E3 มหกรรมเกมที่เรียกได้ว่าใหญ่เเละเก่าเเก่ที่สุดงานนึงของวงการเกมส์เลยก็ว่าได้ ซึ่งหากพูดว่าจะดูเกมออกใหม่ เกมที่ไม่เคยเล่นหรือ Gaming Gear ล้ำๆ ต้องไปดูที่ไหนก็ต้องบอกว่า งาน E3 Expo นี่เเหละที่มีครบคัน เเล้วทำไมในวงการเกมที่กำลังเติบโตรวมถึงในปีนี้ก็เรียกได้ว่าเป็น “ปีทอง” ของวงการเกมเลยก็ว่าได้ เเต่ E3 กลับซบเซาเเละประกาศเลิกจัดงานไปซะอย่างนั้น วันนี้ Inside The Games จะพาไปเจาะลึกไปหาคำตอบกันครับ

งาน E3 คืออะไร?

E3 Is Permanently Canceled

งาน E3 หรือ Electronic Entertainment Expo เป็นมหกรรมเกมเเละเเสดงสินค้าเกี่ยวกับเกม ซึ่งอธิบายสั้นๆคือในงานนี้ ผู้เผยแพร่และผู้ผลิตเกมส์ เเละ Gaming Gear เจ้าใหญ่เจ้าดังมักจะนำเกมฟอร์มยักษ์ หรือ Gaming Gear ใหม่ๆมาเเสดงให้ชาวเกมเมอร์ทุกคนได้รับชมนั่นเองซึ่งเจ้าใหญ่เจ้าดังที่ว่า ก็มีทั้ง Sony PlayStation,Nintendo,SEGA,Microsoft,EA ฯลฯ โดยมี The Entertainment Software Association (ESA) เป็นเเม่งาน

โดยในงาน E3 เริ่มต้นในปี 11–13 พฤษภาคม 1995 ณ Los Angeles Convention Center เเละก็จัดมาเรื่อยๆ ในตอนเเรกนั้นให้เพียงผู้จัดจำหน่ายหรือผู้ผลิตเกมเกมมาพบปะกันเท่านั้น จนมาพีคที่สุดในปี 18–20 พฤษภาคม 2005 ซึ่งสถิติการเข้าร่วมงาน E3 ครั้งสูงสุดในประวัติศาสตร์ ถึง 70,000 คน เลยทีเดียว

จุดเปลี่ยนสำคัญสู่คราอวสานงาน E3 – การปรับตัวของเเต่ละค่ายเกม

สัญญาณเเรกของการล่มสลายของงาน E3 นั่นคือการที่เเต่ละค่ายเกมเริ่มจะใช้พื้นที่สื่อเเละชื่อเสียงของตัวเองในการโปรโมทเกมมากขึ้น โดยเจ้าเเรกที่นำเทรนด์นี้ในปี 2013 นั่นคือ Nintendo ที่เริ่มใช้การบันทึกเทปตัวอย่างเกมเเล้วนำมาเปิดในงานมากขึ้น เเต่ก็ยังไม่ได้ออกไปเเบบเต็มตัวเสียทีเดียว เพราะในปี2014 ที่ E3 เปิดให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าชมพร้อมผู้ปกครองทาง Nintendo มียังแผง Nintendo Kids Corner E3 2014 มาอยู่เลย

ส่วนที่ออกมาเป็นค่ายเเรกๆนั่นคือ Electronic Arts หรือ EA ที่จัดงาน EAPLAY ก่อนหน้าที่ E3 จะจัดงานโดยเริ่มเมื่อปี 2016 จากนั้น ในปี 2019 ก็เป็นปีเเรกที่ Sony จะประกาศไม่เข้าเร่วมงาน E3 เเถมยังเลือกที่วิดีโอที่บันทึกไว้ตลอดทั้งปีเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ของ Sony เเทน เเละต่อด้วย Nintendo ที่ประกาศไม่เข้าร่วม E3 ตั้งเเต่ปี 2020 หลังจากที่เกิดโรคระบาด COVID-19 2 ปี เเละหลังไปให้ความสำคัญกับ Nintendo Direct เเทน ซึ่งต่อมาทาง Sony ก็ยังไปเผย Game Trailer ใน State Of Play หรือ PlayStation Showcase เเทน รวมถึงเจ้าอื่นๆ อย่าง Ubisof, Bethesda ก็จัดงานของด้วยเองด้วยเช่นกัน

