หากจะมีสักทีมที่สร้างความประหลาดใจแก่แฟนบอลได้มากที่สุดในเวลานี้ หนึ่งในนั้นย่อมต้องมี “แบรสต์” สโมสรเล็กๆ ของฝรั่งเศส รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะย้อนไป 30 กว่าปีก่อน แบรสต์ ยังเจอปัญหาการเงินรุมเร้าอย่างหนักหน่วงจนสโมสรกลายสภาพเป็นทีมสมัครเล่นเหมือนกับที่บอร์กโดซ์เพิ่งเผชิญ จนหลังปี 2004 นั่นเองถึงได้หลุดพ้นกลายเป็นทีมอาชีพอีกครั้ง

ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจากวันนั้นถึงตอนนี้ ด้วยระยะเวลาเพียง 20 ปี แบรสต์ ได้กลายเป็นทีมที่กำลังสร้างผลงานยอดเยี่ยมในถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก แบบที่หลายคนก็ยังงงๆ ว่าไอ้ทีมนี้มันมายังไงวะ

แบรสต์ เวียนว่ายในลีกเดอซ์ (ดิวิชั่น 2) ตั้งแต่ปี 2004-2009 สามารถขึ้นสู่ลีกเอิงที่เป็นลีกสูงสุดในปี 2010 ก่อนจมหายไปในลีกเดอซ์อีกครั้งในปี 2013 กระทั่งขึ้นมาในลีกเอิงได้อีกในปี 2019 นั่นทำให้แบรสต์ดูเหมือนไม่ต่างอะไรกับทีมขนาดเล็กทั่วไปที่แต่ละปีเป้าหมายมีแค่เอาตัวรอดให้ได้

14, 17, 11, 14 นี่คือตัวเลขอันดับของแบรสต์ในลีกเอิงตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20 ยิ่งเหมือนกระจกอธิบายสิ่งที่พวกเขาเป็นว่าแค่ไม่ตกชั้นก็ดีถม อย่างไรก็ตามจู่ๆ ฤดูกาลที่แล้ว แบรสต์ กลับไปได้ดีถึงขนาดจบด้วยอันดับ 3 อย่างเหลือเชื่อ

เช่นเดียวกับฤดูกาลนี้กับ 3 นัดแรกในแชมเปียนส์ลีก แบรสต์ เอาชนะได้ทั้ง สตวร์ม กราซ, เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก และเปิดบ้านเสมอไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ส่วนในลีกรั้งอันดับ 8 มีความหวังเต็มเปี่ยมลุ้นพื้นที่แชมเปียนส์ลีก

อะไรทำให้พวกเขามาได้ไกลขนาดนี้?

มันเหลือเชื่อมาก เนื่องจาก แบรสต์ เป็นสโมสรเล็กมาก เล็กทั้งสนามที่มีความจุไม่ถึง 15,000 ที่นั่งและไม่ได้มาตรฐานในแชมเปียนส์ลีกจนต้องไปยืมสนามแก็งก็องใช้ชั่วคราว เล็กทั้งขนาดองค์กรที่มีเจ้าหน้าที่แค่ 50 คน และเล็กทั้งขนาดทีมฟุตบอล

แม้แต่ผู้จัดการทีม เอริค รอย ก่อนมาที่แบรสต์ เขาก็ว่างเว้นงานกุนซือมาเกิน 10 ปีแต่จับพลัดจับผลูได้คืนวงการ แล้วก็ดันพาทีมไปแชมเปียนส์ลีกซะอย่างงั้น

เคล็ดไม่ลับอย่างหนึ่งของรอย นอกจากวางแท็คติคได้แยบยลแล้ว ยังเป็นแนวทางเซ็นสัญญานักเตะที่เขาเลือกใช้ผู้เล่นมีประสบการณ์มากกว่าที่จะเน้นดาวรุ่งเพื่อปั้นขายเหมือนทีมส่วนใหญ่

อย่างไรก็ดีหลังจากประสบความสำเร็จพอตัว แบรสต์ จะหันไปที่การสร้างทีมในระยะยาวอีกครั้ง สร้างทีมที่มีความมั่นคงทั้งในและนอกสนาม เพื่อที่จะไม่ต้องกลับไปสู่จุดตกต่ำอีกครั้ง.

เฮียเอง