ด้วยข้อเท็จจริงที่ว่า การจะมีบ้านสักหลังเป็นของตัวเอง ไม่ใช่เรื่องง่าย ไหนจะราคาที่ดินที่นับวันมีแต่สูงขึ้น โดยเฉพาะในย่านกลางเมือง หรือที่มีการคมนาคมสะดวก

คนที่เพิ่งมีงานทำเป็นครั้งแรก คงไม่สามารถซื้อบ้านอยู่เป็นของตัวเองได้ การจะเช่าอยู่ในพื้นที่ใกล้ที่ทำงาน ยิ่งเป็นเรื่องยาก เพราะยูนิตละ 1 ล้านบาท หรือต่ำกว่า 1 ล้านบาท ไม่มีให้เห็นอยู่แล้วในเวลานี้

หากต้องไปอาศัยอยู่ที่ไกลออกไป ที่อาจพอสามารถจัดหาได้ตามกำลังที่มีอยู่ ก็ต้องเผชิญกับการเดินทาง ที่ไม่รู้ว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกเท่าไหร่ หากรายได้มีเพียงน้อยนิด ก็ต้องก้มหน้าก้มตาเผชิญความยากลำบากต่อไป

อาจเป็นรูปภาพของ 3 คน และ ข้อความ

สุดท้าย!! ก็นำมาสู่การเกิดปัญหาสังคม ดั่งที่เห็นกันอยู่ทุกวัน!!

เหตุนี้… จึงทำให้รัฐบาลของนายกฯแพทองธาร จึงพุ่งเป้าไปใช้ที่ดินของส่วนราชการ ที่ไม่ได้ทำประโยชน์ ควบคู่ไปกับการให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เข้ามาช่วยไฟแนนซ์ให้ทั้งผู้ประกอบการ และคนที่ต้องการมีบ้าน โดยคิดดอกเบี้ยในราคาถูก

เริ่มแรกได้กำหนดการผ่อนชำระไว้ที่เดือนละ 4,000 บาท ไม่มีเงินดาวน์ ให้ผ่อนได้นานถึง 30 ปี และยังมีสิทธิในการอยู่ได้นานสูงสุดถึง 99 ปี โดยสามารถส่งมอบสิทธิให้ทายาทได้ด้วย

โครงการนี้เตรียมประเดิมเฟสแรกในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือรฟท. ย่านกม. 11 ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ  รวมถึงพื้นที่เชียงใหม่ สถานีเชียงราก และสถานีธนบุรี

ส่วนรูปแบบก็จะเป็นคอนโดมิเนียม พื้นที่ 30 ตารางเมตร พร้อมเฟอร์นิเจอร์ รวมไปถึงทาวน์เฮ้าส์ และบ้านเดี่ยว ชั้นเดียว ขนาด 50 ตารางวา ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ มีพื้นที่ซักล้าง ลานจอดรถ

ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับพื้นที่นั้น ๆ ว่าเหมาะสมจะดำเนินการในรูปแบบใด แต่ที่แน่ ๆ จะเป็นบ้านเพื่อคนไทยเท่านั้น และต้องเป็นบ้านสำหรับคนที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อนด้วย

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "อ 25 68 ทำให้รจิง บ้านเพื่อคนไทย นไทย บ้านดี ไม่ต้องดาวน์ ผ่อนน้อย อยู่ได้ 99 ปี ไกล้รถโฟฟ้า บ้านราคาประหยัดคุณภาพสูง (ห้สิทธิ์คนไทย ที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน) ម្ទឹ ผ่อนเริ่มต้น 4,000 ต่อเดือน ระยะเวลา 30 ปี กระจายตัวไปกับ การเจริรญเติบโตของเมือง มีห้องน้ำ ไฟฟ้า สาธารณปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย คนเริ่มทำงานก็สามารถพีสิทธิ์ไ้ ถ้าจ่ายครบยอด ได้สิทธิ์ถือครอง 99 ปี 12imral2367 2367 12ยิเกาหม"

ว่ากันว่า ในวันที่ 20 ม.ค.68 นี้ จะเปิดให้ประชาชนได้เข้ามาเยี่ยมชมห้องตัวอย่างของโครงการ ภายในสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยจะเปิดให้ประชาชนสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อลงทะเบียน Pre-Register ดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อตรวจสอบสิทธิ์ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่

อย่างที่บอก สิทธิ์แรกก็ต้องเป็นคนไทยที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน ที่สำคัญ ต้องไม่ติดเครดิตบูโร จากนั้น…ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จะจะรับหน้าที่ให้ผู้ที่ลงทะเบียนที่ให้ความสนใจโครงการฯ ตรวจสอบสิทธิ์เพื่อเช็กเครดิตและจะแจ้งผลการลงทะเบียน

ทั้งหลายทั้งปวงจะกำหนดวันเวลาให้ผู้ที่ลงทะเบียนจองโครงการ ผ่านแอปฯ ธอส. เบื้องต้นหมายมั่นปั้นมือว่าประชาชนที่ลงทะเบียนสามารถเข้าอยู่อาศัยไม่เกิน 150 ยูนิต ภายในปี 68

ต้องยอมรับว่าการเปิดโครงการบ้านเพื่อคนไทยออกมาในครั้งนี้ ย่อมทำให้คนที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เกิดอาการ “ใจฟู” เพราะมีหวังจะได้เป็นเจ้าของบ้านกับเค้าบ้าง

ถ้ารัฐบาลทำได้จริง ก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับคนไทยจำนวนไม่น้อย แต่การดำเนินการในครั้งนี้ ต้องรอให้มีการแก้ไขกฎหมายทรัพย์อิงสิทธิ เพื่อให้การครอบครองหรือการใช้ประโยชน์จากที่ดินของรัฐ ได้มากกว่า 30 ปี จากที่กำหนดไว้ในปัจจุบัน

นอกจากนี้จำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องเลือกทำเล ที่เป็นที่ต้องการสำหรับคนเพิ่งทำงานอย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นก็หนีไม่พ้นเป็นสภาพกับหลาย ๆ โครงการที่เกิดขึ้นในอดีต

ที่สำคัญ การเลือกผู้ประกอบการในการดำเนินการก่อสร้าง ก็ต้องโปร่งใส ถูกต้อง ไม่ปล่อยให้เหมือนปัญหาเดิม ๆ ที่เคยมีมา จนสุดท้ายต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

เช่นเดียวกับเรื่องของการได้สิทธิ ที่ต้องตรวจสอบอย่างจริงจัง เพื่อที่คนที่มีรายได้น้อยได้เป็นผู้ที่มีสิทธิในการเข้าพักอาศัยในโครงการจริง ๆ  รวมไปถึงการกำหนดเงื่อนไขที่ชัดเจนในเรื่องของการเป็นเจ้าของ

เพราะไม่เช่นนั้น การเก็งกำไร การครอบครองสิทธิ เพื่อนำมาปล่อยเช่า มาหาผลประโยชน์ ก็จะเกิดขึ้นตามมาไม่น้อยเช่นกัน อย่าลืมว่าเรื่องเหล่านี้มีบทเรียนให้เห็นอยู่แล้วในหลายโครงการ

สุดท้าย!! กลายเป็นว่าความตั้งใจดีที่จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ให้กับคนไทยที่มีรายได้น้อย หรือเพิ่งมีงานทำเป็นครั้งแรก ก็จะแปรเปลี่ยน ไปสู่การเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง!!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”

อ่านบทความทั้งหมดคลิกที่นี่