Rumour: Sony Set for Two PS5 Showcases Soon, as State of Play Rumours Return | Push Square

เเถมอีกส่วนหนึ่งที่บริษัทยักษ์ใหญ่ไม่เข้าร่วมเพราะไม่อยากแข่งขันในงานมากนัก เพราะการแถล่งข่าวในงาน E3 สื่อต่าง ๆ พากันเปรียบเทียบว่าใครโชว์ผลงานได้ดีกว่ากัน ถ้าโชว์ไม่ดีนอกจากเปลืองทุนเยอะแล้วยังส่งผลแง่ลบอีกต่างหาก 

จุดเปลี่ยนสำคัญสู่คราอวสานงาน E3 – COVID19

Free photo closeup of epidemiologist with covid19 sample in test tube

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า COVID19 คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่ายเกมต่าง ๆ พากันยกเลิกไม่มางาน ในช่วงปี 2019 เป็นปีที่ โควิดระบาดค่อนข้างหนัก ทำให้ความเสี่ยงที่ทีมงานของทางค่ายเกม จะติดเชื้อโควิดจากการเดินทางมายังต่างประเทศที่ไกลแสนไกล แถมงานก็เป็นงานเกมที่มีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก ต่อให้บริหารจัดการดีแค่ไหนก็ยังมีความเสี่ยงก็มีมากเกิน 80 % เลยทีเดียว

นอกจากนี้เเล้วหลังสถานการณ์ COVID ได้ผ่านพ้นไปเเล้วทางผู้จัดงาน E3 พยายามกลับมาจัดงานในรูปเเบบ On-side อีกครั้งเเต่ล้มเหลวด้ทั้งในปี 2022 เเละ ปี2023 ด้วยเหตุผลข้อเเรกนั่นคือการปรับตัวของค่ายเกมที่เริ่มจัดงานหรือให้ความสำคัญในงานของตัวเองมากขึ้น เพราะการลงทุนกับงาน E3 ก็มีความเสี่ยงว่าจะไม่คุ้มทุนเเล้วด้วย เรียกได้ว่า COVID เป็นตัวกระตุ้นให้เเผลที่เคยปิดไว้เปิดออกมาอีกครั้ง

จุดเปลี่ยนสำคัญสู่คราอวสานงาน E3 – ความไม่เป็นงานของ ESA

The Death of E3 Signals the End of Gaming's Most Extravagant Era | WIRED

ในช่วงตลอดเวลาที่ผ่ามาตั้งเเต่การจัดงานครั้งเเรกเเม้ว่ารายได้จะดีเเต่สิ่งหนึ่งที่ ESA โดนวิจารณ์มาตลอดคือ E3 ดูไม่มีตัวตน “คนที่เข้ามาดูเหมือนจะไม่เข้าใจถึงความสำคัญของการแสดง แม้ว่างานนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้มากเพียงใดก็ตาม”  Chris Kramer หัวหน้าฝ่ายสื่อสารในอเมริกาเหนือของ Tencent กล่าวไว้กับ IGN

