คลิป “ลูกเณรขอกอดแม่ แม่แอบกลับจากไต้หวันไปหา” กลายเป็นไวรัลดังใน TikTok เพียงไม่นาน ยอดคนดูถึง 2.3 ล้านวิว ทำเอาหลายคนน้ำตาซึมเมื่อเห็นเณรน้อยแสดงความดีใจหลังได้เจอหน้าแม่ที่พลัดพรากจากกันไปกว่า 5 ปี เพราะแม่ที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องไปทำงานที่ไต้หวันเพื่อส่งเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว ซึ่งขณะนั้นเณรน้อยอายุได้เพียง 3 ขวบเท่านั้น

เมื่อเณรเห็นหน้าแม่จึงเกิดความไม่แน่ใจว่าใช่แม่หรือไม่ แต่เมื่อยายและญาติเฉลยถึงกับชูมือกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ พร้อมกับถามยายว่า “กอดแม่ได้มั้ย” ยายก็ตอบว่า “ได้” จากนั้นเณรน้อยก็โผเข้ากอดทันทีน้ำตาแห่งความดีใจของสองแม่ลูกพรั่งพรูออกมาหลายคนที่เห็นถึงกับน้ำตาคลอไปด้วย

เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นที่วัดสุภโสภณ ต.ลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ “เณรเติ้ล” หรือ ด.ช.หัฎฐกรณ์ สุวิหาร อายุ 9 ขวบ ได้ร่วมบวชสามเณรภาคฤดูร้อน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ระหว่างวันที่ 20 เม.ย.- 6 พ.ค.67 ก่อนที่จะครบกำหนดสึก 1 วัน น.ส.กรรณิกา นาสินสอน อายุ 31 ปี แม่เณรเติ้ลได้เดินทางกลับมาจากประเทศไต้หวัน หลังจากที่ไม่ได้พบหน้าลูกนานถึง 5 ปี 5 เดือน ด้วยความที่แม่ลูกคิดถึงกันสุดหัวใจจึงได้โผเข้ากอดกันร่ำไห้ตามที่ปรากฎในคลิป

หลังจากที่เณรเติ้ลได้สึกออกมาก็กลับมาอยู่ที่บ้านตัวเอง เลขที่139 หมู่2 ต.โคกล่าม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้ใช้เวลาอยู่กับแม่ใกล้ชิดแทบไม่ห่างกันเลยทีเดียว เพราะแม่กลับมาครั้งนี้ก็มีเวลาอยู่ด้วยกันเพียงไม่กี่วันก็ต้องกลับไปไต้หวันเพื่อทำงานหาเงินต่ออีก

“กรรณิกา” ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า วินาทีนั้นรู้สึกตื้นตันใจจึงร้องไห้ออกมา ซึ่งตนเองไม่ได้กอดลูกนานแล้ว ไม่คิดว่าจะมีคนดูคลิปและติดตามเยอะขนาดนี้ ล่าสุดมียอดวิวถึง 2.3 ล้านคนแล้ว อาจจะเป็นเพราะคนคิดถึงลูกและไปทำงานต่างประเทศเยอะเหมือนตนเอง ซึ่งตนเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวไปทำงานที่ไต้หวัน และไม่ได้เจอน้องมานานมาก ซึ่งวันที่ตั้งใจจะกลับมาไม่ได้บอกให้ลูกรู้เพราะว่าจะมาเซอร์ไพรส์ก่อนลูกจะสึก 1 วัน ซึ่งวันที่ลูกเณรสึกเป็นวันที่ 6 พ.ค.

สำหรับชาวเน็ตที่เห็นคลิปเณรกอดแม่หลายคนได้คอมเมนต์ถามถึงที่มาที่ไป และมีหลากหลายความคิดเห็น อาทิ “สงสัยทำไมแม่ต้องไปทำงานต่างประเทศด้วย, ทำไมต้องทิ้งลูกเล็กไว้อยู่กับยายทวดอายุเกินกว่า 70 ปีไว้ตามลำพัง, หรือเงินที่ส่งมาให้จะบันดาลให้ลูกได้ทุกอย่างแม้แต่สภาพจิตใจ ซึ่งทุกความคิดเห็นก็ทำให้คนที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่าง “กรรณิกา” ถึงกับอึ้งเหมือนกัน เพราะในใจรู้ดีเสมอหากชีวิตนี้หากเลือกได้ก็เลือกที่จะอยู่กับลูกอย่างแน่นอน

“แต่กับชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ทำงานเพื่อเลี้ยงครอบครัวจึงต้องจำใจจากลูก จากพ่อแม่พี่น้อง ทิ้งความสุขส่วนตัวเพื่อไปหาเงินส่งมาช่วยเหลือครอบครัวและให้ลูกได้มีทุนการศึกษาได้เรียนหนังสือสูงๆ และเป็นทุนในการดำรงชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ จึงตัดสินใจเดินทางไปทำงานที่ไต้หวันเพราะค่าแรงสูงกว่าที่เมืองไทย

ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ 2 วัน ก็ต้องกลับไปทำงานไต้หวันแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับมาอีกตอนไหน สิ่งที่เป็นห่วงที่สุดคือ “น้องเติ้ล” เท้าน้องไม่ปกติ มีลักษณะบวมโต น้องป่วยเป็นโรคหลอดน้ำเหลืองและหลอดเลือดผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ตอนนี้ต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นประจำตามหมอนัด ที่ผ่านมามีทวด ยาย และน้าสาวคอยช่วยดูแลน้องเติ้ลลูกชายของตนให้เป็นอย่างดี”

ด้านนางทองพูน ปักกาละนัง อายุ 74 ปี ทวดน้องเติ้ล เล่าว่า แม่ของน้องเติ้ลเลิกกับสามีตั้งแต่น้องอายุได้เพียง 2 ขวบเศษ โชคดีที่น้องเติ้ลเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ส่วนแม่จำเป็นต้องเดินทางกลับไปทำงานต่อเพราะต้องการต่อยอดงานให้ได้เงินสูงสุดเท่าที่จะหาส่งกลับมาเมืองไทยได้ สงสารแต่หลานเมื่อได้ยินแม่บอกว่า “แม่กลับไปครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะได้กลับตอนไหน แต่ให้ลูกรู้ไว้ว่าแม่รักลูกที่สุด” ซึ่งถ้าหากจะถามความในใจของน้องเติ้ล ก็คงจะได้คำตอบเดียวว่าอยากให้แม่อยู่ด้วยตลอด แต่หลานก็เข้าใจว่าแม่ต้องไปทำงานหาเงินเพื่อให้ลูกได้มีอนาคตที่ดี

ด้านพระจักรพงษ์ จกฺกวํโส เลขานุการเจ้าคณะอำเภอลำปลายมาศ กล่าวว่า จากคลิปที่เณรกอดโยมแม่นั้น ก็อย่างว่าเณรก็คือเด็ก ยังไร้เดียงสาและไม่เคยเจอแม่มานานกว่า 5 ปี จึงขอกอดแม่ด้วยความคิดถึง แสดงความรักที่มีต่อแม่ เป็นเรื่องที่ไม่ผิดเพราะ “แม่คือผู้ให้กำเนิด”

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : วันชัย ผิวอร่าม จ.บุรีรัมย์
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..