@เริ่มต้นที่”การเมืองภาพใหญ่” ของ”รัฐนาวานิดหนึ่ง”ซึ่งนำคณะ “ครม.สัญจร”มา”ประชุมที่จังหวัดระนอง”ในวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมกับ”ยาหอมหม้อใหญ่”ให้กับคนภาคใต้ตอนบน “กลุ่มอันดามัน 6 จังหวัด” จำนวน 21 โครงการ วงเงินงบประมาณ  616 ล้าน เพื่อเสริมสร้างการ”พัฒนา” ถือเป็นปรากฎการณ์” ช้างเหยียบนา พญาเหยียบเมือง” ที่แสดงให้เห็นว่า แม้”เพื่อไทย” จะไม่มี สส.ในภาคใต้ แม้แต่”หน่อเดียว” แต่”เพื่อไทย”ไม่ได้”ละเลย”ต่อการพัฒนาภาคใต้ อย่างที่เคยถูก”กล่าวหาจาก”ชวน หลักภัย” อดีต”นายกรัฐมนตรี และ” อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์” รวมทั้ง”สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” สส.เขต 2 จ.ตรัง ของพรรคเดียว ที่”อภิปรายงบประมาณ”ว่า”ภาคใต้”ถูก”รัฐบาลทอดทิ้ง”ส่วนจะเป็นไปได้แค่ไหน เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป โดยเฉพาะเรื่อง”สนามบินพังงา” หรือ”ภูเก็ต 2 “ เพื่อ “ส่งเสริมการท่องเที่ยว” อย่าลืมว่าที่ดินที่จะใช้ก่อสร้างสนามบิน ยังมีปัญหาหลายเรื่อง เพราะมี”กลุ่มทุน” ทั้ง”การเมืองท้องถิ่น-การเมืองระดับชาติ” และ”กลุ่มทุนอิทธิพล” ในพื้นที่ และคนของพรรคการเมืองบางพรรค  “ครอบครอง”กันไปแล้วนับพันไร่ โดยมีการ”ออกโฉนด” ในที่”สาธารณประโยชน์” เพื่อนำมา”ขายให้รัฐ” เพื่อสร้าง”สนามบิน” งานนี้ฝากให้”ปปช.  “หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง”รื้อพรม”สักครั้งแล้วจะเห็น”ขยะใต้พรม” ที่เป็นเรื่องการ”ทุจริต” ในการ”ออกโฉนด”ในที่ดินแปลงดังกล่าว ถ้าจะสร้างสนามบินพังงา ในพื้นที่ดังกล่าว ต้อง”ตรวจสอบ”ให้ถูกต้อง และต้องไม่ใช่”การเอื้อประโยชน์” ให้กับ”นายทุนและพรรคการเมืองบางพรรค”ที่นำที่”สาธารณประโยชน์” ออกเป็น”โฉนด”แล้วขายให้กับรัฐ ……

@อีกเรื่องที่ยังน่าเป็นห่วงก็ยังเป็นเรื่องของการ”แจกเงิน” ในโครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” ที่แม้”เสี่ยนิด” และ” รัฐมนตรีช่วยคลัง” ยังยืนยันแบบ”กระตายขาเดียว”ว่า”ทำได้” และไม่ผิด”กฎหมาย” แต่ก็ทำไม่ได้อย่าง”ปัจจุบันทันด่วน” และมี”แนวโน้ม”ว่าจะไม่ทันในปีงบประมาณ” 2567” และหากมีการ”เลื่อนออกไป” ยิ่งจะเป็นการเสียหาย…..เพราะถ้า”เศรษฐกิจ” ของประเทศแย่จริง”ซึมลึกซึมยาว” จริง อย่างที่” เสี่ยนิด” และ”รัฐมนตรี” หลายคนของ”เพื่อไทย” ออกมาให้ข่าว โดยจะแก้การ”ซึมลึกซึมยาว” ของ”เศรษฐกิจ” และ”ปากท้อง” ของ”ประชาชน” ด้วยการใช้”ดิจิตัลวอลเลต” เป็น”เครื่องมือ” หรือเป็น”ยาวิเศษ” ในการรักษา”ผู้ป่วยหนัก” ที่อยู่ใน”ขั้นโคม่า” การที่ต้อง”เลื่อน” การ”แจกเงิน” หรือการ”แจกยา” เพื่อรักษาอาการ”โคม่า” ทางเศรษฐกิจ” หรืออาการ”ป่วย” ของ”ประเทศ” ที่ยิ่ง”ล่าช้า” ยิ่งจะส่งผล “เสียหายร้ายแรง” ให้กับ”ประเทศ”หรือ”คนป่วย” ดังนั้นถ้า”เศรษฐกิจ”ของ”ประเทศ”ซึมลึกซึมยาว” อย่างที่”เสี่ยนิด” ว่าไว้ โดยที่ “รัฐบาล” ไม่มี”แผนสำรอง” ในการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” เท่ากับว่า”รัฐบาลนิดหนึ่ง” กำลังพา”รัฐนาวาไทย” ไปสู่ท้องทะเลที่”ไร้จุดหมาย” ท่ามกลาง”พายุทางเศรษฐกิจ” ที่”โหมกระหน่ำ”…..

