ถ้า รบ.3 ป. กับคณะไม่บริหารจัดการ “แผนวัคซีน” ได้ห่วยแตกขนาดนี้ ไม่ “แทงม้าตัวเดียว” ประเทศไทยก็จะมีวัคซีนหลายยี่ห้อและมีปริมาณเพียงพอที่จะทยอยฉีดให้ 70 ล้านคนแล้ว ไม่ต้องนั่ง ปสด.ว่า จนป่านนี้เข็มแรกยังไม่ได้ฉีดเลย อย่าว่าแต่เข็ม 3 ระหว่างรอ ก็กลัวติดเชื้อโควิด-19 ตาย หรือไม่ตายก็รอเตียงจนตาย เพราะระบบสาธารณสุขที่ล่มสลาย มีตัวเลขติดเชื้อวันละ 5,000-6,000 คนและตายวันละ 40-50 คนมานานแล้ว

ข่าวลูกสาวป่วยโควิดรอเตียงจนตาย ทำให้พ่อกระโดดตึกตาม ข่าวอดีตรอง ผวจ.ป่วยทั้งพ่อแม่ลูกชาย รอเตียงจนทยอยจากไป เหลือลูกสาวคนเดียว และอีกมากที่ต้องโพสต์ผ่านโซเชียลหาเตียง ไม่ใช่เฟคนิวส์ แต่เป็นโศกนาฏกรรมที่นำความสลดหดหู่มาให้ว่าเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง

ถ้าวัคซีนที่มี กันตาย ไม่กันติด ฉีดซิโนแวค 2 เข็มเจอโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์เดลตาจากอินเดีย ที่กำลังเข้ายึดหัวหาดแทนสายพันธุ์อังกฤษแล้วภูมิต้านทานจาก 90% เหลือ 30% ต้องซ้ำเข็ม 3 เข็ม 4 วัคซีนทางเลือก “โมเดอร์นา” ที่ผลิตจากเชื้อเป็น mRNA คนคงไม่แห่จองราวแจกฟรี

รพ.เอกชนที่เชียงใหม่เปิดให้วอล์กอิน มีคนไปรอตั้งแต่ตี 4 คนที่จองไม่ได้ทั้งร้องไห้และร้องโวยว่า หมดเร็วอย่างนี้ได้ยังไง อุตส่าห์มาไกลตั้ง 50 กม. รพ.รามาธิบดี เปิดให้จอง 08.30 น. ไม่ถึง 10 นาที ต้องปิดรับจอง รพ.เอกชนอื่น ๆ ที่เปิดจองก็ไม่ต่างกัน ใครมาทีหลังต้องรอรอบใหม่

ตอบรับสิ่งที่ นพ.บุญ วนาสิน ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า รพ.เอกชนกว่า 300 แห่งมีความต้องการ “โมเดอร์นา” สูงถึง 9.5 ล้านโด๊ส และตบหน้า อนุทิน ชาญวีรกูล เจ้ากระทรวงสาธารณสุข ที่ปรามาสว่า ใครจะต้องการมากขนาดนั้น เพราะรัฐหาวัคซีนให้อยู่แล้ว เอกชนอย่ามา (จับเสือ) มือเปล่า เจอปรากฏการณ์ คนยอมจ่ายเงินก่อนเพื่อจองวัคซีนถล่มทลายขนาดนี้ หมอหนูจะรู้สำนึกหรือไม่ว่า ที่โยกโย้โยนกันไปมาระหว่างหน่วยงานรัฐนานเกือบปี ปิดกั้น รพ.เอกชนนั้น ได้สร้างความโกรธแค้นและล้มละลายทางความน่าเชื่อถือขนาดไหน

รู้หรือไม่ว่า คนรู้สึก รบ.3 ป. กับคณะเห็นชีวิตเค้าเป็นผักปลา ทั้งที่ตัวเองไม่มีปัญญาหาของดี ๆ มาให้ แต่พอเค้าดิ้นรนช่วยตัวเองก็ยังขวางบ้าบออีก แม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ ก็กลายเป็น “หมอไม่ทน” ออกมาขอ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา แบบพร้อมชนรายวันกับหมอใหญ่ หมอหนู กันแล้ว

เอกสารการประชุม 3 ฝ่ายที่หลุดออกมาถึงมือสื่อล่าสุด แม้ไม่ใช่มติจริง แต่การที่มีหมอใหญ่บางคนกล้าพูดไม่เห็นด้วยจะเอาวัคซีนบริจาคสหรัฐไฟเซอร์ 1 .5 ล้านโด๊สมาฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นเข็ม 3 เพราะเท่ากับยอมรับว่าซิโนแวคที่รัฐบาลยังดื้อด้านสั่งซื้อทั้งที่แพงและประสิทธิภาพป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ต่ำแบบไม่โปร่งใส จะทำให้แก้ตัวยากนั้น ถือเป็นการทรยศวิชาชีพวิชาตัวเองอย่างน่าอัปยศที่สุด เดชะบุญที่หลุดออกมาได้ เพราะจะนำพาให้หมอพยาบาลได้ฉีดไฟเซอร์ในที่สุด

หันมาที่โมเดอร์นาล่าสุด สำนักงานอัยการสูงสุด ลงทุนทำงานเสาร์-อาทิตย์ เพื่อตรวจสัญญาที่องค์การเภสัชกรรมจะไปทำกับบริษัทซิลลิคฟาร์มาตัวแทนโมเดอร์นาจนเสร็จเรียบร้อย องค์การเภสัชก็หมดข้ออ้างแล้ว โมเดอร์นาลอตแรกน่าจะมาใน ก.ย.-ต.ค.นี้ มาช้าก็ดีกว่าไม่มา

ทั้งหมดต้องให้เครดิต นพ.บุญ วนาสิน ที่ออกหน้ามาปะฉะดะ กับ รบ.3 ป. และ อนุทิน ชาญวีรกูล ชนิดหมูไม่กลัว
น้ำร้อน กล้าเอาตัวเข้าเสี่ยง ขณะ 45 องค์กรเอกชนและเจ้าสัวล่าถอยนานแล้ว คนไทยคงต้องทนฉีดวัคซีนที่ไม่มีทางเลือก
ซิโนแวคกับแอสตราฯ กันลูกเดียว

เหนืออื่นใด คนไทยได้เห็น “หน้ากากแก้ว” ของหลายคนแตกสลายพังทลายว่า มันน่าอัปลักษณ์ขนาดไหน กล้าเอาชีวิตความเป็นความตายมาสังเวยความบ้าอำนาจและผลประโยชน์ของพวกตนเองแบบไร้เมตตาและไร้ยางอาย

อย่าให้คนพวกนี้มีที่ยืนเป็นภาระประเทศอีกต่อไป.

——————
ดาวประกายพรึก