ว่ากันว่า…หลังหมดเทศกาลสนุกสุดมันในวันที่ 16 เม.ย.นี้ไปแล้ว กระบวนการปรับแต่งรัฐบาล “เศรษฐา 2″ จะเกิดขึ้นให้เห็นอย่างรวดเร็วทันใจทันควัน แบบชนิดที่เรียกว่า “เจ้าตัว” ที่เกี่ยวข้องต้องใจหาย!! เพราะทุกอย่างเกิดขึ้นว่องไวรวดเร็ว ปาน”กามนิตหนุ่ม” กันทีเดียว
จากเดิมกระแสจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนพ.ค. 67 แต่ผ่านไปไม่เท่าไหร่? ความครึกโครมของกระแสการปรับครม.ก็ประเดประดังเข้ามาในช่วง เทศกาลมหาสงกรานต์ ในห้วงเวลาแห่งความสนุก
รายชื่อที่ออกมา ก็คงคาดเดากันได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…”ขุนคลัง” คนใหม่ ที่พูดกันมานาน จากนายกฯเศรษฐา เป็น “พิชัย ชุณหวชิร” ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) วัย 75 ปี
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/Eco-15-04-67-02.jpg)
เช่นเดียวกับเหตุผลของการเปลี่ยนแปลง !! ด้วยเพราะนายเศรษฐา ต้องปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ที่มีภารกิจมากมาย จึงไม่มีเวลามากพอที่จะบริหารงานของกระทรวงการคลัง ที่เป็นตำแหน่งสำคัญในการบริหารเศรษฐกิจ
ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจ ที่ยังลูกผีลูกคน หลายนโยบาย ยังเดินหน้าได้ไม่คล่องตัว แม้ล่าสุดการผลักดันนโยบายเรือธงอย่างการแจกงินดิจิทัล วอลเล็ต จะออกมาเป็นรูปเป็นร่างให้เห็น
แต่อย่าลืมว่า… การบังคับใช้ ยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน แต่ต้องเนิ่นนาน รอไปจนถึงไตรมาส 4 หรือภายใน 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ แถมยังมีอีกสารพัดนโยบาย สารพัดมาตรการ ของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องรักษาคำมั่นสัญญาให้ได้
ทั้งการเดินหน้าผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวให้ได้ปีละ 5% การผลักดันนโยบายค่าแรงขั้นต่ำวันละ 600 บาท หรือการให้เงินเดือนปริญญาตรีที่เดือนละ 25,000 บาท ภายในปี 70
นอกจากนี้ยังมี นโยบายทุกครอบครัวมีรายได้ ไม่น้อยกว่า 20,000 บาทต่อเดือน เพื่อลดช่องว่างรายได้ เพื่อให้ครอบครัวมีรายได้เพียงพอที่จะเลี้ยงชีวิตต่อไป
นี่…เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวส่วนหนึ่ง ที่รัฐบาลเพื่อไทย ต้องรักษาคำมั่น เพื่อให้หล่อเลี้ยงคะแนนเสียง ไม่ให้ลดน้อยถอยลง หรืออย่างน้อยการเลือกตั้งในครั้งต่อไป ก็ต้องมีคะแนนเสียงเพิ่มมากขึ้น
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/Eco-15-04-67-01.jpg)
ดังนั้นการดึงคนที่เหมาะสม ดึงคนที่มีฝีมือ สังคมยอมรับได้ จึงเป็นเรื่องสำคัญ และที่ผ่านมาชื่อ “พิชัย ชุณหวชิร” ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครขัดข้อง กระแสวิพากษ์วิจารณ์มีน้อยมาก ทั้งที่ชื่อนายพิชัย ออกมานานกว่า 1 เดือนแล้ว
ว่ากันว่า … นายพิชัย มีความใกล้ชิด สนิทสนมและเป็นที่วางใจของผู้ที่มีอำนาจอย่างแท้จริง แถมยังอยู่หลังฉากทีมงานของ “หมอมิ้ง-พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ” เลขาธิการนายกรัฐมนตรีอีกต่างหาก
ไม่เพียงเท่านี้ บทบาทของนายพิชัย ยังมีอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นการส่วนตัว หรือต่อพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุนี้!! ชื่อของนายพิชัย กับเก้าอี้ขุนคลัง จึงมีออกมาให้เห็นอีกครั้ง
ส่วนสุดท้ายจะเอิงเอย หรือของแทร่ แน่นอน ก็ต้องรอดูกันต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเข้ามาขับเคลื่อนการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่ต้องเดินให้ได้แบบสมาร์ท แคชชวล
เพราะเวลานี้ แม้ทุกอย่างจะลงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แหล่งเงิน 5 แสนล้านบาท ที่จะนำมาใช้ในโครงการนี้ แม้ไม่ต้องกู้ตรง ๆ โดยออกกฎหมายให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินมาแจก
แต่การใช้ช่องทาง ตามมาตรา 28 แห่งกฎหมายการเงินการคลัง โดยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรหรือธ.ก.ส. ออกเงินให้ก่อนกว่า 1.72 แสนล้านบาท ก็กำลังกลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกระลอก
ถึงขนาดที่ว่าเกิดกระแแสดราม่าในโลกโซเชียล ที่จะชวนกันไปถอนเงินออกจากธ.ก.ส.กันเลย!!
![](https://www.dailynews.co.th/wp-content/uploads/2024/04/Eco-15-04-67-03.jpg)
จนแบงก์ของชาวนาชาวไร่ แห่งนี้ ต้องออกจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านช่องทางไลน์ เพื่อชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ของการทำหน้าที่ การเข้าไปสนับสนุนโครงการของรัฐบาลทั้งในด้านสินเชื่อ ในด้านแหล่งทุน ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนโครงการ“เรือธง” ของรัฐบาล
เหนือสิ่งอื่นใด แม้พันธกิจ ภาระหน้าที่ที่ดำเนินการภายใต้กฎหมายเฉพาะ แบงก์สีเขียวแห่งนี้ก็ยังโคงสามารถบริหารสภาพคล่องและความแข็งแรง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสถาบันการเงิน
เอาเป็นว่า ทั้งรัฐบาล ทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องพิสูจน์ ต้องนำกฎหมาย กฎระเบียบ ที่เกี่ยวข้อง มาชี้แจงแถลงไขต่อสังคมให้ได้ เพื่อให้ประเด็นค้างคาใจ เช่นนี้ หมดไปให้ได้
ก็หนีไม่พ้นที่ “ขุนคลัง” คนใหม่ก็ต้องเข้ามาบริหารจัดการ เพื่อให้ทุกอย่างเป็นเรื่อง “ชอบธรรม” กับรัฐบาล!!.
……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”