รัฐบาลตีฆ้องร้องป่าวมีสารพัดมาตรการออกมาดูแลประชาชนคนไทย ไม่ให้ต้องทนทุกข์ยาก!! ในช่วงวิกฤติข้าวยากหมากแพง อันเป็นผลมาจากโรคระบาด

แม้ว่า “เงินกู้” ที่กู้มาจะทะลุเพดาน จนต้องขอมติ ครม.ขยายกรอบความยั่งยืนทางการคลังออกไปเพื่อให้สามารถกู้เงินเพิ่มในปีหน้า เพื่อมาดูแลปัญหาปากท้องพี่น้องคนไทย

ทั้งหลายทั้งปวง!! ก็เพราะ…ต้องพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ขึ้นมาจงได้ ยิ่งช่วงนี้ กำลังเข้าสู่ “วิถี” ของการเมือง ที่ทุกพรรคทุกฝ่าย ต้องขยัน ต้องออกงาน ต้องแสดงตัวให้พี่น้องคนไทยทั้งประเทศเห็น “ผลงาน” เพราะหวังช่วงชิงการเป็น “ผู้นำ” ในสมัยต่อไป

จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไม? ศึกการแย่งชิงพื้นที่สื่อ จึงดุเดือดเลือดพล่านกันแทบทุกวัน โดยเฉพาะการอาศัยช่วงจังหวะ “น้ำท่วม” เร่งเรียกคะแนนเสียงกันท่วมจอ

เช่นเดียวกับการ “ตีปี๊บ” สร้างความหวังให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยอีกครั้งผ่านโครงการ “บัตรคนจน” ที่บอกได้เลยว่า ถ้าดูสถานการณ์ ดูระยะเวลา ดูข้อเท็จจริง และอีกมากมายสารพัด

การออก… “บัตรคนจนรอบใหม่” จะยังไม่มีผลบังคับใช้ได้ทันในปี 64 นี้แน่นอน!! ดังนั้น…ใครที่คาดหวัง ตั้งความหวังจะได้เงิน ได้ความช่วยเหลือจากบัตรคนจนรอบใหม่ นะ ต้องรอไปก่อน

เพราะอย่าลืมว่า “บัตรคนจน” ในปัจจุบัน รัฐบาลเพิ่งอนุมัติใส่เงินช่วยเหลือเพิ่มเติมให้อีกเดือนละ 200 บาท ไปจนถึงสิ้นปี ขณะเดียวกันยังมีมาตรการอื่นสารพัดที่ออกมาช่วยประชาชนที่เดือดร้อน ทั้ง คนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ เราเที่ยวด้วยกัน เงินช่วยเหลือผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 มาตรา 39 หรือมาตรา 40

ระหว่างนี้ หากอ่านข่าว หรือดูข่าว กันให้ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง ที่เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้ ต่างก็ออกมาบอกว่าอยู่ระหว่างดำเนินการ อยู่ระหว่างทบทวน อยู่ระหว่างวางหลักเกณฑ์

ที่ชัดเจนที่สุดคือ “หลักการ” ที่ต้องออกมาให้รัดกุม โดยคนที่จะได้รับความช่วยเหลือผ่านโครงการนี้ ต้องเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยอย่างแท้จริง เพราะอย่าลืมว่าโครงการนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 3 ปี เพื่อช่วยเลือผู้มีรายได้น้อย ที่สำคัญก็ต้องการยกความเป็นอยู่ของผู้มีรายได้น้อยให้ดีขึ้น

ดังนั้น 3 ปีผ่านไป ตามข้อเท็จจริง ผู้มีรายได้น้อยควรจะลดลง แต่ด้วยพิษของโควิด ก็อาจทำให้จำนวนผู้มีรายได้น้อยอาจเพิ่มขึ้น ไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้แต่แรกก็เป็นไปได้!!

มีการคาดการณ์กันว่า ภายในเดือน ต.ค.นี้ ความชัดเจนของ “บัตรคนจน” รอบใหม่ จะชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคุณสมบัติของผู้ที่เข้าโครงการ ที่ชัดเจนแล้วว่าจะใช้ “รายได้ต่อครัวเรือน” มาเป็นตัวกำหนด จากเดิมที่กำหนดเพียงแค่… เป็นคนที่มีรายได้ไม่เกินปีละ 1 แสนบาท

ไม่เพียงเท่านี้!! กระทรวงการคลังเตรียมนำฐานข้อมูลของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการคัดกรองคุณสมบัติด้วยเช่นกัน

ปัจจุบัน…มีผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมากกว่า 20 ล้านคน แยกเป็นผู้ประกัน มาตรา 33 ที่เป็นคนไทยประมาณ 10 ล้านคน มาตรา 39 ประมาณ 2 ล้านคน และมาตรา 40 ที่เพิ่มเป็น 10 ล้านคน

นั่นหมายความว่า… คนที่ได้รับความช่วยเหลือ ต้องเป็น “ตัวจริง” เท่านั้น!! ไม่ใช่ “ได้แล้วได้อีก” เหมือนในปัจจุบัน แถม “คนจนแฝง” ก็มีอยู่เป็นจำนวนไม่น้อยที่ได้รับสิทธิ จากบัตรคนจนในปัจจุบัน ที่มีผู้ได้สิทธิกว่า 13.9 ล้านคน

ขณะที่สิทธิของบัตรคนจนในเวลานี้ ก็จะได้รับเงินเดือนละ 200 บาท และ 300 บาท ตามเกณฑ์รายได้ เพื่อซื้อสินค้าในร้านประชารัฐ และยังได้รับเงินเยียวยาเพิ่มอีกคนละ 200 บาท อีก 3 เดือน (ต.ค.-ธ.ค.64) เพื่อซื้อสินค้าร่วมโครงการ

นอกจากนี้… คนที่เติมเงินของตัวเองเข้าบัตรคนจน แล้วนำไปใช้ซื้อสินค้าและบริการในร้านธงฟ้าประชารัฐ หรือร้านค้าอื่นที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มหรือแวต ก็จะได้รับแวตคืน 5% ซึ่งตรงนี้สามารถกดออกมาเป็นเงินสด หรือไปรูดซื้อของได้ตามปกติ

ส่วนค่าน้ำค่าไฟ ก็ยังได้อยู่แต่เพิ่มวงเงินให้อีก ใครใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือนติดต่อกัน 3 เดือน ก็ได้ใช้ฟรีอยู่แล้ว แต่ถ้าใครใช้เกิน 50 หน่วยต่อเดือน รัฐจ่ายให้เดือนละ 315 บาท ถ้าเกินกว่านี้ก็ต้องจ่ายเอง

ขณะที่ค่าน้ำก็ได้ไปเดือนละ 100 บาท ถ้าใช้ไม่เกิน 315 บาท แต่ถ้าใช้เกิน 100 บาท ส่วนที่เกินต้องจ่ายเอง แต่ถ้าใช้เกิน 315 บาทอยู่แล้ว ก็ไม่ได้รับเงินช่วยใด ๆ และยังมีเงินช่วยค่าโดยสารสาธารณะอีกเดือนละ 500 บาท ต่อประเภท ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟ รถ บขส. ค่าก๊าซหุงต้มอีก 45 บาท ต่อ 3 เดือน

ด้านผู้พิการที่ถือบัตรคนจนยังได้เงินช่วยเดือนละ 200 บาท ไปจนถึง ก.ย. 65 โน่น เมื่อรวมกับเบี้ยพิการที่ได้เดือนละ 800 บาท ก็เท่ากับว่าจะได้เงินช่วยรวมเดือนละ 1,000 บาท

แล้วก็เชื่อได้ว่า สิทธิประโยชน์ของบัตรคนจนรอบใหม่ คงไม่แตกต่างไปจากเดิมเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจกันไปที่ใครต่อใคร ก็อยากถือบัตรคนจน

ต่อจากนี้…ก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปว่า รัฐบาลจะเคาะให้ลงทะเบียนบัตรคนจนรอบใหม่ เมื่อไหร่? และจะใช้เกณฑ์ใดมาคัดกรองคุณสมบัติ ที่สำคัญ!! จะกำจัด “คนจนทิพย์” ได้แค่ไหน?

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”