นั่นทำให้ ESA หันไปหาออเเกไนซ์อย่าง ReedPop ที่มีประสบการณ์ในการจัดงานใหญ่มาเเล้ว มาจัดงานให้ซึ่งวิธีเเก้ปัญหาของ ReedPop คือการสร้าง E3 Business Days แยกต่างหากซึ่งจะจำกัดเฉพาะสมาชิกของอุตสาหกรรม โดยที่ Gamer Days จะจัดขึ้นในส่วน หรือเรียกว่า “จัดงานให้เป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น” เเต่สุดท้าย ทาง E3 ก็กลับมาจัดงานในรูปแบบเดิม หลังจากจัดเเบบใหม่ไปได้เเต่ 1 ปี

เเละหลังจากที่สถานการณ์ COVID คลี่คลายลง E3ก็ยังคงจะกลับมาจัดงานเเบบเดิมซึ่งอย่างที่บอก ค่ายเกมต่างๆก็มองว่ามมันไม่คุ้มค่าที่จะเอาเงินมาเสียค่าเช่าที่เพิ่ม ไม่จำเป็นที่จะต้องมาเร่งตัด Trailer ให้ทันงาน E3 เพราะ Youtube ก็มีเเล้ว งานตัวเองก็จัดช่วงไหนก็ได้ตามใจ เรียกว่า ESA ไม่เป็นงานเเละปรับตัวตามสถานการณ์ไม่ทัน เลยไม่เเปลกที่จะหายไปตามกาลเวลาทั้งที่ก็เคยทำมาเเล้วในช่วง COVID

นอกจากนี้ยังมีกรณีของ ออเเกไนซ์ ReedPop ที่ถูกกล่าวหาว่าไม่โปร่งใสโดยบริษัท Nintendo of America เรื่องเกี่ยการโปรโมทเกมสำคัญของพวกเขา รวมถึงเเผนงานที่ไม่ตรงกันด้วย เเละนั้นก็เป็นช่วงก็ที่ E32023 จะยิกเลิกในปีนี้

จุดเปลี่ยนสำคัญสู่คราอวสานงาน E3 – การเข้ามาของ Summer Game Fest

Summer Game Fest confirms June 10 showcase ahead of E3 | VGC

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ E3 ถึงคราอวสานนั่นคือ Summer Game Fest หลายคนอาจจะรู้จักชื่อของ Geoff Keighley เจ้าของงาน The Game Awards ใช่ไหมครับนั่นเเหละครับคนเดียวกันกับเจ้าของงาน Summer Game Fest ซึ่ง Keighley มีประวัติอันยาวนานกับงาน E3 ทั้งในฐานะผู้เข้าร่วมประชุมที่มีความกระตือรือร้น ทั้งยังเป็นผู้จัดรายการเเละเริ่ม E3 Coliseum

ด้วยเเต่ในปี 2020 Keighley ประกาศว่าเขาจำเป็นต้อง “ตัดสินใจอย่างยากลำบากที่จะต้องปฏิเสธการจัดงาน E3 Coliseum” เขาบอกว่าเขาต้องการพักหลังจากทำงานกับ E3 มา 25 ปี ประกอบกับสถานการณ์โควิดที่กำลังเเพร่ระบาดด้วย

เขากับมานั่งทบทวนกับตัวเองเเละมองซึ่งเขาบอกว่ามันเป็นเพราะ การเปิดตัวของ Xbox เเละ PlayStation รุ่นใหม่ รวมถึงความสำเร็จในงาน The Game Awards เลย ทำให้ Summer Game Fest นั้นเกิดขึ้น

“มันเป็นช่วงเวลาที่น่ากลัวอย่างมากสำหรับการเกิดโรคระบาดใหญ่ เราไม่มีวัคซีน แต่ทั้ง Xbox ใหม่และ PlayStation ใหม่ก็เปิดตัวในปีนั้นซะด้วย มันก็เลยเป็นปีที่ยิ่งใหญ่มากๆ สำหรับวงการเกม” – Geoff Keighley

Summer Game Fest เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบมหกรรมงานเกมอย่างสิ้นเชิง จากรูปเเบบงานใหญ่เเละจัดเป็น Exibhaition กลายเป็นจัดงานออนไลน์ที่สั้นกระชับ กะทัดรัด พยายามให้ผู้พัฒนาเกมเข้าถึงคนเล่นเกมให้ได้มากที่สุด เเละไม่ได้เน้นเฉพาะผู้พัฒนาจากฝั่งตะวันตก หรือค่ายใหญ่ๆ เกมอินดี้ หรือผู้พัฒนาจากโซนอื่นๆด้วย

เเล้วในในอนาคตจะเป็นแบบดิจิทัลอย่างเดียวหรือว่างานแบบตัวต่อตัวจะกลับมาอีกครั้ง “ผมพูดเสมอว่าผมคิดว่างานของเราจะเน้นไปที่ดิจิทัลเป็นอันดับแรกเสมอ แต่เราจะเพิ่มองค์ประกอบแบบตัวต่อตัวเข้าไปด้วย” เขากล่าว “แม้แต่ในปีนี้ เราก็ได้ประสานงานให้สื่อ และอินฟลูเอนเซอร์รอบๆ ลอสแอนเจลิสมาเล่นเกมบางเกมกับเราจริงๆ งานก็จะเหมือนกับงานส่วนตัว ไม่ใช่งานสาธารณะขนาดใหญ่ แต่เราก็เริ่มผลิตผลงานทางกายภาพด้วย

เช่นงาน IMAX สำหรับงานโชว์ในปีนี้ ผมเลยคิดว่าเราจะเริ่มทำงานแบบนั้น แต่คงไม่ได้เป็นงานแบบเดิมๆ ที่ต้องเช่าหอประชุมให้คน 20,000 คนมารอคิวเล่นวิดีโอเกมกัน งานแบบนั้นเป็นการจัดงานแบบเก่าสำหรับผม ผมคิดว่าเราต้องเริ่มคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนงานที่เราทำให้เป็นแบบกายภาพ และนำพาชุมชนเข้ามารวมตัวกันในแบบที่น่าสนใจอย่างแท้จริง”- Geoff Keighley

เเละนี่คือสิ่งที่ Summer Game Fest เหนือว่า E3 ทั้งรูปเเบบ เเนวคิด วิธีการให้เหมาะกับยุคปัจจุบัน เเถมยังมีประสบการณ์ที่จัดงานระดับโลกมากเเล้วนั่นทำให้ Summer Game Fest สามารถเข้ามาเเเทนที่ E3 ได้ในอนาคต

อุตสาหกรรมเกมจะเปลี่ยนเเปลงอย่างไร? หลังจากการจากไปของ E3

สิ่งที่วงการเกมจะเปลี่ยนเเปลงไปหลังจาการจากไปของงาน E3 นั่นคือการเเข่งขันของผู้ผลิตเเละผู้จัดจำหน่ายเกมจะมีสูงขึ้นเเบบมากๆ โดยเฉพาะในช่วงที่ E3 เคยจัดงาน ซึ่งถ้าไม่ได้ติดตามทุกงานจริงๆก็อาจจะทำให้เเฟนๆพลาดเกมดีๆจากผู้พัฒนานอกสายตาก็ได้ เเม้ว่าจะมี Summer Game Fest เข้ามาเเทนที่ เเต่ความมั่นคงเเละชื่อเสียงก็ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เเฟนๆ เเละ ผู้พัฒนาเกม จดจำว่า E3 เป็นหนึ่งในมหกรรมเกมที่ดีที่สุดของวงการเกมส์ในช่วง 28 ปีที่ผ่านมา

อ้างอิง : https://www.ign.com/articles/why-e3-died-a-failure-to-evolve-huge-costs-and-too-much-competition
https://store.epicgames.com/th/news/how-summer-game-fest-is-becoming-the-new-e3

——————————————–
GAMESTALK BY INSIDE THE GAME
คอลลัมน์โดย Wacther
ติดตามรีวิวเกมส์ และ อื่นๆที่น่าสนใจได้ที่ : INSIDE THE GAMES