาตีเมาะ สะดียามู ผวจ.ปัตตานี พร้อมด้วย โอฬาร บิลสัน นายอำเภอเมืองปัตตานี ไปแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้สูงอายุที่จมน้ำเสียชีวิต ในการนี้ ผวจ.ปัตตานี ได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่งร่วมทำบุญให้กับครอบครัว ณ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี

ปล่อยปลา. ปรีชา นวลน้อย รอง ผวจ.นราธิวาส เปิดงานการรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลากุเราใน จ.นราธิวาส ตามโครงการเพาะปลากุเราปล่อยลงแม่น้ำตากใบ โดยมี เรวัตร คงประดิษฐ์ ประมง จ.นราธิวาส น.อ.กาจ บุญวิทยา รอง ผอ.ศรชล.จ.นราธิวาส ศรชล.ภาค 2 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลนราธิวาส บ้านปูลาเจ๊ะมูดอ หมู่ที่ 5 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส

เยี่ยมหน่วย. อมร ชุมช่วย นายอำเภอยะหา จ.ยะลา พร้อมด้วย ทีมงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ตำบลละแอ ณ มัสยิดนูรุลฮูดา หมู่ 1 บ้านละแอ ต.ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา