เพราะการเมืองเวลานี้มีประเด็นร้อนแรงหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเสนอกฎหมายสำคัญ หรือปัญหาคดีความสำคัญไของบุคลการเมือง ที่ทำท่าว่า จะส่งไม้ต่อความครุกรุ่นไปถึงปี 2567 ด้วย “คอลัมน์ตรวจการบ้าน” จึงต้องมาสนทนากับ “อาจารย์โสรัจจะ นวลอยู่ หมอดูเจ้าของฉายา “นอสตราดามุสเมืองไทย” มาสแกนดวงเมืองให้ได้เห็นถึงสถานการณ์ต่างๆ ที่ต้องเตรียมตัวรับมือจากเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้

โดยโหรโสรัจจะ ออกมาชี้ถึงการขยับเขยื้อนของดวงดาวสำคัญๆ  ว่า  “พระราหูสถิตในราศีมีน ภพวินาศตลอดทั้งปี

“ดาวพฤหัสบดี” ย้ายจากราศีเมษไปเข้าราศีพฤษภ เข้าทับดาวมฤตยู วันอังคารที่ 30 เม.ย. 2567

“ดาวอังคาร” ย้ายเข้าราศีเมษ วันที่ 2 มิ.ย. 2567

“ดาวศุกร์” ย้ายเข้าราศีตุลย์ วันที่ 21 ก.ย.2567

“ดาวพระเกตุ” ย้ายเข้าสู่ราศีตุลย์ วันที่ 4 ธ.ค.2567

นี่คือดวงดาวสำคัญที่มีการขยับเขยื้อนแล้วมีผลต่อประเทศไทย รวมไปถึงทั่วโลก ที่อาจจะมี “สงคราม” ซึ่งเราจะต้องตื่นตัว หากมีสงครามเกิดขึ้นประเทศไทยต้องวางตัวเป็นกลาง อย่าเข้าไปทำอะไรต่างๆ เพราะบ้านเมืองเราก็มีเรื่องยุ่งๆ เหมือนกัน

“สถานการณ์บ้านเมืองที่สำคัญๆ มีอยู่หลายเรื่อง ปีนี้นักการเมืองผู้เป็นใหญ่จะร่วงหล่นกันมาก (เสื่อมอำนาจ) อำนาจเสนาบดีเก่าๆ ของคนเก่าๆ ก็เสื่อมถอยลงมา มีเหตุการณ์หลายเรื่องรุนแรงเกิดขึ้น จะประมาทไม่ได้ กลุ่มชน ฝูงชนมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่สุดตั้งแต่ตั้งกรุงฯ มา”

ดวงดาวยังบ่งบอกเหตุการณ์ป่วนทางการเมือง

“พรรคการเมือง” จะเกิดความผันผวน ยุ่งยาก ความไม่เรียบร้อย ซึ่งออกจะรุนแรงเป็นที่คาดไม่ถึง ใครที่มีชนักติดหลังอยู่ก็รับกรรมไป ทุกอย่างจะไม่ดำรง เช่นนั้นตลอดไป เมื่อมีน้ำขึ้น ก็ต้องน้ำมีลงเป็นธรรมดา แก้ไขปัญหาไม่ได้  จะแก้ไขปุ๊บปั๊บไม่ได้ เพราะเราเป็นอย่างนี้มาตลอด

“นักการเมือง” พึงระวังเอาไว้ ถึงเวลาที่ประชาชนอาจลุกขึ้นมา โดยเฉพาะคนที่ไม่จริงใจอย่างแท้จริง

“ดาวอังคารสีเลือด”  ย้ายมาจากราศีมีนเข้าสู่ราศีเมษ ในวันอาทิตย์ที่ 2 มิ.ย. 2567 และจะคงอยู่ตรงนี้ไประยะหนึ่ง คล้ายเป็นจุดเริ่มต้นใหญ่ๆ แต่ที่รองๆ ลงมา คือ ในวันที่ 30 เม.ย. 2567 คือดาวพฤหัสย้ายจากเมษเข้าราศีพฤษภ ทับดาวมฤตยูในวันที่ 30 เม.ย. ซึ่งสำคัญทั้ง 2 ช่วง ทำให้น่าจะเกิดอะไรขึ้น เกี่ยวกันกับการเมือง และเกี่ยวพันเศรษฐกิจของประเทศจะตกไปมากลงจากที่ช่วงต้นปีที่ดูว่าดีขึ้น พอตกแล้วจะขึ้นยาก

ดังนั้นให้ทุกคนทั้งนักการเมือง ประชาชน นักธุรกิจ ผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ ควรระวัง อย่าประมาท อย่าคอร์รัปชั่น หันมาทำความดี ปีนี้ถ้าเราห่วงประโยชน์ตัวเองมาก หวังประโยชน์ เพราะต้นปีดูดี แต่พอ 2 เดือนที่ว่านั้น จะแย่ไปพอสมควร ถ้าดูเป็นกราฟก็ดิ่งลง ล้มลงเลย อยู่ดีๆ เกิดอะไรขึ้นกับเศษฐกิจ การเงิน ด้านบ้านเมือง อาจจะเกิดการแตกแยกในหมู่พรรคการเมืองที่แรกๆ รวมกันอยู่ ก็อาจจะต้องแยกย้าย แต่ยากที่ทุกคนจะยอม เหมือนทำงานกันมาต้นปีก็เริ่มครุกรุ่นมาแล้ว แล้วฝีแตก และแตกหลายช่วง กลัวว่าจะมีเหตุอะไรที่อาจจะมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง อาจจะเป็นการปรับครม. หรืออาจะมีการชุมนุม หรือเลือกตั้งแบบทดแทนส.ส. บางคน

ตอนดาวอังคารย้าย เป็นเรื่องใหญ่อาจจะมีการเลือกตั้งใหญ่ ซึ่งไม่รู้เกิดอะไรในช่วงเวลา 1-2 เดือน ตั้งแต่เม.ย. อาจจะมีการเกิดอะไรขึ้นในส่วนของโลก แต่เราไม่ควรไปยุ่ง ควรวางตัวเป็นกลาง แต่บังเอิญเราก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการเมืองครั้งใหญ่  อาจมีการเลือกตั้งใหญ่ก็จริง แต่มีการเมืองเก่าเข้ามาปนด้วย แล้วหลังจากนั้นก็จะทำงานไปแบบไม่ค่อยน่าไว้วางใจกัน

ทั้งนี้ ไม่ได้อยากให้ทุกคนคิดว่าดวงดาวจะฝืนไม่ได้ แต่เมื่อรู้เรื่องก่อน เราควรหันหน้าเข้าหากัน คนไหนที่คิดว่าถ้าทำอะไรไปแล้วจะเกิดอะไรใหญ่ขึ้นไปอีก  หรือขัดแย้งขึ้นก็ควรจะหยุด แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องค่อยๆ ถอยมาคนละก้าว ถึงเรื่องจะเริ่มที่ต่างประเทศก่อน แต่เราต้องปกป้องประเทศ ทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ยอมอะไรได้ก็ต้องยอมเพื่อให้บ้านเมืองผ่านไปได้

อันนี้สำคัญปี67 ทั่วโลกน่า จะมีเรื่องใหญ่มาก และใหญ่ต่อเนื่อง เราควรหยุด ถอยคนละก้าวแล้วมาช่วยกัน หากเกิดสงครามใหญ่ รวมถึงประเทศใกล้เคียงอาจจะมีความขัดแย้ง ดังนั้นทั้งหมดนี้ เราจะพ้นไปได้ต้องวางตัวเป็นกลาง ต้องสามัคคีกันให้มาก อย่าเห็นแก่ตัวเอง ไม่อย่างนั้นเราจะกลายเป็นคนที่สร้างปัญหาให้บ้านเมือง จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ว่าจะเกิดเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นสมัยไหน เราก็ผ่านพ้นวิกฤตมาตลอด เป็นประเทศเอกราชมาตลอด ซึ่งคือภาคภูมิใจที่ต้องรักษาไว้ และดูจากดวงดาวทั้งหมดเป็นไปได้เราจะรักษาภาพตรงนี้ไว้ได้

อาจารย์โสรัจจะ บอกว่า ที่จริงปีหน้า เรื่องดีๆ ก็เยอะ พอขึ้นปีใหม่ ทุกคนรู้สึกสดใส เต็มใจ จริงใจ อยากทำอะไรต่างๆ คิดดีกันทุกพรรค แต่เวลาทำกลับทำไม่ได้ เพราะขัดอะไรบางอย่าง อย่างไรก็ตามทำได้แต่อย่าทำให้ดูไม่ดี เชียร์ตัวเองมากจนกระทบคนอื่น ต้องพิจารณาให้ดี ด้านความซื่อสัตย์ก็เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะพอทำอะไรแล้ว อาจจะขัดกัน การหันหน้าคุยกันดีกว่า แรกๆ อาจจะดูเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ผ่านไปได้  ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้จะเกิดหลายครั้ง

ด้าน “โรคภัยไข้เจ็บ” จะมีโรคระบาด เช่น “ไข้หวัดนก” โรคโควิด จะกลับมาระบาด  รวมถึง “โรคโบราณ” ที่เคยเกิดแล้วมีคนเสียชีวิตมาก ดังนั้นต้องระมัดระวังเพราะเป็นโรคติดต่อได้ เราต้องคิดไว้เสมอว่า เวลาเรามีอะไร เรายังมีสมุนไพรรักษาโรค ดีไม่ดีอาจจะทำให้โรคร้ายหมดไปได้เร็วจากสมุนไพรเก่าได้

ด้าน “ภัยพิบัติธรรมชาติ” จะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นแล้วเราป้องกันไม่ถูกทาง อาจจะไม่รู้ว่าภัยกำลังจะมาถึงตัว เช่น “แผ่นดินไหว” ต่อไปนี้จะเกิดขึ้นทั่วโลก และเกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะส่วนหนึ่งมาจากดวงดาว และในทางวิทยาศาสตร์คือโลกมีการเคลื่อนที่เปลี่ยนแปลงไป น้ำใต้โลกเยอะมาก และมีอิทธิพลกับผิวโลกได้ง่าย ประเทศใหญ่ ๆ ที่มีตึกสูงมีโอกาสแผ่นดินไหว และมีคนดือดร้อนเยอะ ส่วนของเราจะมีทั้งน้ำท่วม และอาจจะมีสึนามิเกิดได้ จึงขอให้อย่าประมาท ต้องหมั่นดูแลสิ่งก่อสร้างสูงๆ สะพานลอยฟ้า ต้องดูแลเข้มงวดเพราะมีโอกาสเกิดการเคลื่อนไหวจากสภาพใต้ดิน

พระอาทิตย์ก็น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน เช่น รูปทรง มีการเคลื่อนไหว ความร้อน มีการเดินทางต่างไปจากเดิม และส่งผลต่อโลกเยอะมาก ทำให้ดวงดาวเคลื่อน

เตือนทำบุญเยอะๆ อย่าคิดร้ายคนอื่น อย่าไปแกล้งไปทำร้าย ขอให้คิดทางที่ดี ทำสิ่งดี จะทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองขึ้น ประเทศร่ำรวยขึ้น ทุกคนก็สบาย ซึ่งควรให้เป็นเช่นนั้นตลอดไป ทั้งนี้ต่อไปประเทศไทยจะเป็นประเทศที่นำทางด้านพระธรรม ความดีเยอะมาก คนทั่วโลกเจริญรอยตาม

ถ้าพูดถึง“ดวงบุคคลที่จะมาค้ำจุลเมืองให้พ้นวิกฤติ” อาจารย์โสรัจจะ บอกว่า ประเทศไทยโชคดี หากมีอะไรมากๆ จะมีบุคคล กลุ่มบุคคลเข้ามาให้บ้านเมืองพ้นวิกฤตต่างๆ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการพ้นวิกฤตสงครามอย่างเดียว แต่พ้นโรคภัยไข้เจ็บ และปัญหาทุกอย่าง ประเทศไทยเหมือนเป็นจุดอะไรก็ไม่รู้ ที่เป็นศูนย์รวมความดี ต่างประเทศจะทะเลาะกัน ตีกัน แต่ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่อารี ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องทางศาสนาก็ได้

ทั้งนี้ “อาจารย์โสสรัจจะ”ไม่ขอเจาะจง “ราศีของบุคคลที่จะคำจุลเมือง”แต่เราจะเห็นเอง เหตุการณ์จะพาไป ทุกคนจะออกมาเหมือนการเล่นละคร ถ้าคนดีก็จะดียาวไปเลย บ้านเมืองจะเกิดอะไรเขาก็จะดี แต่หากคนไม่ดี เขาก็จะแสดงตัวออกมา พอคนรู้แล้ว เขาจะกลับไปสร้างภาพเป็นคนดีอีกไม่ได้ ก็ต้องไปตามกาลเวลา   

โดยสรุปแล้ว สิ่งที่พยากรณ์มานั้น ไม่ได้ต้องการทำให้ทุกคนกังวล แต่เพื่อให้ระมัดระวัง เหมือนเป็น “ไกด์ไลน์ดวงดาว” โดยอยากให้มีความเอื้ออาทรต่อกัน เพราะปี 2567 วุ่นวายที่สุดในรอบ 100 ปีของบ้านเมืองเรา จึงขอให้คิดดี ทำดี อย่าเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มีโอกาสก็ทำบุญ อุทิศส่วนกุศล หรือจะทำบุญทางด้านสุขภาพ เช่น ช่วยคนเจ็บป่วย บริจาคโลหิตการทำดีที่เริ่มจากจุดเล็กๆ เริ่มจากตัวเรา เมื่อทุกคนทำดีก็จะรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ประเทศก็จะมีทิศทางที่ดี.