จากที่เคยถูกมองว่าเป็นจุดหมายปลายทางที่มีต้นทุนต่ำ ในการผลิตเสื้อผ้า รองเท้า และเฟอร์นิเจอร์ ปัจจุบันเวียดนามกำลังจับตามองการไต่ระดับอย่างรวดเร็วในห่วงโซ่อุปทานโลก และนำชิปคอมพิวเตอร์มาเป็นหัวใจสำคัญของแผนการพัฒนา
แม้เป้าหมายดังกล่าวมีความเหมาะสมกับประเทศต่าง ๆ เช่น สหรัฐ ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางเศรษฐกิจกับรัฐบาลปักกิ่ง แต่เวียดนามมีอุปสรรคใหญ่ที่ต้องก้าวข้ามให้ได้ ซึ่งส่วนใหญ่คือ การขาดแคลนวิศวกรที่มีทักษะสูง
“ชิปกำลังดึงดูดความสนใจอย่างมาก ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน เมื่อก่อนฉันเคยใฝ่ฝันที่จะทำงานเป็นนักออกแบบชิป แต่ในตอนนี้ ฉันอยากเป็นศาสตราจารย์ เพราะฉันคิดว่า ประเทศของเราต้องการครูมากกว่านี้ เพื่อสร้างแรงงานที่ดีขึ้น” ลินห์ วัย 21 ปี กล่าว
ตามข้อมูลของบริษัทวิจัยตลาด “เทคนาวิโอ” ตลาดเซมิคอนดักเตอร์ของเวียดนาม ซึ่งถูกใช้ในทุกสิ่ง ตั้งแต่สมาร์ตโฟน ไปจนถึงดาวเทียม และการขับเคลื่อนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) คาดว่าจะเติบโต 6.5% ต่อปี และมีมูลค่าสูงถึง 7,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 255,000 ล้านบาท) ภายในปี 2571
ท่ามกลางกระแสฮือฮาที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมชิปเกิดใหม่ของเวียดนาม รัฐบาลคอมมิวนิสต์ระบุว่า จำนวนวิศวกรเซมิคอนดักเตอร์ของประเทศในปัจจุบัน ซึ่งมีอยู่ประมาณ 5,000 คน ต้องเพิ่มเป็น 20,000 ในอีก 5 ปีข้างหน้า และเป็น 50,000 คน ในอีก 10 ปีหลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม นายเหวียน ดึ๊ก มินห์ ศาสตราจารย์ด้านการออกแบบวงจรรวม (ไอซี) กล่าวว่า ขณะนี้เวียดนามผลิตวิศวกรที่มีคุณสมบัติได้เพียง 500 คนต่อปี ซึ่งไม่เพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ และเขาคิดว่า มันเป็นตัวเลขที่ท้าทายอย่างมาก
แม้นักศึกษาอิเล็กทรอนิกส์หลายคนรู้อยู่แล้วว่า พวกเขาต้องการมีบทบาทอะไรสาขาเซมิคอนดักเตอร์ แต่นักวิชาการบางคนกล่าวว่า เส้นทางที่บรรดาผู้นำของเวียดนามต้องการนั้น “ยากที่จะเข้าใจ” เนื่องจากมันไม่มีความชัดเจนว่า รัฐบาลต้องการมีสุดยอดบริษัทด้านเซมิคอนดักเตอร์ประจำชาติ ซึ่งต้องใช้เงินทุนและการลงทุนจำนวนมาก หรือพวกเขาแค่ต้องการดึงดูดการลงทุนในธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ในเวียดนามมากขึ้น
อนึ่ง มหาวิทยาลัยหลายแห่งในเวียดนาม เปิดหลักสูตรเพิ่มเติมในปีการศึกษานี้ ซึ่งมุ่งเน้นไปที่เซมิคอนดักเตอร์ และการออกแบบชิป แต่อาจารย์หลายคนกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ เวียดนามจำเป็นต้องลงทุนในการฝึกอบรมที่มีคุณภาพ ซึ่งช่วยให้นักศึกษาได้รับทักษะภาคปฏิบัติ ตามที่บริษัทชั้นนำของโลกต้องการ
ทั้งนี้ทั้งนั้น นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า เวียดนามมี “ความเสี่ยง” ที่จะเสียนักศึกษาจบใหม่ระดับแนวหน้า ให้กับประเทศผลิตชิปชั้นนำของโลก เนื่องจากเงินเดือนในเวียดนามค่อนข้างต่ำ แม้ว่าบุคคลนั้นจะเป็นผู้ที่มีทักษะสูงมากก็ตาม.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AFP