@แต่ในทางกลับกับ เมื่อโครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” เลื่อนออกไปแบบ”ไร้จุดหมาย” และ”รัฐบาลนิดหนึ่ง” ไม่มีแผนสำรองในเรื่องการ”กระตุ้นเศรษฐกิจ” ด้วย”ยาแรง” แบบอื่นๆ แต่”ประเทศไทย” ยังคง”ขับเคลื่อน”ไปได้แบบ”โตน้อยโตช้า” แต่ไม่ถึงกับ”หายนะ” ก็แสดงให้เห็นว่ามีคนที่”พูดไม่จริง” เกี่ยวกับเรื่อง”เศรษฐกิจ” ของ”ประเทศไทย” ที่บอกว่าหากไม่ใช้การ”แจกเงิน” ครั้งเดียว 500,000 ล้าน ประเทศไทยจะ”ซึ่งลึกซึมยาว” และ”เศรษฐกิจ”จะไม่ฟื้นตัว ก็เป็นเรื่องที่”ไม่จริง” เป็นเรื่อง”หลอกลวง” ทางการเมือง โดย”เพื่อไทย” มีจุดประสงค์หลักในการ “ผลัดดัน” โครงการ” แจกเงิน 500,000 ล้านบาทเพื่อการ”หาเสียง” เป็นการ”หวังผล” ทางการเมือง” มากกว่าการแก้ปัญหา”เศรษฐกิจ” วันนี้โครงการ”ดิจิตัลวอลเล็ต” สำหรับ”เพื่อไทย” และนายกรัฐมนตรี”เศรษฐา ทวีสิน” จึงมีแต่”เสียกับเสีย” และที่ จะ”เสีย”มากที่สุด หากมีการ”แจกเงิน 500,000 ล้านบาท และไม่สามารถ”กระตุ้น เศรษฐกิจ” และสามารถทำให้”จีดีพี” ของประเทศเพิ่มขึ้นตาม”เป้าหมาย” แต่กลายเป็น”คนไทย” ทุกคนต้อง”แบกหนี้เพิ่ม” และต้อง”จ่ายเงินต้นและดอดเบี้ยเงินกู้” จำนวน 500,000 ล้านบาท ซึ่งต้องส่งผลถึงการ”เลือกตั้ง” ครั้งหน้าของ”เพื่อไทย” อย่างไม่ต้องสงสัย…..

@อีกเรื่อง”สำหรับ”ซุปเปอร์เซลล์แมน” ที่เป็นอีกตำแหน่งหนึ่งของ”เศรษฐา ทวีสิน” คือการเดินทางไป”ต่างประเทศ” และขายโครงการ”อภิมหาโปรเจกต์” อย่าง”แลนด์บริดจ์” เพื่อดึง”นักลงทุน” ทั้งจาก”สหรัฐอเมริกา-ยุโรป-จีน-ญี่ปุ่น” และสุดท้ายคือ”อินเดีย” ให้มาลงทุนในโครงการ”แลนด์บริดจ์” ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถ้า”กลุ่มทุน”จาก ประเทศเหล่านั้นๆ “สนใจ” เข้ามา”ลงทุน” จริง อย่างที่”เสี่ยนิด” แถลงข่าว”…..แต่ที่”น่าเป็นห่วง” และเป็นเรื่องที่”เสี่ยนิด” ต้องทำก่อนคือการ”สื่อสารสร้างความเข้าใจ” กับ”ประชาชน”ในพื้นที่ ที่ไม่ใช่ “นักลงทุน นักธุรกิจ” แต่เป็น”เกษตรกร” ที่มี”ส่วนได้ส่วนเสีย” ที่ออกมา”คัดค้าน” ไม่เห็นด้วยกับ”แลนด์บริดจ์” ที่ต้อง”พาดผ่าน” ที่ดินเรือกสวน ที่เป็นที่”ทำกิน” ของเขา “รัฐบาล” จะ”จัดการ”อย่างไร เช่นการ”ชดเชย”การสร้างอาชีพใหม่ และให้เขาไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร  ตรงนี้ต้องทำความเข้าใจให้”สะเด็ดน้ำ เพราะการลงพื้นที่”ประชุมสัญจร”ครั้งนี้”เสี่ยนิด” ก็เห็นเต็มสองตา” ถึง”โปสเตอร์”ของการ” โน แลนด์บริดจ์” ที่กลุ่มผู้คัดค้านมา”ต้อนรับ” ครม.เสี่ยนิด “ รวมทั้งเรื่องของกลุ่ม”เอ็นจีโอ” ที่เป็น”หัวหอก” ในการ”ต่อต้าน” และกลายเป็นผู้ที่ให้”ข้อมูล” ซึ่งอาจจะ”เท็จบ้าง จริงบ้าง” ตาม”วิถี” ของ”เอ็นจีโอ” ที่จะมองแต่”ภาพลบ” แบบ”เหรียญด้านเดียว” เรื่องการ”ต่อต้าน” เป็นเรื่องใหญ่” เพราะ”กลุ่มทุน” ในประเทศที่เขามี”ศักยภาพ” ในการ”ลงทุน” เขาติดตามความเคลื่อนไหว และ”สถานการณ์” ในพื้นที่ และ”ลงลึก” มากกว่า”รัฐบาล” ด้วยซ้ำ ถ้า”ปัญหาการต่อต้าน” ยังไม่”คลี่คลาย” จะมี”กลุ่มทุนไหน” ที่จะ”กล้าเสี่ยง” มาลงทุนในพื้นที่ซึ่งมี”สถานการณ์”ที่ไม่”ปกติ” …..

@รวมทั้งวันนี้” รัฐบาลนิดหนึ่ง” ต้องยอมรับความจริงว่า ผลการศึกษาในโครงการ”แลนด์บริดจ์” ยังมี”ข้อมูล” ที่เป็น”ข้อเท็จจริง” ที่ยังไม่เพียงพอ และไม่”ครอบคลุม” ตามที่”ประชาชน” ในพื้นที่” เอ็นจีโอ” และ”พรรคฝ่ายค้าน” กล่าวหา ถ้า ปัญหา เหล่านี้ยังแก้ได้แบบไม่”สะเด็ดน้ำ” การออกไปทำหน้าที่”ซุปเปอร์เซลล์แมน” และการเตรียมทุ่ม”งบประมาณ”เพื่อการ”โรดโชว์” อาจจะเป็นการ”สูญเปล่า” ก็เป็นไป…..ที่สำคัญ ทั้งเรื่อง”แลนดบริดจ์” และเรื่อง”ดิจิตัลวอลเล็ต” คือเรื่อง”อนาคต” ที่ยังไม่มีความ”แน่นอน” แต่เรื่องที่”แน่นอน” และต้องทำก่อนคือ”ส่งออกไทยชะลอตัว การท่องเที่ยวชะลอตาม” เพราะ”เศรษฐกิจของประเทศจีนที่ย่ำแย่” ซึ่ง”รัฐบาลนิดหนึ่ง” ต้องมีแผนในการ”ขับเคลื่อน” ทั้งการ”ส่งออก” และการ”ท่องเที่ยว” ให้”เข้าเป้า”โดยเร็ว….  ปัญหาสถาบันการเงิน ธนาคารพาณิชย์ ปล่อยกู้ยาก และ”ดอกเบี้ยสูง” รวมทั้งการ”เข้มงวด” ในการ”ปล่อยกู้” เอกชน ผู้ลงทุน”ขาดสภาพคล่อง” ราคา”พลังงานที่ยังสูงมาก” และ”รัฐบาล” ยัง”ควบคุมไม่ได้ อสังหาริมทรัพย์ ที่เหลือ”บานเบอะ” ผู้ซื้อมี   แต่”สถาบันการเงินไม่ปล่อยกู้” นี่แหละที่เป็นปัญหาที่ทำให้”เศรษฐกิจ” มีสภาพของการ”ซึมลึกซึมยาว” อย่างแท้จริง ที่ต้อง”ระดมสอง” แก้โดยด่วน…..

@ที่ดีขึ้นอย่าง”ราคายางพารา” ที่ “ขยับขึ้นไป กิโลกรัมละ 60 กว่าบาท” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” เสนาบดี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็อย่าดีใจ เพราะเกษตรกรชาวสวนยาง กำลังจะ”หยุดกรีดยาง”ในอีก 1 เดือนข้างหน้า ดังนั้น”อานิสงค์” ของ”ยางพารา” ที่มีราคาแพงขึ้น” อาจจะเป็น”ผลบุญ” ของ”นายทุน” ที่รับซื้อยางใน”ราคาถูก”และเก็บสต๊อกไว้เพื่อนำมาขายใน”ราคาแพง” เช่นเดียวกับ”ข้าวเปลือก” ที่มีราคาแพงขึ้น ก็ต้องถามว่า”ชาวนา” มีข้าวที่เป็นของ”ตนเอง” เก็บอยู่ใน”ยุ้งฉาง” เพื่อที่จะได้นำไปขายให้กับ”โรงสี” หรือไม่ หรือ”ข้าวเปลือก” ที่ขายได้ใน”ราคาแพง” เป็น”ข้าวเปลือก” ของ”โรงสี” ที่รับซื้อจาก”ชาวนา” ใน”ราคาถูก” ใช่หรือไม่   ที่สำคัญ เมื่อ”ข้าวเปลือกราคาแพง” และผู้ได้”กำไร”คือ” เจ้าของโรงสี” และ”บริษัทผู้”ค้าข้าว” และ”ผู้”ส่งออก”  แต่ผู้ที่”รัดทดหดหู่”เพราะต้องเป็นผู้”รับเคราะห์” กับราคา”ข้าวเปลือกที่แพงขึ้น” คือ”ประชาชน” ที่ต้อง”ซื้อข้าวสาร” มาเพื่อ”บริโภค” ในราคาแพงขึ้น”ตามราคา”ข้าวเปลือก” สุดท้ายจะเห็นว่าผู้ที่”ร่ำรวย” ไม่ใช่”ชาวนา” แต่เป็น”พ่อค้าคนกลาง”ต่างหาก…..

@ที่สำคัญเดือน มีนาคม ที่จะถึงนี้”ผลปาล์มน้ำมันในภาคใต้” จะมีผลผลิตสู่โรงงาน เป็นจำนวนมาก   ราคาปาล์มน้ำมันในภาคใต้ ณ วันนี้ เกษตรกรขายได้ กิโลกรัมละ 4-5 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่มี”กำไร” แต่เมื่อมีผลผลิตออกมาสู่โรงงานมาก”เล่ห์เหลี่ยม” ของ”พ่อค้าคนกลาง” ก็จะฉวยโอกาสในการ”กดราคารับซื้อ” โดยอ้างว่า”ล้นสต๊อก” อ้างว่ามีปัญหาจาก”ไบโอดีเซล” ที่ใช้เป็นส่วนผสมของ”น้ำมันดีเซล” ที่ไม่เพิ่มขึ้น เพราะ”โรงกลั่น” นำเอา”ไบโอดีเซล” ไปเป็นส่วนผสมสูงสุดคือ”ดีเซลบี 7 “ เท่านั้น ทางออกของปัญหา”ปาล์มน้ำมัน หรือ”น้ำมันปาล์ม” กระทรวงพาณิชย์จึงต้อง”ส่งออก” ให้มากขึ้น ปี 2566 มีการ”ส่งออก 1 ล้านตัน” ปี 2567 ต้อง”ส่งออก”ให้ได้มากกว่าปี 2566 ปัญหาน้ำมันปาล์มจึงจะแก้ได้เพื่อที่เกษตรกรจะไม่ต้อง”ชี้ช้ำกระหลำปลี”…..แต่ที่มีการแก้แล้ว ส่วนจะเป็นการแก้ที่”ถูกทิศทาง”  หรือไม่ นั้นคือ” พาณิชย์จังหวัดกระบี่” ประกาศไปถึง”ลานปาล์ม” ทั้งหมด ให้หยุดรับซื้อ”ผลปาล์มร่วง” จาก”เกษตรการชาวสวนปาล์มอย่างเด็ดขาด ใครไม่เชื่อ ถูก”จับกุม” จะมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท หรือ “ทั้งจำทั้งปรับ” เจ้าของ”ลานปาล์ม” จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้นะ….

@ปัญหา”อุบัติใหม่” ที่”น่าวิตกกังวลของสังคมไทย” คือเรื่อง”เยาวชน”ที่มีการก่อ” อาชญากรรม” มากขึ้นทุกขณะ การแก้ปัญหายังคงเป็นเรื่อง”วัวหายล้อมคอก” เช่นเรื่อง”ป้าบัวผัน”กับ”ลุงเปี๊ยก” ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ประเด็นที่ต้องถามถึงคือ วันนี้”กฎหมายที่ใช้กับเยาวชน” จำเป็นต้องนำมา”พิจารณา” และต้องมีการ”สังคายนา” กันใหม่อีก”สักรอบ” ดีหรือไม่ดี  ตรงไหนที่”หย่อนยาน”และเป็น”ปัญหา”ที่สมควรแก้ก็ต้องแก้อย่างคิดแต่เรื่องการ”คุ้มครอง” จนมีการ”ละเลย” ในเรื่องของ”ข้อเท็จจริง”ที่เกิดขึ้น…..ที่ผ่านมาเรา”ผิดพลาด”หรือไม่” ที่มีการดึงไม้เรียว” จากมือของคนที่”เป็นครู” ที่เป็นผู้”สั่งสอนเด็ก” จนทำให้ไม่มีการ”ลงโทษ” เด็กๆ ในขณะที่”พ่อ –แม่ “ ก็ไม่มีเวลาในการ”ดูแล –อบรม” จนทำให้”เยาวชน”เป็นปัญหา”สังคม” และก่อ”อาชญากรรม”มากขึ้น เรื่องนี้เป็น”เรื่องใหญ่” ที่ กระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทุกกระทรวงต้องมีการ”บูรณาการ” เพื่อแก้ปัญหา โดยเฉพาะ” เสี่ยนิด” ในฐานะ”ผู้นำรัฐนาวา” ต้องให้ความ”ใส่ใจ” เรื่องนี้ให้มากเหมือนกับเรื่อง”เศรษฐกิจ” เพราะ”เยาวชน”คือ”อนาคตของประเทศชาติ”…..

@และ”ผลพวง” จากการก่อ”อาชญากรรม” ของ”เยาวชน” ที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ต่อ”ป้าบัวผัน” และการนำ”ลุงเปี๊ยก”ไปเป็น” แพะรับบาป” ยิ่งทำให้เป็นชัดว่า”ตำรวจ” เป็น”หน่วยงาน” ที่ต้องมีการ”ปฏิรูป” อย่าง”เร่งด่วน” แต่เมื่อ” เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ที่ทำหน้าที่กำกับดูแล”สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” แสลงคำว่า”ปฏิรูป” โอกาสที่จะเห็นการ”ปฏิรูป” องค์กรตำรวจ คงจะเกิดขึ้นได้ยาก วิธีการแก้ปัญหาของ”ตำรวจ”คือ”วัวหายแล้วล้อมคอก” เป็นเรื่องๆอย่างที่เห็น เช่นการ”เด้ง” นายตำรวจ ที่เป็น ผกก, และ ตำแหน่งที่รองลงมา เพื่อให้สังคมเห็นว่ามีการ”ลงโทษ” คนผิด และก็ จบ …. และเมื่อเกิดเหตุการณ์ แบบเดียวกันขึ้น ก็ใช้”วิธีการเดิม” คือ”เด้ง” ผู้ที่ทำหน้าที่”ผู้นำหน่วย” จนการใช้นโยบาย”เด้ง” ผู้นำหน่วย กลายเป็นเรื่อง”ปกติ” ของ “ตำรวจ” ที่ไม่มีใครกลัว และกลายเป็นโรค”ดื้อยา”ไปเรียบร้อย “โรงเรียนตำรวจ”ไปแล้ว   การแก้ปัญหาของ”ตำรวจ” ประธาน ก.ตร. ที่นั่งเป็น”ประธาน” ในการ “แต่งตั้ง-โยกย้าย” ต้องไม่ใช่”นายกรัฐมนตรี” แต่ต้องมีการ”เลือกตั้ง”ประธาน ก.ตร.” แบบเดียวกับ”ประธานคณะกรรมการอัยการ( กอ )  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงจะได้รับการ”ปฏิรูป” อย่างแท้จริง…..

@ที่นี้เขียนถึงเรื่อง”วัวเถื่อน” ที่มีการ”นำเข้าจากภาคเหนือ” ที่ติดกับชายแดน”เมียนมา” เข้ามายังภาคใต้ และส่วนหนึ่ง”ส่งออก” ทาง”ช่องทางธรรมชาติ” ( เถื่อน ) ไปยัง”มาเลเซีย” ไม่ผ่านการ”กักสัตว์” ตามที่ กฎหมายของ”กรมปศุสัตว์” บังคับ มาแล้วหลายครั้ง แต่ หน่วยงานที่รับผิดชอบ”เอาหูทวนลม” …..วันนี้ “เฉลิมชัย” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีต “เสนาบดีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์” ซึ่งกำลัง”ของขึ้น” จากการถูก”กล่าวหา” ว่ามีส่วน”พัวพัน” กับเรื่องการนำเข้า”ตีนไก่” และ”หมูเถื่อน” จึงออกมา”เปิดโปง” เส้นทางนำเข้า”วัวเถื่อน”จาก”เมียนมา” ซึ่งเป็นการ”เอาคืน” นักการเมือง”บางคนบางพรรค” ที่เป็นผู้อยู่”เบื้องหลัง” ของการนำเข้า”วัวเถื่อน” จาก”เมียนมา” แบบ”เถื่อนๆดิบๆ” ก็เป็นหน้าที่ของ “ดีเอสไอ”ในการ”แกะรอย” ขบวนการนำ”วัวเถื่อน” ข้ามประเทศ และส่งไป”มาเลเซีย” อย่าง”เป็นลำเป็นสัน” เขาทำกันอย่างไร   ส่วนเป็นนักการเมืองพรรคการเมืองไหน “ลูกเด็กเล็กแดง” ใน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ทราบดี….

@พูดถึงเรื่องของ “ดีเอสไอ” มีประชาชน”ฟ้องมา” มีผู้อ้างเป็น”เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ” ( บางคน ) ยัง”เดินสาย”เพื่อ”เก็บส่วย” จาก กลุ่มผู้ค้าบุหรี่หนีภาษีในภาคใต้ ล่าสุดมีการ”จับกุม” ที่ จ.ภูเก็ต” ที่เป็นการจับแบบ”เลือกที่รักมักที่ชัง” พวกเดียวกันที่”จ่ายแล้ว” ไม่จับ แต่ไปจับ”คู่แข่ง” ของพวกเดียวกัน และที่สำคัญ”ผู้ที่อ้างว่าเป็น”ดีเอสไอ” ผู้นี้ มีร้าน”บุหรี่เถื่อน” ตั้งอยู่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เรื่องนี้ต้องร้องไปยัง”ยุทธนา แพรดำ “ รักษาการอธิบดี ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบด้วย เพราะ ดีเอสไอ มีหน้าที่”ไล่จับผู้ที่ทำผิด” ในหน่วยของ”ดีเอสไอ” ต้องไม่มี”เหลือบแอบแฝง”อยู่ จริงหรือไม่ …..

@ส่วน “สำนักก่อสร้างทางหลวง 18 สงขลา” ใครที่เป็น”ผู้อำนวยการ” ก็ให้”เงี่ยหู” ฟังเสียงของ”เจ้าของกิจการ” ที่เกี่ยวข้องกับ”อิฐ หิน กรวด ทราย” ไว้บ้าง  ตรวจสอบ “ลูกน้อง” ให้มีความ”เป็นธรรม” กับ”เจ้าของกิจการ” อย่า”เลือกที่รัก มักที่ชัง” หรือมีความ”ลำเอียง” ถ้าเป็น”พวกเดียวกัน” ถูกต้อง ทั้งที่”ไร้มาตรฐาน” ส่วน”เจ้าของกิจการ” ที่ไม่ใช่”พวกพ้อง” ถึงมี”มาตรฐาน” ก็หาทาง”กีดกัน” ข่าวว่ามี”เจ้าของกิจการ”บางส่วนที่”หมดความอดทน” จะออกมา”แฉ” ถึงความ”ไม่ชอบมาพากล” ที่อาจจะทำให้”ตายหมู่” เกิดขึ้น…..

@เรื่องความไม่ชัดเจนทางทะเลของ”อุทยานแห่งชาติ” ที่ จ.สตูล ทำให้ “เรือประมง” จำนวนหนึ่งถูกจับกุมในข้อหา”รุกล้ำพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา” ซึ่งขณะนี้ ชาวประมงเจ้าของเรือที่ถูกจับกุม ได้ร้องเรียนไปยัง”ศูนย์ดำรงธรรม” เพื่อขอให้มีการคืน”เรือของกลาง” เรื่องนี้”ผิด-ถูก” เป็นอย่างไร “ข้อกฎหมาย”และ”ข้อเท็จจริง””ต้อง”ล้อ”กันไปได้ ก็เชื่อว่า “ศักระ กปิลกาญจน์”  ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล คงจะ”พิจารณา” เพื่อสร้าง”บรรทัดฐาน”ของความเป็นธรรมให้กับ ประชาชน…..ส่วนตรงนี้เป็นเรื่อง”อิทธิพล”ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ต.วังมะปรางเหนือ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ที่ใช้”อิทธิพล” ส่ง”ลูกสมุน” วางยาเครื่องจักรกลของ”ผู้รับเหมาต่างถิ่น” ที่เป็น”ผู้ประมูลงานก่อสร้างถนน”รวมทั้ง”บีบ” ให้”ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง” ในพื้นที่ ไม่ให้ขายวัสดุให้กับบริษัทที่ประมูลงานได้ เพื่อ”บีบบังคับ” ให้มีการ”ทิ้งงาน” เรื่องนี้ “พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์  คีตโมทนียกุล” ผบก.ภ.จว.ตรัง ต้องดำเนินการนำ”คนร้าย” และ”ผู้บงการ” มาดำเนินการตาม”กบิลเมือง” ให้ได้ อย่างให้”คนร้ายลอยนวล”…..

@สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปี 2567  เจ้าหน้าที่ถูก”ซุ่มโจมตี” จาก” กองกำลังติดอาวุธ” ของ”ขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น” ถี่ขึ้น ตั้งแต่ ต้นเดือน มกราคม เป็นต้นมา “ทหารพราน,ตชด.” และ”อาสาสมัคร” กลายเป็น”เหยื่อ” ครบถ้วนเหลือเพียง”ชรบ.” ที่ยัง”อยู่รอดปลอดภัย” ก็อยู่ที่”เจ้าหน้าที่รัฐ ในพื้นที่ ซึ่งต้องมีการ”เคลื่อนไหว” ในการ”ปฏิบัติภารกิจ” และการ”เดินทางต้องมีการปรับตัว ” ต้องมี”การข่าว” และการป้องกันตนเองให้”รัดกุม” โดยเฉพาะ”จุดเสี่ยง” ทุกจุด ที่เหมาะกับการ”ซุ่มโจมตี” ต้องมีการ”ลาดตระเวน” เพราะเกือบทุกครั้งที่มีการ”สูญเสีย” ส่วนหนึ่งมาจากการ”ปฎิบัติการ” ที่ยัง”ไม่รัดกุมพอ….แต่ เรื่องที่น่าเป็นห่วงคือเรื่อง”ปฏิบัติการทางการเมือง” ที่”ขับเคลื่อน”โดย”ภาคประชาสังคม”ที่ทำหน้าที่เป็น”ปีกทางการเมือง”ของ”บีอาร์เอ็น” ที่ใช้โอกาสที่ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า มีการ”บังคับใช้กฎหมาย” กับกลุ่มผู้นำ”ภาคประชาสังคม” ที่ทำ”ผิดกฎหมาย”  ทำการ”ร้องเรียน” หน่วยงานต่างๆ ทั้งในประเทศ และใน”องค์กรสหประชาชาติ” ว่าถูก”รังแก” จาก” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ด้วยการ”บิดเบือนข้อเท็จจริง” เพราะ”ข้อเท็จจริง” ที่ “กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” กล่าวหา” กลุ่มผู้นำ”ภาคประชาสังคม” คือการกระทำที่”เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ” ส่วนจะเป็นการ”รู้ไม่เท่าทัน ”หรือ”จงใจ เจตนา” เป็นหน้าที่ของทั้ง”ผู้กล่าวหา” และผู้ถูก”กล่าวหา” ต้องนำข้อเท็จจริงไป แสดงให้”ศาลสถิตยุติธรรม”เป็นผู้”ตัดสิน”….แต่สิ่งที่”ผู้ถูกกล่าวหา”นำไป”บิดเบือน” ด้วยการให้”ข้อมูล” กับ หลายๆ”หน่วยงาน” ทั้งในประเทศ และใน”ยูเอ็น”ว่า ถูก”กล่าวหา” ว่าทำความผิดในข้อหา แต่งกายในเครื่องแต่งกายที่เป็น ”อัตลักษณ์มาลายู” ซึ่งเป็น”คนละเรื่อง”กับข้อ”กล่าวหา” จาก” กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” และ แม้ว่า “พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน. ได้แถลงข้อเท็จจริงให้กับ “กรรมาธิการสันติภาพ”อย่าง”ชัดเจน” แต่”ปีกทางการเมือง”ของ”บีอาร์เอ็น” ก็ยังมีการ”บิดเบือน” และ”กล่าวหา” ว่าพวกตนถูก”จับกุม” ในข้อหาการแต่งกายตาม”อัตลักษณ์มาลายู” ในวัน”มาลายูเดย์….

@การที่”กลุ่มนักเคลื่อนไหว” พยายามให้ “หน่วยงานด้านสิทธิมนุษย์ชน”และ”เอ็นจีโอ” ทำการ”กดดัน” ให้”กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า” ถอน”แจ้งความ” เพื่อไม่”เอาผิด” ใน”ความผิด” ที่เกิดขึ้น  นั่นหมายถึงการใช้”กฎเถื่อน” หรือ”กฎหมู่” อยู่เหนือ”กฎหมาย” เป็นการไม่ยอมรับ”กฎหมาย”ของ”รัฐไทย” ใช่หรือไม่  ที่ผ่านมา “กลุ่มนักเคลื่อนไหว” ต่างเรียกร้องความ”เป็นธรรม” เรียกร้องให้ “ทหาร.ตำรวจ, หยุดการ”อุ้มหาย” หยุดการ”คุกคาม” คนในพื้นที่ และเรียกร้องให้มีการใช้”กฎหมาย” ด้วยความ”เท่าเทียม”และ”เป็นธรรม” แต่ทำไม่เมื่อตนเอง”ทำผิด” จึง”ปฏิเสธ” ที่จะเข้าสู่”ขบวนการยุติธรรม”  และถ้าทุกคนในพื้นที่ซึ่ง”ทำผิด” ต่างไม่ยอมรับการ”บังคับใช้กฎหมาย” แล้วพื้นที่”จังหวัดชายแดนภาคใต้”จะไม่เป็น”สเตทเฟล” หรอกหรือ แล้ว”บ้านเมือง”จะอยู่กันอย่างไร  กรณีนี้ คน”ส่วนใหญ่” ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เห็นด้วย เห็นใจ และให้กำลังใจ” พล.ท.ศานติ ศกุลตนาค” มีทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4  ที่บังคับใช้กฎหมาย กับเรื่องที่เกิดขึ้น ผิด ถูก ให้จบที่”ศาลสถิตยุติธรรม” เพื่อการ”ธำรง”ไว้ถึงความ”ศักดิ์สิทธิ์” ของ”กฎหมาย” และให้รู้ว่า”บ้านเมืองมีขื่อมีแป” ไม่ใช่ความผิดที่เกิดขึ้น จบ และไม่ถูกดำเนินคดีเพียงการชี้แจงว่า”รู้เท่าไม่ถึงการณ์” หรือ”ผมไปชี้แจ้งแล้ว” ทำไมจึงต้อง”กล่าวหาผมอีก”…..

@เห็น”โศกนาฎกรรม” โรงงานทำพลุระเบิด ที่ จ.สุพรรณบุรี ที่ทำให้มี”ผู้เสียชีวิต”ถึง 23 ศพ. ก็ให้เป็นห่วง เรื่อง สถานที่”เก็บพลุ-ประทัด-ดอกไม้ไฟ”ในพื้นที่เมืองใหญ่ๆ ของภาคใต้ตอนล่าง เช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ที่มี  “โกดัง” ในการ”เก็บพลุ” เพื่อขายใน”เทศกาลตรุษจีน” ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ นี้  “โกดัง” ที่”มิดชิด” และ”ห่าง”ชุมชน” ไม่น่าห่วง แต่กับ”ห้องแถว”และ”อาคารพาณิชย์”ที่เป็นที่”ซุกซ่อน” ที่ใช้”หลบเจ้าหน้าที่” และอยู่ใน”ตัวเมือง”  ทั้งใน “เทศบาลนครหาดใหญ่” และใน”เทศบาลสุไหงโก-ลก” โดยเฉพาะ”สุไหงโก-ลก” ที่มีการ”ซุกซ่อน” เพื่อ”ส่งขาย “พ่อค้ามาเลเซีย” ว่าที่ ร.ต. ตระกูล โทธรรม”   ผวจ.นราธิวาส ต้องให้ นายอำเภอ, ผู้กำกับ เข้มงวด ตรวจค้น ให้ทั่วถึง บทเรียน”โกดังพลุระเบิด ” ที่บ้านมูโนะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อกลางปี 2566  ยังคง”หลอกหลอน” คนในพื้นที่ อย่างให้”ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”….. 

@ต้อง ขอบคุณ “สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของการปราบปราม”ยาเสพติด” เป็นปัญหาอันดับต้นๆ ของ จ.สงขลา  ซึ่งหลังจาก”คอลัมน์นี้” ได้ “ตีแผ่” เรื่องของการ”ขายน้ำกระท่อม”ริมถนนสายหลักๆ ปรากฏว่า ผู้กำกับ นายอำเภอ และ สาธารณสุข” ในหลายพื้นที่ ได้ออกตรวจ และ”จับกุม” ผู้ที่”ขายน้ำกระท่อมที่ผสมยาแก้ไอ” ไปแล้วในหลายอำเภอ เป็นการ “ลดปัญหาสังคม”ในระดับหนึ่ง  เพราะ”น้ำกระท่อม”ที่ผสม”ยาแก้ไอ” ถ้า”เสพติด” ก็จะมีการ”หลอน” ไม่ต่างกับ”ยาบ้า” ซึ่งวันนี้กลายเป็น”ภัยสังคม” ที่ “อันตราย” ทั้งกับคนใน”ครอบครัว”และ”คนใน”สังคม” ……

@หลังปีใหม่ 2567 คดีของ”แป้ง นาโหนด” หรือ”เชาวลิต ทองด้วง”เงียบฉี่เป็น”เป่าสาก” ไม่มีความคืบหน้า ทั้งในเรื่อง”ติดตามจับกุม” และในเรื่อง”สืบสวน”เอาผิด” กับ กลุ่มคนที่พา”แป้ง นาโหนด” หลบหนี รวมทั้ง ผลการตั้งกรรมการ”สอบ” นายตำรวจ ที่มีส่วน”พัวพัน” กับ”แป้ง นาโหนด” ก็หายไปกับ”สายลมเทือกเขาบรรทัด” พล.ต.ท. ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี” ผบช.ภ.9  ไม่คิดที่จะ”สะสาง” คดีนี้ให้เป็นผลงานชิ้น”โบว์แดง “ กับเขาบ้างหรือ หรือ “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” ผบ.ตร. คิดจะ”ปิดคดีนี้” แบบ ดื้อๆ อย่างนี้เลยหรือไร…..

@บรรทัดนี้ยินดีด้วยกับ “เอก ยังอภัย ณ สงขลา” นายอำเภอเบตง จ.ยะลา ที่ได้รับการแต่งตั้งให้มาเป็น”นายอำเภอหาดใหญ่”  จ.สงขลา เพื่อรอ”ขึ้นแท่น” เป็น”ปลัดจังหวัดสงขลา” ในปีหน้า ส่วน”นพพร หนูเพชร” นายอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา ก็”ได้ดิบได้ดี”ย้ายไปเป็น”นายอำเภอเมืองยะลา จ.ยะลา….. สำหรับ นายอำเภอเบตง จ.ยะลา เมือง ท่องเที่ยว ชายแดนมาเลเซีย ได้”นักปกครองมือดี” อมร ชุมช่วย” นายอำเภอยะหา จ.ยะลาไปเพื่อ พัฒนาให้” เมืองในหมอก” มีความ “รุ่งเรือง” ยิ่งขึ้น สำหรับนายอำเภอสะเดา จ.สงขลา เมืองชายแดน มาเลเซีย ที่นักปกครองจำนวนมาก ต้องการมาอยู่  โยกย้ายครั้งนี้     ได้ “วิเชษต์ สายกี้เส้ง “ นายอำเภอปะนาเระ  จ.ปัตตานี มาเป็นนายอำเภอสะเดา เพื่อ”เป็นมือทำงาน” แก้ปัญหา”ยาเสพติด” และ”อื่นๆ ให้กับ”สมนึก พรหมเขียว” ผวจ.สงขลา และ”สุรัตน์ ลายจันทร์”  นายอำเภอระโนด ย้ายจาก”ฝั่งทะเลระโนด มาเป็นนายอำเภอเมือง สงขลา ซึ่งเป็นเมือง”สองทะเล” และ “คนระโนด ก็ได้”วรพันธ์ สุวรรณยุหะ “ นายอำเภอบางแก้ว จ.พัทลุง มาเป็น นายอำเภอระโนด จ.สงขลา ก็เชื่อมั่นว่า ทุกคนจะเป็น”ที่พึ่ง” ของ “ประชาชน”ได้ …..แล้วพบกันใหม่วันศุกร์หน้า สวัสดีครับ

————————————————————- 

ไชยยงค์ มณีพิลึก 

สมรส-สมรัก.   พลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธานในงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรส ระหว่าง ฉัตรชนก กิจทวี กับ ภาณุวัฒน์ ยกศิริ ณ ห้องอาหารคิงส์ตัน โรงแรมคริสตัล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยานคับคั่ง 

กิจกรรมวันเด็ก.    พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ( ศอ.บต.)เป็นประธานเปิดกิจกรรมวันเด็ก ณ ศูนย์กีฬาเยาวชน ต.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา โดยมี ยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม ร่วมด้วย 

ต้อนรับ.  กันต์พงษ์   ลิ่มกาญจนา พร้อมคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดยะลาได้ต้อนรับคณะบริหารของห้าง Big-C ที่จะเปิดในพื้นที่จังหวัดยะลาในปีนี้เพื่อขอให้หอการค้าสนับสนุนด้วยครับหอการค้ายินดีสนับสนุนพร้อมผลักดันแรงงานให้คนในท้องถิ่นมางานทำ 

เยี่ยมสถานพินิจ.   ประเสริฐ ช่อดอก.   ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลร่วมกับคณะผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัว  จ.ยะลาเข้าเยี่ยมเยาวชนสถานพินิจ จ.ปัตตานี โดยมี จิรวิทย์ แซ่เจ็ง ประธานผู้พิพากษาสมทบฯ จ.ยะลาร่วมด้วย 

สถาปนา.    พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน สมนึก พรมเขียว ผวจ.สงขลา ร่วมงานสถาปนาคณะกรรมการหอการค้า จ.สงขลา และแสดงความยินดีกับ ทรงพล จังศิริวัฒนาธำรง ดำรงตำแห่งประธานหอการค้า ณ ห้องประชุมโรงแรมบุรีศรีภู บูติก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

ตรวจเยี่ยม. พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.9 .และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม มว.ฉก. นปพ.ปัตตานี 22 อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี พร้อมมอสิ่งของและเงินเพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พ.ต..สมยศ สมบัติมาก ผกก.สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี ร่วมให้การต้อนรับ 

ลงนาม Mou .  มุขตาร์ มะทา นายก อบจ.ยะลา เปิดอาคารอเนกประสงค์ พร้อมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่าง อบจ.ยะลา ร่วมกับเทศบาลตำบลบาลอ เพื่อส่งมอบอาคารอเนกประสงค์ คสล. 2 ชั้นให้กับชุมชนบ้านปูลัย เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ในกิจกรรมต่างๆ โดยมี นางสาวรุ่งกานต์ สิริรัตน์เรืองสุข รักษาการปลัด อบจ.ยะลา กล่าวรายงาน 

มอบบ้าน.พงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา พร้อมด้วย สมาชิกสภาเทศบาลนครยะลา ลงพื้นที่ เข้ามอบบ้านน็อคดาวน์ พร้อมตกแต่ง ติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง จำนวน 2 หลัง เพื่อช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จากเหตุการณ์น้ำท่วม  ณ พื้นที่ริมแม่น้ำสายบุรี ต.อาซ่อง อ.รามัน จ.ยะลา 

ตรุษจีน.   เศวต เพชรนุ้ย รอง ผวจ.สงขลา เป็นประธานแถลงข่าวการจัดวานเทศกาลตรุษจีน หาดใหญ่ ประจำปี 2567 โดยมี อู๋ เหมย ตง กงศุลใหญ่สาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำ จ.สงขลา ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.ร่วมด้วย 

เปิดการท่องเที่ยว.   ไพเจน มากสุวรรณ์ นายก อบจ.สงขลา เป็นประธานเปิดสะพานสองทะเลเพื่อเป็นสถาที่ท่องเที่ยวของ จ.สงขลา โดยมี อธิการบดี ม.ศรีวิชัย สงขลา ให้การต้อนรับ ณ ริมทะเลสาปสงขลา ต.บ่อยาง อ.เมือง สงขลา 

เยี่ยมสวน. ปรเมศ เห้งสวัสดิ์ นายอำเภอสทิงพระ จ.สงขลา ลงพื้นที่ เยี่ยมสวนมะพร้าวน้ำหอมของเกษตรกรในพื้นที่ โดยมี วิโรจน์ เอี่ยมสุวรรณ ประธานสภาเกษตรกรสงขลา ให้การต้อนรับ ณ สวนผู้ใหญ่เอ็ม ต.ชุมพล อ.สทิงพระ ข.สงขลา 

ให้กำลังใจ.  อัมรันท์ บากา นายอำเภอกาบัง จ.ยะลา พร้อมด้วย ปลัดอำเภอ ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและเยี่ยมให้กำลังใจ อัฟซูวา  บาโง และ ครอบครัว ผู้ประสบภัย ณ บ้านลูโบ๊ะปันยัง ต.กาบัง อ.กาบัง จ.ยะลา 

วันครู.   ณ โรงแรมเรือรัษฎา อ.เมืองตรัง จ.ตรัง วิชาญ  ชัยเศรษฐสัมพันธ์ รอง ผวจ.ตรัง เป็นประธานงานวันครู เป็นการน้อมรำลึกพระคุณของครู ครั้งที่ 68 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ตรัง เขต 1 พร้อมเกียรติบัตรให้กับ “ครูดี ศรีตรัง 1” 

ลงพื้นที่.    บัณฑิต คณะสุวรรณ์  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง มอบหมายกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ติดตาม ตามแนวทางในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การทุจริตโครงการอาหารกลางวันนักเรียน มิให้เกิดปัญหาการทุจริตในสถานศึกษา โดยได้ลงพื้นที่โรงเรียนวัดนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง 

Food Fun tair.   ว่าที่ ร.ต.ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานเปิดงาน ฟู้ด ฟัน แฟร์  จัดโดย เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยมี สุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ให้การต้อนรับ ณ บริเวณตลาดโต้รุ่ง ถนนวรคามินทร์ เขตเทศบาลสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 

ห่วงใย.   วิสันต์ ประเสริฐศรี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มเยียวยา เข้าเยี่ยมอาการของ เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่  44 ที่ถูก แนวร่วม ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ซุ่มโจมตี ขณะคุ้มกันคณะอาจารย์ ม.ราชภัฎยะลา ณ ร.พ.สิริรัตนรักษ์ อ.เมือง จ.ยะลา 

ช่วยเหลือ.   พญ.เพชรดาว โต๊ะมีนา ที่ปรึกษา รมว.การศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม และ นัจมุดดีน อูมา ประธานคณะทำงาน รมว.แรงงาน นำสิ่งของลงพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อช่วยเหลือผู้ประสพภัยน้ำท่วม 

สวัสดีปีใหม่.   เศวต เพชรนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหสัดสงขลา มาสวัสดีปีใหม่ 2567 กับ ไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ที่สำนักงานสมาคมฯ ถนนไทยอาคาร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 

ท่องเที่ยวตรัง.  ทรงกลด สว่างวงศ์  ผวจ.ตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม BIKINI RUN TRANG  ครั้งที่ 5 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง ผ่านกิจกรรมการวิ่ง ณ ท่าเทียบเรือปากเมง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง  โดยการท่องเที่ยวและโรงแรมจังหวัดตรัง ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เป็นผู้ดำเนินการ