อินโดนีเซีย กำลังทำผลงานยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย เกมล่าสุดสามารถหักปากกาเซียนเอาชนะ ซาอุดิอาระเบีย 2-0 รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม ซึ่งไม่ใช่แค่สร้างความยินดีปรีดาแก่คนทั้งประเทศ แต่ยังสร้างความประหลาดใจแก่คนทั้งโลก จนไม่ใช่เรื่องเพ้อเจ้อเลยในการบอกว่า อินโดนีเซีย มีโอกาสเต็มเปี่ยมที่จะตีตั๋วเข้ารอบสุดท้าย

หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้พวกเขามาได้ไกลขนาดนี้ แน่นอนว่าคำตอบคือ “นักเตะแปลงสัญชาติ”

ลองดูจากรายชื่อ 11 คนแรกในเกมทุบทีมเศรษฐีน้ำมัน พวกเขามีนักเตะที่เกิดในอินโดนีเซียแค่ 2 คน นั่นคือ ริซกี ริโท และ มาร์เซลิโน เฟอร์ดินาน นอกนั้นเป็นนักเตะที่เกิดในเนเธอร์แลนด์ 8 คน และ เบลเยียม 1 คน

เหตุที่มีนักเตะเชื้อสายดัตช์เยอะขนาดนี้ เพราะหากย้อนอดีต อินโดนีเซียเคยเป็นอาณานิคมของเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ปี 1800 ถึง 1945 ดังนั้นจึงมีความเชื่อมโยงของคนระหว่างสองประเทศตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้ ฟุตบอลก็เช่นเดียวกัน

ดังนั้นแทนที่จะใช้นักเตะอินโดนีเซียแท้ๆ เหมือนที่ผ่านมา พวกเขาจึงใช้ยุทธวิธีหันไปหานักเตะเชื้่อสายอินโดนีเซียที่อยู่ในเนเธอร์แลนด์ จับแปลงสัญชาติและนั่นก็ช่วยให้พวกเขามีผลงานดีขึ้นทันตาเห็น

ย้อนไป 8 เดือนที่แล้ว อินโดนีเซีย ยังโดนออสเตรเลียถล่ม 4-0 ในรอบ 16 ทีมเอเชียน คัพ 2023 อยู่เลย แม้ตอนนั้นมีนักเตะแปลงสัญชาติอยู่หลายรายแล้ว แต่พวกเขายังคงทยอยเติมนักเตะเชื้อสายดัตช์เข้าสู่ทีมจนแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

เดิมทีมีการกลัวกันว่าการหลั่งไหลของผู้เล่นแปลงสัญชาติอาจทำลายเอกลักษณ์และลดแรงจูงใจของผู้เล่นที่เกิดในอินโดนีเซีย ถึงกับมีคำถามจากคนในประเทศเองว่าเมื่อไรจะหยุดแปลงสัญชาติผู้เล่น?”

เอริก โธเฮียร์ ประธานสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียกล่าวว่าเข้าใจเรื่องความกังวล แต่ตนก็ต้องการให้ทีมชาติประสบความสำเร็จมากขึ้น การแปลงสัญชาติเป็นนโยบายระยะยาว เป็นเทรนด์ฟุตบอลระดับโลก ที่สำคัญมันเป็นไปตามกฎฟีฟ่า ตราบเท่าที่พิสูจน์ได้ว่าผู้เล่นมีเชื้อสายสืบทอดจากบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นคล้ายกับกฎหมายการแปลงสัญชาติของหลายประเทศ และอินโดนีเซีย มองเห็นศักยภาพของนักเตะเชื้อสายอินโดนีเซียในเนเธอร์แลนด์

วิสัยทัศน์ของโธเฮียร์คือการมีผู้เล่นคุณภาพสูง 154 คนสำหรับทีมชาติ โครงการแปลงสัญชาติจะควบคู่ไปกับแผนการพัฒนาผู้เล่นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นอกจากนี้ยังหวังเพิ่มจำนวนโค้ชชาวอินโดนีเซียที่มีเพียง 12,000 คน ทั้งที่มีประชากร 275.5 ล้านคน ขณะเทียบกับญี่ปุ่นที่มีประชากร 125 ล้านคน แต่มีโค้ชถึง 93,000 คน

ดูแนวโน้มจากความเอาจริงเอาจังขนาดนี้เชื่อว่า อินโดนีเซีย คงไม่ได้มองแค่การเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียน แต่น่าจะมองถึงเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นไปแล้ว.

เฮียเอง