ความโกรธเป็นเรื่องใหญ่และอ่อนไหวมาก ทุกท่านคงผ่านกันมาแล้วทั้งนั้น โกรธแล้วก็โกรธอีก บางทีเรื่องซํ้า ๆ กัน นึกได้ขึ้นมาครั้งใดก็โกรธใหม่ไม่ยอมจบเสียที โกรธเสียได้สบายใจ แต่หารู้ไม่ว่า แต่ละครั้งที่มีอาการโกรธภายในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย การไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น หัวใจอัดสูบฉีดเต้นเร็วและแรงขึ้น ฮอร์โมนหลายชนิดต่างออกมาให้ร่างกายต้องทำงานเพิ่มขึ้น ที่สำคัญของร่างกายคือ เรื่องความดันโลหิต จะเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน ใครที่ยังไม่สูง ตอนโกรธนี้ก็จะสูงใครที่สูงอยู่แล้วก็จะเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ทำให้ปวดศีรษะ เวียนศีรษะหัวใจสั่นเต้นแรงเพิ่มขึ้น

คนสูงอายุ อันตรายสำคัญคือเรื่องความดันเพิ่ม เส้นเลือดไปเลี้ยงหัวใจ เส้นเลือดไปเลี้ยงสมอง อาจมีปัญหา ปริหรือแตกเลือดออกมาก็จะเกิดภยันตรายตามมา ทั้งทางหัวใจและสมอง ต้องตามรักษากันต่อไปอีก การหาหนทางระงับความโกรธเสียได้ สุขภาพจะยืนยาวไปได้อีกนานทำอย่างไรจะให้คนโกรธกันน้อยลง คงเป็นเรื่องยากทีเดียวแต่ก็มีคนแนะวิธีการต่าง ๆ มากมาย ได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้างก็ลองกันไป ส่วนใหญ่จะอาศัยเอาหลักธรรมะเข้ามาช่วย หลักธรรมะเป็นเรื่องดีทั้งนั้น บังเอิญผมได้คุยกับคุณหมอท่านหนึ่ง ซึ่งสนใจธรรมะแล้วเอามาประยุกต์ใช้บำบัดความโกรธ ฟังดูเห็นพอจะไปได้ เลยขออนุญาตมาคุยเป็นวิทยาทานกัน

นพ.ชัยรัตน์ โภคาวัฒนา ศัลยแพทย์ รพ.ราชวิถี วัย 70 ปีกว่า ๆ รูปร่าง หล่อ แข็งแรง เพราะออกกำลังกายทุกวัน ก่อนเกษียณเคยเป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมมาเกิน 10 ปี ปัจจุบันก็ยังมาช่วยงานโรงพยาบาลราชวิถีอยู่ทุกวันอังคาร ตอนบ่ายช่วยตรวจคนไข้ทั่วไป
ตอนเย็นตรวจเรื่องเต้านม มีปัญหาก็ผ่าตัดด้วย คุณหมอมีอะไรดี ๆในตัวหลายอย่าง มีประสบการณ์มาก มีโอกาสจะค่อย ๆ คุยกัน วันนี้
เอาเรื่องธรรมะป้องกันการโกรธมากให้ลดลงเหลือโกรธน้อยก่อน คิดว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้าง ลองตามฟังดู

สิ่งสำคัญต้องรู้ว่าเราโกรธ คุณหมอบอกว่าเวลาเราเกิดไปมีอารมณ์โต้เถียงกับคนมาแล้วโกรธมักไม่รู้ตัว จะเถียงด้วยอารมณ์ไป
เรื่อย ๆ ยิ่งเถียงยิ่งโกรธ ต้องหาวิธีเอาเองว่าตอนนี้เราโกรธแล้วนะพอเรารู้ตัวว่ากำลังโกรธ ความโกรธจะค่อยคลายลงเองระดับหนึ่งก่อนยังไปยึดติดมันอยู่ ทุกข์มาอยู่กับเราแน่ ๆ และ อนัตตา ไม่มีตัวตนมันมาหาเราได้ เดี๋ยวมันก็ไปได้

บางท่านที่ยังมีจริตสูงอยู่ อาจนึกค้านว่า กำลังโกรธเถียงอยู่ดี ๆยังไม่หายสะใจเลย ยังไม่ยอมรู้ว่ากำลังโกรธ อยากเอาเพียงชนะให้ได้
ก็ถือว่าอยู่นอกตำราไป คุณหมอชัยรัตน์ยํ้าว่าถ้ารู้ตัวว่าโกรธเมื่อใดจะคลายลงทันที จะเถียงโต้แย้งต่อไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จริง ๆ

สุขภาพดีเป็นเรื่องสำคัญ บางท่านที่คิดได้ ยิ่งผู้สูงอายุด้วยแล้วสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ความโกรธทำให้ภายในร่างกายเราแปรปรวน
ความดันขึ้น ฮอร์โมนหลายชนิดหลั่งออกมา ล้วนเป็นอันตรายต่อร่างกายเราทั้งสิ้น อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหัวใจ จะมาเยือนเร็วขึ้น
ทำใจให้สบาย เอาชีวิตเราให้อยู่รอดมีสุขภาพดีไว้ก่อนดีกว่า ใครที่เคยเห็นคนป่วยเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตแล้ว จะรู้ตัวได้ดีว่ามันทุกข์
ทรมานเพียงใด ต้องมีคนดูแลช่วยเหลือตลอด มองภาพเห็นเช่นนี้ไม่อยากทะเลาะกับใคร โต้เถียงกับใครให้เกิดความโกรธขึ้นมาเลย
ใครอยากเป็นผู้ชนะในการขัดแย้งโต้เถียงก็ทำไปเถิด เราเอาสุขภาพดีไว้ก่อนได้ประโยชน์กว่า

ความโกรธเป็นอาการชนิดหนึ่งซึ่งมักเกิดได้บ่อยกับผู้ที่ชอบปล่อยใจไปตามอารมณ์ อารมณ์ดีก็สบายใจ พออารมณ์โกรธ
ก็ขุ่นมัว สุดท้ายก็จะหายไปเป็นธรรมดาของชีวิตมนุษย์ มองในด้านสุขภาพ ความโกรธจะเป็นอันตรายได้กับผู้สูงอายุได้ ทำให้ความดันขึ้นสูง เป็นผลเสียต่อสมองและหัวใจ โดยเฉพาะทางสมองเส้นเลือดอาจแตก เกิดเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตได้ ธรรมะเป็นทางเลือกทางหนึ่ง อาจช่วยให้ความโกรธลดลงได้ ท่านใดสนใจลองฝึกดู ฝึกบ่อย ๆ เข้าร่างกายจะปรับตัวเข้าที่เอง

…………………………………………
นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี