ชีวิตครูวัยเกษียณที่ไม่เคยหยุดนิ่ง พลิกสวนยางพาราหันมาปลูกทุเรียนหมอนทองแห่งแรกในพื้นที่ “ภูโน” เขตพื้นที่การดูแลของกลุ่มคอมมิวนิสต์ในอดีต ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพจนไม่พอส่งขาย ให้ความรู้เป็นวิทยาทาน รวมกลุ่มเป็นเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนแปลงใหญ่ ก่อนจะตกผลึก ใช้ชื่อแหล่งที่มาของทุเรียนว่า “ทุเรียนคอมมิวนิสต์”

นายวิสิทธิ์ แก้วคำแสน อายุ 65 ปี ครูเกษียณ ชาวบ้านทรัพย์สมบูรณ์ ต.ดูนสาด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ตั้งใจใช้ชีวิตหลังเกษียณอายุราชการเป็นเกษตรกร จึงหันมาปลูกทุเรียนตั้งแต่ก่อนเกษียณ 2 ปี เป็นการเตรียมตัว จาก 7 ต้น ก็ปลูกเพิ่มไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่าเป็นพืชสวนทางเลือก และเป็นแห่งแรกของ อ.กระนวน ซึ่งในอดีตที่ดินแปลงนี้ เคยปลูกไผ่ตง กล้วย มันสำปะหลัง จากนั้นทำการปลูกยางพารา ซึ่งได้ผลผลิตดีมาก หลังจากยางพาราหมดอายุ จึงทำการโค่นต้นยางออก และก็มาปลูกทุเรียน

นายวิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนเองเคยรับราชการครูที่โรงเรียนชุมชนดูนสาด ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เมื่อหลายสิบปีก่อน เป็นพื้นที่ของกลุ่มคอมมิวนิสต์ ปัจจุบันได้กลับเข้ามาพัฒนาชาติไทย เป็นเขตพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด คือ ขอนแก่น อุดรธานี และกาฬสินธุ์ เริ่มปลูกทุเรียนครั้งแรก 7 ต้น ปลูกแบบล้มลุกคลุกคลานเพราะยังไม่มีความรู้ ต่อมาได้รู้จักวิธีปลูกจากยูทูบ ศึกษาเอง ทดลองเอง โดยรู้จักไตรโคเดอร์มา ซึ่งเป็นชีวภัณฑ์ เมื่อก่อนจะมีปัญหาเรื่องเชื้อรา ปลูกแล้วมันจะไม่รอด พอฉีดตัวนี้ไปมันก็รอด รอดทั้ง 7 ต้น จากนั้นในปีต่อมา ได้ปลูกเพิ่มอีกทุกปี อายุเฉลี่ยกันไป บนเนื้อที่ 8 ไร่ รุ่นสุดท้ายปลูกในปี 2565 ซึ่งมีอายุ 2 ปี มีอัตราการรอดทุกต้น ตอนนี้มีจำนวน 100 กว่าต้นแล้ว

เกี่ยวกับเรื่องผลผลิตนั้น ถือได้ว่าผลผลิตดีมาก ทำการขายในสวนก็ไม่พอ เนื่องจากเรามีจำนวนน้อย ซึ่งผลผลิตมีคุณภาพ เปลือกบาง เม็ดลีบ เนื้อหวาน ผู้ซื้อไปรับประทานแล้วติดใจ ลูกค้าหลายคนชมไม่ขาดปากหลังจากรับประทานเปรียบเทียบจากที่อื่นแล้ว ส่วนเรื่องราคาก็ขึ้นอยู่ท้องตลาด ที่มีการซื้อขายตามฤดูกาล

ในมุมมองของตนเห็นว่า “ทุเรียน” เป็นพืชทางเลือกที่ยอดเยี่ยมมาก ถ้าหากทางการมองเห็น มีวิสัยทัศน์ที่จะมาช่วยกลุ่มผู้ปลูกทุเรียนเกษตรแปลงใหญ่ ต.ดูนสาด ก็น่าจะเป็นหนทางที่จะสร้างรายได้ให้กับท้องถิ่น ให้กับประชาชนผู้ปลูกทุเรียนในท้องถิ่นนี้เป็นอย่างดี ซึ่งได้มีเกษตรอำเภอ ได้ทำการประชุมผู้ปลูกทุเรียนใน อ.กระนวน ให้ข้อคิด ให้ความรู้ทางวิชาการ โดยได้มีการจัดตั้งกลุ่ม คือ “กลุ่มแปลงใหญ่ผู้ปลูกทุเรียนดูนสาด” โดยมีตนเองเป็นประธานกลุ่ม

“ในเรื่องของราคาทุเรียนที่กลุ่มเราปลูกนั้น ได้อิงกับราคาท้องตลาด 180-200 บาท ตนก็ขาย 150 บาทเมื่อปีกลาย ในปีนี้จะขายในราคา 170 บาท เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ซึ่งในปัจจุบันได้มีการใช้กระแสไฟฟ้าในการสูบน้ำจากบ่อบาดาล อีกทั้งยังมีการสั่งจองตั้งแต่ทุเรียนยังลูกเล็กเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนไม่สามารถตอบสนองออร์เดอร์เหล่านั้นได้”

ด้านนายพงศกรณ์ เสาร์ทน คณะทำงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่รับทราบปัญหาของพี่น้องผู้ปลูกทุเรียน ต.ดูนสาด ว่า ในการลงพื้นที่เพื่อทราบปัญหาของผู้ปลูกทุเรียนดูนสาดครั้งนี้ ทราบว่าในพื้นที่เป็นพื้นที่ที่แห้งแล้ง แต่ความแห้งแล้งของพื้นที่ก็ยังแพ้ความสามารถ และแพ้ความพยายามของเกษตรกรเรา จากที่ได้รับรู้รับทราบปัญหาหลัก ๆ คือเรื่องน้ำ ซึ่งในครั้งนี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรน้ำบาดาลลงพื้นที่ เพื่อมาทราบและหาแนวทางในการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านด้วย

แต่ปัญหาหลักก็คือพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตป่าสงวน ในภาคของการลงทุน เกษตรกรจะมีผลกระทบในเรื่องของการขอเงินลงทุน หรือการเข้าถึงแหล่งเงินทุนค่อนข้างยากและลำบาก ซึ่งทางคณะทำงานจะได้นำเรื่องเสนอต่อรัฐมนตรี เพื่อปลดพื้นที่จากป่าสงวนเป็นพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ เพื่อให้พี่น้องได้ทำมาหากินได้อย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ในส่วนของการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนโดยตรง กระทรวงเกษตรฯ จะได้ส่งนักวิชาการที่มีองค์ความรู้ เข้ามาให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนต่อไป

สำหรับกลุ่มแปลงใหญ่ผู้ปลูกทุเรียนดูนสาด มีพื้นที่เพาะปลูก 357 ไร่ เกษตรกร 87 ราย พื้นที่ให้ผลผลิต 58 ไร่ (4-5 ปี) สายพันธุ์ทุเรียนที่ปลูก หมอนทอง หลงลับแล ก้านยาว ที่มาของพื้นที่ปลูกเป็นเขตพื้นที่ของผู้กลับตัวกลับใจเข้าร่วมพัฒนาชาติไทย (คอมมิวนิสต์) จึงเป็นที่มาของชื่อ “ทุเรียนคอมมิวนิสต์”

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ยศวิน รัตนโชติกุลชัย จ.ขอนแก่น
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..