“ความเก่งไม่ได้ทำให้คุณเติบโต ทัศนคติที่ดีต่างหากจะทำให้คุณเติบโต..วันๆ ไม่รู้มีเรื่องอะไรมากมายให้คิดให้ทำ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป”

กลายเป็นเรื่องงามไส้ขึ้นมาอีกครั้งสำหรับวงการสีกากี เมื่อเพจ ’สายไหมต้องรอด‘ แชร์เรื่องราวสุดช็อกโดยมีข้อความระบุว่า “ห๊ะ! นร.หญิง ม.5 ขี่ จยย. ไปเรียนกับน้อง ถูกตำรวจเรียกตรวจ พบไม่มีใบขับขี่ ตร. เรียก 2,000 บาท น้องไม่มีจ่าย จึงถูกพาไปย่ำยีข้างโรงพัก!”

เรื่องราวคือว่า คุณแม่ของน้องนักเรียนชั้น ม.5 ร้องขอความเป็นธรรมว่า ลูกสาวถูกนายตำรวจยศ “ร.ต.อ.” ข่มขืนกระทำชำเรา เหตุเกิดขณะลูกสาว 2 คน (ม.5 และ ม.3) กำลังขี่รถ จยย.ไปโรงเรียน ได้ถูกนายตำรวจเรียกตรวจและแจ้งว่าน้องไม่สวมหมวกกันน็อก และไม่มีใบขับขี่ จึงเรียกเงิน 2,000 บาท

เมื่อน้องบอกว่าไม่มีเงิน นายตำรวจจึงบอกให้น้อง ม.3 รอที่รถ และเรียกให้ น้อง ม.5 เดินเข้าไปในห้องข้างๆ โรงพัก จากนั้นได้บอกกับน้อง ม.5 ว่า หากไม่มี 2,000 มาให้ ก็ต้องมีอย่างอื่นมาแลก จากนั้นได้ลงมือข่มขืนน้อง ม.5 จนสำเร็จความใคร่

หลังข่มขืนเสร็จได้บอกกับน้องว่า “พรุ่งนี้ต้องมาให้…อีกนะ” ทำให้น้องกลัวมาก จึงตัดสินใจโทรฯ เล่าให้แม่ฟัง และเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร

กระทั่งเข้านี้ไปถึง บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็กและสตรีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีคำสั่งให้ ผบก.ภ.จว.ยโสธร ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยด่วน

ที่สำคัญนายตำรวจรายนี้ ทำหน้าที่เป็น “ครูแดร์” คอยเข้าไปสอนเรื่องการป้องกันตัวจากการถูกคุกคามทางเพศตามโรงเรียนจนเด็กหลายคนรู้จัก โดยจะเรียกว่า “ครู” เด็กบางคนให้ข้อมูลว่า เพื่อนนักเรียนเคยถูกนายตำรวจรายนี้ พูดคุยในลักษณะชู้สาวด้วย

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นความจริง เป็นตำรวจยศ ร.ต.อ. ของ สภ.ป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ได้สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพราะรับไม่ได้กับการกระทำนี้ ที่กระทำชำเราเด็กแทนค่าปรับ

กระทั่งมีการสอบสวนอย่างละเอียดและสรุปใจความทั้งหมดได้ว่า นางเอ อายุ 62 ปี ชาว อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร พา น.ส.บี อายุ 17 ปี 4 เดือน ผู้เป็นหลานสาวและเป็นผู้เสียหาย เข้าแจ้งความว่า ผู้เสียหายได้ขี่รถ จยย.ฮอนด้า ไม่ได้สวมหมวกกันน็อก ออกจากบ้านมากับน้องสาว ขี่มาจอดที่ข้างที่ว่าการอำเภอป่าติ้ว แล้วเดินไปซื้อขนมที่หน้าโรงพยาบาลป่าติ้ว

ขณะเดินกลับมาที่จอดรถไว้ พบตำรวจทราบชื่อภายหลัง คือ ร.ต.อ.กัมปนาท พิมภู อายุ 50 ปี รอง สว.สส.สภ.ป่าติ้ว ปฏิบัติหน้าที่งานจราจร ซึ่งข้อเท็จจริงคือไม่ได้มีการตั้งด่านตรวจแต่อย่างใดด้วย โดยยืนอยู่ที่ถนนบริเวณหน้าทางเข้าศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) โพธิ์ไทร อำเภอป่าติ้ว ก่อนจะเรียกมาสอบถามและจะเรียกค่าปรับ 2,000 บาท

แต่เมื่อผู้เสียหายไม่มีจ่าย จึงเรียกผู้เสียหายไปที่ห้องด้านหลังห้องเรียน กศน. แล้วได้กระทำอนาจาร โดยผู้เสียหายได้รีบไปที่โรงพยาบาลป่าติ้ว แล้วกลับเข้าบ้านไปบอกนางเอ ผู้เป็นยาย ก่อนเข้าแจ้งความดังกล่าว และมีการแข้งข้อหาพรากผู้เยาว์อายุเกินกว่า 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย

ล่าสุด ร.ต.อ.กัมปนาท ถูกสั่งให้ออกจากราชการ และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางจังหวัดยโสธร โดยคัดค้านการประกันตัว ซึ่งการกระทำผิดวินัยร้ายแรงชัดเจนอยู่แล้ว ก็คือไล่ออกจากราชการ

ซึ่งการถูกดำเนินคดีของ “ผู้กองหื่น” นี้นั้น อาจไม่น่าห่วงเท่ากับสภาพจิตใจของผู้เสียหาย ไม่รู้ความหวาดระแวงความหวาดผวาจะหายออกไปจากความรู้สึกได้เมื่อไหร่หรือนานแค่ไหน ทั้งๆ ที่ตำรวจคือผู้ที่จะต้องคอยปกป้อง แต่นี่กลับกลายมาเป็นซาตานเสียเอง

เพิ่งจะมีเรื่องเอาถุงดำคลุมหัวไปไม่กี่วันก่อน ตามมาด้วยเรื่องขายยาเสพติดข้างโรงพัก ต่อเนื่องมาติดๆ กับเรื่องนี้อีก ต้องยอมรับว่าเรื่องฉาวโฉ่ของตำรวจช่วงนี้..มันไม่แผ่วเลยจริงๆ.

ข่าวสารตำรวจ

เสริมสร้างความรู้
พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ จว.ขอนแก่น มอบหมายให้ ด.ต.สุพิชาติ ทุมเทียง ผบ.หมู่ (ป.) สภ.ชุมแพ ครูตำรวจ D.A.R.E. เข้าทำการสอนในเด็กนักเรียนชั้นประถมปีที่ 5-6 โรงเรียนบ้านธาตุ ต.หนองเขียด ตามโครงการการศึกษาเพื่อต่อต้านการใช้ยาเสพติดในเด็กนักเรียน (D.A.R.E. ประเทศไทย) ซึ่งเป็นโครงการที่บูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างตำรวจ โรงเรียน ครู และผู้ปกครอง ในการแก้ไขปัญหา ยาเสพติด โดยใช้หลักการป้องกันนำหน้าการปราบปราม

เปิดยุทธการไล่ล่า
พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.อ.นิเทศ สุดชารี
ผกก.สภ.ปลาปาก พ.ต.ท.ยงยุทธ วรสาร รอง ผกก.สส.สภ.ปลาปาก พ.ต.ท.ศรายุทธ ศรีมัญจาบุรี สวญ.สภ.หนองฮี พ.ต.ต.ธนกฤต จีระมงคลกุล สว.สส.สภ.หนองฮี พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองฮี สภ.ปลาปาก และฝ่ายปกครอง ร่วมกันบูรณาการปิดล้อมตรวจค้นตามหมายค้นและหมายจับศาลจังหวัดนครพนม ตามยุทธการเปิดปฏิบัติการไล่ล่า (เด็ดปีก) นักค้าอีสานเหนือ 252 เพื่อปฏิบัติการเชิงรุก เข้าปิดล้อมตรวจค้น จับกุมบุคคลตามหมายจับในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดยาเสพติดและดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินนักค้ายาเสพติดทุกรายให้ได้ผลอย่างเป็นรูปธรรมตามนโยบายของรัฐบาล ก่อนจับกุมนายชาคริต อายุ 31 ปี ลูกชายของอดีตตำรวจ ผู้ต้องหาคนสำคัญ พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า 6,459 เม็ด ยาไอซ์ 2.91 กรัม และอาวุธปืน เครื่องกระสุน พร้อมตรวจยึดรถ 3 คัน

รับมอบเสื้อสะท้องแสง-กระบองไฟ
พ.ต.ท.ธีรพงศ์ อุทยาน สวป.สภ.พระขาว ร.ต.ท.บรรเจิด รักถนอมรอง สว.(ป.) พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ จราจร, สายตรวจ สภ.พระขาว รับมอบเสื้อสะท้องแสง, กระบองไฟ จำนวน 20 ชุด จากบริษัทเบียร์ทิพย์ (1992)จำกัด เผื่อไว้ใช้ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และการตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันอาชญากรรม

ร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.พานทอง จ.ชลบุรี ร่วมมอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียน รวมทั้งร่วมแจกน้ำตาลและอวยพรวันคล้ายวันเกิดให้กับ นายเขจร (อ๊อด) หอมศิลป์ ประธาน กต.ตร.สภ.พานทอง และอดีตรองประธานผู้พิพากสมทบศาลแรงงานภาค 2 ในโอกาสจัดงานขอบคุณลูกค้าต้อนรับปีใหม่และเทศกาลตรุษจีน ห้างเพชรทองซิน 9 เยาวราช ต.บ้านเก่า อ.พานทอง โดยมี สรศักดิ์ จันเกษม ผู้พิพากษาอาวุโสและอดีตประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 7 สมบูรณ์ จิตรพัฒนากุล ผู้พิพากษาศาลฎีกา ชัชวาลย์ ไชยนาแพง ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 2 รุ่งทิพย์ ไชยนาแพง ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลแรงงาน ภาค 2 พฤทธิ์ สันวงค์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลแขวงชลบุรี ปัญญาวัฒน์ สนใจ เลขานุการศาลแรงงานภาค ประจำศาลแขวง ให้เกียรติร่วมงานด้วย

***************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป