“ช่วงนี้ห่มผ้าไม่ค่อยอุ่นเลย เป็นเพราะหนาวหรือเหงากันแน่เนี่ย..เป็นโสดหน้าหนาว ต่อให้เสื้อแขนยาวก็เอาไม่อยู่”

เหตุการณ์นี้เริ่มจาก น.ส.ดวงพร สุภนาม หรืออาจารย์หญิง หมอดูสักลายมือเศรษฐี ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้ร้องขอความช่วยเหลือว่าถูกอดีตดาราสาวและเป็นเน็ตไอดอลชื่อดัง หลอกขายนาฬิกา และกระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท

น.ส.ดวงพร เล่าว่า ​อดีตดาราสาว-เน็ตไอดอลคนดังกล่าวได้ติดต่อมาผ่านทางหุ้นส่วนของตนผ่านทางบริษัทด้วยการทักเข้ามาเพื่อขอความช่วยเหลือ ต้องการนำนาฬิกาหรูยี่ห้อหนึ่งมาจำนำ อ้างว่านาฬิกาเรือนละ 430,000 บาท อยากจะนำมาจำนำไว้ 300,000 บาท ทางหุ้นส่วนไม่มีความรู้ด้านนาฬิกา จึงได้ให้อดีตดาราสาวเข้ามาที่บริษัท และเข้ามาพูดคุยกับตนเอง

พออดีตดาราสาวมาถึงที่ออฟฟิศได้เจอตน ก็สอบถามทันทีว่าอาจารย์แม่ดูดวงด้วยหรือ จึงได้มีโอกาสคุยกัน ด้วยความที่ตนมีเซนส์จึงได้บอกอดีตดาราสาวว่ากำลังมีปัญหาต่างๆ มากมาย เขาก็ยอมรับว่ามีปัญหาหนี้สิน ได้ไปกู้หนี้ยืมสิน กู้เงินนอกระบบ 10 กว่าเจ้า จึงต้องการนำนาฬิกาเรือนนี้มาจำนำ

พอตนเห็นแบบนั้นก็รู้สึกสงสารจึงรับนาฬิกานี้ไว้ แล้วบอกว่าลูกศิษย์ของตนนั้นมีคนที่รับจำนำนาฬิกาเยอะจะติดต่อให้โดยไม่เอะใจเลยว่านาฬิกาเรือนดังกล่าวจะปลอม หรือมีปัญหาใดๆ คิดเพียงแต่ว่าอยากจะช่วยเหลือ

หลังจากนั้นช่วงกลางคืน อดีตดาราสาวได้ส่งรูปภาพเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมมาให้ดู 2 ใบ อยากให้นำกระเป๋าไปฝากขายให้ด้วย โดยบอกว่าใบหนึ่ง ซื้อมาราคา 120,000 กว่าบาท อีกใบหนึ่งราคา 130,000 กว่าบาท แต่อยากจะได้เงินใบละ 55,000 กว่าบาท ตนได้ส่งนาฬิกาและกระเป๋าไปให้ลูกศิษย์ดูเผื่อว่าใครจะสนใจ

จู่ๆ มีลูกศิษย์ถามกลับมาว่านี่เป็นกระเป๋าของใคร และบอกว่ากระเป๋านั้นเป็นของปลอมทั้งหมด​ ทำให้ตนถึงกับตกใจ แย่ไปกว่านั้นนาฬิกาที่ให้ลูกศิษย์ไปเพื่อจำนำก็เป็นของปลอมเช่นเดียวกัน​

นอกจากนี้ลูกศิษย์ของตนที่เชี่ยวชาญด้านกระเป๋าแบรนด์เนมบอกให้ตนลองไปสอบถามอดีตดาราสาวว่า มีกระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้อีกหรือไม่ พอตนไปถามปรากฏว่าอดีตดาราสาวบอกว่ามีกระเป๋าแบรนด์เนมแทบทุกใบ จนถึงบางอ้อ เริ่มจะเข้าใจว่าอดีตดาราสาวใช้กระเป๋าแบรนด์เนมปลอมเพื่อเอาไปแลกกับเงินสดราคาแพง

แต่ที่เป็นปัญหาสำหรับตนมากก็คือนาฬิกา เพราะมีน้องคนหนึ่งหลงเชื่อคิดว่าเป็นของจริงจึงซื้อไป ปรากฏว่าพอน้องทราบว่าเป็นของปลอมก็ไม่พอใจตน คิดว่าตนไปหลอกขายของปลอมให้ จึงทำให้ตนเสียชื่อเสียงมาก

ต่อมา อดีตดาราสาวก็โทรฯ ทวงเงินตนตลอดทั้งคืน ตนก็ไม่โอนให้ และพูดคุยบอกให้อดีตดาราสาวยอมรับความผิดว่าได้นำนาฬิกาและกระเป๋าของปลอมมาหลอกให้ตนฝากขายให้ จนกระทั่งอดีตดาราสาวได้ยอมรับความจริงว่า เขาได้ทำแบบนี้เพราะร้อนเงินและจำเป็นต้องใช้เงิน

ขณะที่ น.ส.ฐานิตตา จำเริญ อายุ 42 ปี อาชีพรับซื้อ-ขายกระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งเป็นเสียหายอีกราย เล่าว่า อดีตดาราสาวหรือเน็ตไอดอลได้แอดไลน์ของทางร้านมา และสอบถามว่ารับซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบนี้หรือไม่ ครั้งแรกส่งมา 1 ใบ ผ่านทางไลน์ หลังจากนั้นก็พยายามเร่งเพื่อให้ทางร้านโอนเงินให้

พอช่วงค่ำอดีตดาราสาวก็ได้ทักมาอีก แล้วส่งกระเป๋ามาให้อีก 2 ใบ สอบถามว่ารับจำนำกระเป๋าเพิ่มหรือไม่ อ้างว่าต้องเดินทางไปต่างประเทศจึงมีความจำเป็นต้องใช้เงิน อยากให้โอนเงินให้เลย

ทางร้านจึงบอกว่าขออนุญาตเช็กสินค้าก่อน แต่อดีตดาราสาวอ้างว่าได้นำกระเป๋าทั้งหมดไปตรวจสอบกับร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมร้านหนึ่ง ทำให้ผู้เสียหายชะล่าใจ ไม่ได้ตรวจดูกระเป๋าแบรนด์เนม จึงตัดสินใจโอนเงินไปให้อีก 1 แสนกว่าบาท วันถัดมาได้มาตรวจดูพบว่ากระเป๋ามีความผิดปกติทั้งเนื้อกระเป๋าและตัวการ์ดการันตี จึงพยายามติดต่อปรากฏว่าไม่สามารถติดต่อได้จึงได้ไปแจ้งความไว้

ต่อมา อดีตดาราสาว ติดต่อกลับมาบอกว่ากำลังเดินทางไปต่างประเทศจึงไม่สามารถติดต่อได้​ แต่ตนเห็นว่าใน IG พบว่ายังใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้เดินทางออกนอกประเทศจริง​ นอกจากนี้ยังทราบจากกลุ่มร้านขายกระเป๋าแบรนด์เนมว่าอดีตดาราสาวนำกระเป๋ามาหลอกขายแล้วหลายครั้ง​ โดยมูลค่าความเสียหายของตนเองนั้น รวมแล้วกระเป๋า ทั้ง 3 ใบ เป็นเงิน 162,000 บาท

ด้าน นางสุนิสา เอกวิทยาเวชนุกูล หรือครูเจี๊ยบ บริษัทรับตรวจสอบของแบรนด์เนม แท้-ปลอม) และกลุ่มผู้เสียหายอีกหลายราย ก็มาแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อเอาผิดกับอดีตดาราสาวที่หลอกขายนาฬิกา และกระเป๋าแบรนด์เนม มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท

นางสุนิสา หรือครูเจี๊ยบ กล่าวว่า อดีตดาราสาวหรือเน็ตไอดอลปลอมแปลงเอกสารของสถาบันฯ ที่ออกใบการันตีกระเป๋าเป็นของปลอม ก่อนไปแก้ไขให้เป็นใบการันตีกระเป๋าของแท้ นำไปหลอกขายหลายใบ รู้สึกว่าเขาตั้งใจที่จะหลอกคน ซึ่งตนได้รับความเสียหายมาก ประสบการณ์ที่สะสมมาก็เสียหายไปด้วย

ขณะเดียวกัน อดีตดาราสาวยังได้แชตขู่กลุ่มผู้เสียหายอีกต่างหาก ว่าได้แจ้งความกลับในข้อหายักยอกทรัพย์ พร้อมท้าทายว่าเดี๋ยวไปเจอกันที่ศาล ทั้งๆที่ของกลางทั้งหมดที่อยุ่กับตำรวจตอนนี้พบว่าทั้งหมดเป็นของปลอม ไม่ใช่ของแท้อย่างใด

เรื่องนี้เข้าข่าย 3 ข้อหาคือ ฉ้อโกง, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, ปลอมแปลงเอกสาร ที่สำคัญถือเป็นอุทาหรณ์เตือนสติเตือนใจว่า ในยุคนี้สมัยนี้เราไม่ควรเชื่อถือหรือไว้ใจใครทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าเขาหรือเธอคนนั้นจะเป็นดารา เป็นเน็ตไปดอล เป็นคนมีชื่อเสียง เพราะสิ่งเหล่านั้นมันไม่ได้การันตีเลยว่าการหลอกลวงมันจะไม่เกิดขึ้น สุดท้ายก็ต้องมานั่งช้ำใจให้กับคำว่า..เพราะเชื่อ.

ข่าวสารตำรวจ

บวงสรวงหลักเมืองชุมแพ
พ.ต.อ.รักชาติ เรืองเจริญ ผกก.สภ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ร่วมเป็นประธานในพิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองชุมแพ ประจำปี 2567 ที่จัดขึ้นทุกปีโดยมีนายวรชัย แก่นสัจจะ และนางวิชาดา แก่นสัจจะ กรรมการ-ผู้จัดการ หจก.ดีเอ็นเค.ชุมแพ เป็นเจ้าภาพ มีชาวตลาดชุมแพร่วมกับชาวบ้านจากชุมชนต่างๆ รวม 250 คน แต่งกายชุดผ้าไทยร่วมรำบวงสรวงถวายศาลหลักเมืองชุมแพ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นศูนย์รวมความศรัทธาของพี่น้องประชาชน ผู้ตั้งจิตอธิฐานขอพรต่อศาลหลักเมืองต่างประสบความสำเร็จ สมความมุ่งมาตรปรารถนา

ร่วมทำบุญบำเพ็ญกุศล
คณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ (กต.ตร.) สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นำโดย นายสมบัติ สถาวร ประธาน กต.ตร.พร้อมด้วย นายชานนท์ จิตตชโลทร กต.ตร. ร่วมทำบุญ จำนวนเงิน 40,000 บาท ในงานบำเพ็ญกุศลและพิธีพระราชทานเพลิงศพ พ.ต.ท.สำรวย ทิวงษา อายุ 90 ปี บิดาของ พ.ต.อ.สมชาย ทิวงษา ผกก. สภ.บ้านบึง ที่วัดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์

กิจกรรมวิ่ง-ปั่นเพื่อสุภาพ
นายทองสุข ท้าวแก้ว ประธานชมรมนักปั่นจักรยานจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมคณะชมรมนักวิ่ง และชมรมนักปั่นจักรยานจังหวัดศรีสะเกษ จัดกิจกรรมวิ่ง-ปั่นเพื่อสุภาพ มอบสิ่งของหนุนงานตำรวจ ช่วยเหลือสังคม เส้นทางจากสี่แยกบ้านหนองอารี ไปยัง สภ.จะกง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ระยะทาง 1.1 กิโลเมตร จากนั้นได้มอบโต๊ะ และเก้าอี้ รวมมูลค่ากว่า 20,000 บาท ให้กับ สภ.จะกง เพื่อใช้ในกิจการงานตำรวจ เพื่อบริการพี่น้องประชาชน และกิจกรรมต่างๆตำรวจ โดยมี พ.ต.ท.พิเนตร ดาวเรือง สวญ.สภ.จะกง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจให้การต้อนรับ อำนวยความสะดวกและรับมอบสิ่งของในครั้งนี้ด้วย

เปิดอาคาร
หลังจาก พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี และทีมงานกองกำกับการสืบสวนฯ ได้ดำเนินการก่อสร้าง ปรับปรุง อาคารหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ห้องประชุม ลานฝึกและลานรวมพล เพื่อใช้ในการวางแผนปฎิบัติพิเศษกรณีมีเหตุฉุกเฉินต่างๆ ล่าสุดการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ จะมีพิธีเปิดอาคารฯ ในวันที่ 17 ธค 2567 เวลา 09.00 น. โดยมี พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 เป็นประธาน

ผลงานประจักษ์
พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี (ควบคุมสายงานสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี) ชื่นชมทีมงานสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ทุก สภ.ทุกๆ ท่านที่ช่วยกันทำงาน จนผลงานเป็นที่ประจักษ์เด่นชัดมาก ระดับ ตร.ได้แก่ภาค 7 (ที่ 1 ของประเทศ)และ ระดับภาค 7 ทีมงานสืบสวนภ.จว.สุพรรณบุรี ลำดับที่ 1 โดยเฉพาะ พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผลผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ที่นำเทคนิคความรู้ความสามารถ ความตั้งใจมั่งมั่น ทำงานอย่างจริงจัง จนทำให้ผลการจับกุมยอดสรุปเป็นที่ 1 ของระดับประเทศ ซึ่งนับได้ว่าฝีมือล้วน ๆ ของตำรวจทีมงานสืบสวนของ ภ.จว.สุพรรณบุรี ที่ร่วมมือร่วมใจทำงานเป็นทีมเข้มแข็ง

******************************

คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป