@เริ่มต้นที่เรื่องของ”การเมือง” ภายใต้รัฐบาลผสมที่มี”เพื่อไทย” เป็น”แกนนำ” และมี”แพทองธาร ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี” ในการนำ” รัฐนาวา” เดินไป”ข้างหน้า” เพื่อให้”รัฐบาล” อยู่บริหารประเทศให้”นานที่สุด” เท่าที่จะนานได้ ยิ่งถ้าอยู่ให้ครบ 4 ปี ก็จะเป็นเรื่องที่”แฮ้ปปี้” สำหรับพรรคเพื่อไทย ในการที่จะได้”ผลักดัน” นโยบาย”ของ”รัฐบาล”ที่ส่วนใหญ่เป็นของ”เพื่อไทย”ให้เป็นจริง เพื่อเป็นการ”ตุนคะแนน”ในการเลือกตั้ง”สมัยหน้า”……แต่ โดยข้อเท็จจริง อาจจะไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด เพราะ”รอยร้าว” ในรัฐบาลผสม ยิ่งนานวัน ยิ่ง”ขยายวง” กว้างออกไป เฉพาะ”เพื่อไทย” กับ”ภูมิใจไทย” แม้ทั้ง” แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี” และ”อนุทิน ชาญวีรกุล” รองนายกรัฐมนตรี และ”เสนาบดี” กระทรวงหาดไทย จะพูดกับ” นักข่าว” วันละหลายครั้งว่า”ไม่มีอะไร” ยัง”รักกันมั่นคง” แต่”บริบท”ที่เห็นได้ชัด ตั้งแต่เรื่องที่ดินที่” เขากระโดง” เรื่อง”สนามกอล์ฟ” ที่ ปากช่อง นครราชสีมา ก็เห็นได้ชัดว่ามีการ”กินเหลี่ยมกินทรง” แบบ”หักเหลี่ยมเฉือนคม” ทางการเมือง เป็นการ”ต่อรอง” เรื่อง”ผลประโยชน์” ที่เกี่ยวข้องกัน”การเมือง” ที่”พรรคเพื่อไทย” ต้องการให้” ภูมิใจไทย” เดินตามเกมของ”เพื่อไทย”…..ล่าสุดเรื่องเกมการ”สอย “สว.” จาก”กระทรวงยุติธรรม” แม้จะมีการอ้างว่า “สมาชิกวุฒิสภา” ชุดนี้ มาโดย”ไม่ถูกต้อง”มีการ”ฮั้ว” กันเกิดขึ้น ตามที่กลุ่ม”สว.สำรอง” และ”สว”.ที่”สอบตก” ไป ร้องเรียนกับ”ดีเอสไอ” ซึ่งคน”ส่วนใหญ่” มองออกว่า เป็นเรื่องของ”การเมือง” เป็นการ”ต่อรอง” เรื่อง”ผลประโยชน์” ที่มี”นายใหญ่” ผู้มี”บารมีนอกรัฐบาล” เป็นผู้”บงการ” อยู่เบื้องหลัง ส่วนเรื่อง”ฮั้ว” เป็นเพียง”สารตั้งต้น” เท่านั้น …..
@เชื่อ เถอะ “นายใหญ่” ไม่ต้องการที่จะให้”ดีเอสไอ” ล้มกระดาน เพื่อให้มีการ”เลือกตั้ง” สมาชิกวุฒิสภา ใหม่ แต่”นายใหญ่” ต้องการให้”สว.” ส่วนหนึ่ง ที่”หวั่นไหว” กับ”ขบวนการ”สอบสวน” โดย”ดีเอสไอ” ทำการ”เปลี่ยน”สีเสื้อ” จาก” สีน้ำเงิน” เป็น”สีแดง” เพื่อ “ประโยชน์” ทาง”การเมือง” ที่ต้องการ เพราะ”สว.”มีหน้าที่ในการตั้ง”กรรมการ”ของ”องค์กรอิสระ” ที่หากพรรคการเมืองไหนสามารถ”ควบคุม” คนของ”องค์กรอิสระ” ได้มาก ก็จะมีความ”สำคัญ” และเป็น”อันตราย” กับ””ผู้นำ” หรือ”ผู้บริหาร”ประเทศ ดังนั้น” นายใหญ่” ที่เป็นผู้มี”บารมีนอกเหนือรัฐบาล” จึงต้องทำทุก”วิถีทาง” ในการได้”สว.” มาอยู่ใน””สีเสื้อ” ของตนเอง เพื่อความ”มั่นคง” ของ”รัฐบาล” และเพื่อความ”ปลอดภัย”ของ”นายกรัฐมนตรี” ว่าจะ ไม่ถูก”สอยกลางคัน” อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับ”เศรษฐา ทวีสิน” อดีต”นายกรัฐมนตรี……ซึ่ง ก็ต้องติดตามการ”ชิงไหวชิงพริบ” ระหว่าง”สองพรรคการเมือง” ที่อยู่”ร่วมรัฐบาล” ที่ ถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่มีการ”แตกหัก” ถึงกับ”ต้องนำไปสู่การ”ยุบสภา” เพราะการ”ยุบสภา” ใน เวลานี้ ไม่เป็น”ผลดี” กับ”พรรคเพื่อไทย” รวมทั้ง”พรรคอื่นๆ” ที่ร่วมรัฐบาล และ”ทั้ง”เนวิน ชิดชอบ” ผู้มี”บารมี”นอกพรรคภูมิใจไทย และ”เสี่ยหนู “ อนุทิน ชาญวีรกุล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย” รองนายกรัฐมนตรี และ”เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย” ก็ไม่ต้องการ”ถอนตัวไปเป็น” ฝ่ายค้าน” ในเวลาที่ไม่”เหมาะสม”…..
@ส่วน เกมที่ต้อง”จับตามอง” คือการ”ชิงไหวชิงพริบ” ระหว่าง” ฝ่าย”นิติบัญญัติ” หรือ”วุฒิสมาชิก รัฐสภา” กับฝ่าย”บริหาร” ที่มี”กระทรวงยุติธรรม” เป็น”คู่ขัดแย้ง” ที่ถูก”นายใหญ่” ใช้เป็น”สารตั้งต้น” ในการ”ดำเนินคดีกับ”วุฒิสมาชิก” ที่ข้อหา”อั้งยี่” ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่”ง่ายๆ” ในการที่”จะ”โน้มน้าว” ให้” บอร์ด ดีเอสไอ” ที่มาจาก”หลายหน่วยงาน” เห็นด้วยกับ”ดีเอสไอ” เพราะ ยังไม่มั่นใจว่า”ดีเอสไอ” มี”อำนาจ” จริงหรือไม่ในการ รับเรื่องเพื่อ”เอาผิด”กับ” สว.” ในข้อหา”อั้งยี่” และหากมี”มติ” ให้”ดีเอสไอ” รับเป็น”คดีพิเศษ” เกิด”ดีเอสไอ” ไม่มี”อำนาจ” ผู้ที่ลง”มติ” อาจจะถูกดำเนินคดีในข้อหา”157 “ ต้องรับผิดชอบ”ชีวิตตนเอง” ไม่ใช่”ดีเอสไอ” จะมา”รับผิดชอบ” ดังนั้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่มีการ”ประชุม” เพื่อ”ลงมติ” รับหรือไม่รับ เป็น”คดีพิเศษ” ทำให้ ต้องมีการ”เลื่อนออกไป” เป็นการประชุมที่ไม่”สะเด็ดน้ำ” เพราะ”คนที่เป็น”บอร์ด” หวั่นไหว ที่หาก”ผิดพลาด” ต้องโดย”เล่นงาน” ด้วย “ มาตรา 157 “ จึงมีรายการ”ไอ้เสือถอย” ทั้งที่ก่อนหน้าจะมีการประชุม” ดีเอสไอ” ร้องเสียง”ลั่นทุ่ง”ว่า”ไอ้เสือเอาวา” เรื่องการ”พยายาม” ที่จะ”เอาผิด”กับ”สมาชิกวุฒิสภา” ของ”นายใหญ่” โดยการ”ยืมมือ” ของ”ดีเอสไอ” ในการ”ของาน” จาก” กกต.” เป็น”หนังยาว” และหาก”จับพลัดจับผลู” มีเหตุให้”ดีเอสไอ” สามารถเข้ามาทำ”คดีในข้อหาอั้งยี่” ได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าการ”สอบ สว.” ชุดนี้จะจบในเร็ววัน เพราะ”ดีเอสไอ” มีหน้าที่เพียง”สืบสวนสอบสวน” รวบรวมพยานหลักฐาน” เพื่อการ”ส่งฟ้อง” ซึ่ง”อัยการ” จะรับหรือไม่รับ ยังไม่รู้ และกว่า “คดีความ” จะไปถึง”ศาลทุจริตประพฤติมิชอบฯ” ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ขณะนี้”สมาชิกวุฒิสภา” ชุดนี้ก็มีอายุ 7 –8 เดือน แล้ว กว่าจะถึงวันที่ถูก”ชี้ผิด ชี้ถูก” ก็ ไม่มีใครอยู่ตรงนั้นแล้ว แต่ข้อ”ได้เปรียบ” ของ” สมาชิกวุฒิสภา” ชุดนี้ คือการ”เดินหน้า” ปฏิบัติหน้าที่ไปเรื่อยๆ ทั้งการ”แต่งตั้ง” องค์กรอิสระ” ที่”เข้าคิว” ให้มีการ”แต่งตั้ง” ในทุก”องค์กร” ที่ “กรรมการ”หมด”วาระ” ซึ่งหากมีการ”ต่อสู้”กันอย่าง”จริงจัง” และเห็นชัดว่าต้องต่อสู่กับ” นายใหญ่” ที่มี”บารมีเหนือรัฐบาล” คนที่”เดือนร้อน” ก็หนีไม่พ้น” บุตร-บริวาร” ของ”นายใหญ่” ที่ ขณะนี้มีเรื่องของ”สนามกอล์ฟ์อัลไฟล์” มารอให้” สมาชิกวุฒิสภา” ทำการ”พิจารณา” อยู่แล้ว ถ้าเรื่องนี้มีการลง”มติ” ว่าผิด”จริยธรรม” ยอมเกี่ยวข้องถึง”รัฐบาล”อาจมีคน”เข้าปิ้ง” ไม่ต่างกับ”เศรษฐา ทวีสิน” ก็เป็นได้…..
@ที่ น่าเห็นใจคือเมื่อ”ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกย่อมแหลกลาญ” โดยเฉพาะ”เจ้าหน้าที่”ของ”ดีเอสไอ” ตั้งแต่” พ.ต.ท. ยุทธนา แพรดำ” อธิบดี”อีเอสไอ” ที่เป็น”หัวขบวน” จนถึง”ท้ายขบวน” ที่เป็นเพียง”เบี้ย” ให้คนเป็น”นาย” เดิน”บนกระดานหมากรุก” คือผู้ที่ต้อง”แบกรับ” ทุกเรื่อง ที่จะเกิดขึ้นใน”อนาคต” และหาก”ผิดพลาด” เชื่อเถอะ ไม่มีใครช่วยใครได้ นอกจากต้องหาวิธีในการ”ช่วยตนเอง” ให้”เอาตัวรอด”จากเกม”ช้างชนช้าง” ที่เกิดขึ้น”…..ส่วน”สมาชิกวุฒิสภา” ก็มี”หนาวเล็ก” และหนาวใหญ่” คือผู้ที่ถูก”ร้องเรียน” และ”กกต.อยู่ระหว่างการ”สอบสวน” ไม่ว่าเป็นเรื่องการ”ไม่ตรงปก” ที่มาของ”อาชีพ” เรื่องอยู่ใน”อาชีพ” นั้นๆ ไม่ครบตาม”กติกา” และเรื่อง”อื่นๆ” เพราะหลังจากที่” ดีเอสไอ” และ”สว.สำรอง” กับ”สว.สอบตก” ไปร้องเรียน”ดีเอสไอ” แล้ว เชื่อว่า “กกต. “ ต้องเร่งดำเนินการกับ”สมาชิวุฒิสภา” ที่ถูก”ร้องเรียน” เพื่อให้”สังคม”เห็นว่า “กกต.” ไม่ได้”เพิกเฉย” มีการ “เดินหน้า” ในการ”สอบสวน” เพื่อการ”เอาผิด” กับ”สมาชิกวุฒิสภา” ที่ถูก”ร้องเรียน” เรื่องนี้”มีหนาว” เพราะ เชื่อว่าจะมี” วุฒิสภาชิก” จำนวนหนึ่งถูก” กกต.ลงดาบ” เพื่อ”ไว้ลาย” ความเป็น”กกต.”…..
@เกมต่อมาของความ”ขัดแย้ง” ใน”รัฐบาล” ชุดนี้ ที่ต้อง”จับตามอง” คือเรื่องการ”อภิปรายไม่ไว้วางใจ” ของ”พรรคฝ่ายค้าน” ที่จะยื่น”อภิปรายไม่ไว้วางใจ” ที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ ซึ่ง”พรรคประชาชน” จะ”มีการ”อภิปราย”ทั้ง”คณะ”หรือ”รัฐมนตรีรายบุคคล” ซึ่ง”ทุกพรรคการเมือง” ที่เป็น”พรรคร่วม” ต่างก็มี”บาดแผล” ที่รอให้”พรรคฝ่ายค้าน” ทำการ”ราดน้ำกรด” เพื่อการ”เปิดแผล” ให้”ประชาชน”ได้เห็น โดยเฉพาะเรื่องการ”บริหารประเทศ”ของ”รัฐบาล” ที่”ล้มเหลว” ใน หลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของ”เศรษฐกิจปากท้อง” เรื่องของการ”คอร์รัปชั่น” ที่ “รัฐบาลชุดนี้”ดีแต่พูด” แต่ยังไม่ได้”ลงมือ”ทำ ให้เห็น”เป็นชิ้นเป็นอัน” แม้แต่เรื่องการ”จัดการ” กับ”แก็งค์คอลเซ็นเตอร์” ที่เพิ่งจะ”กระตือรือร้น” ในการ”ปราบปราม” ทั้ง”ตัดเน็ต” ทั้ง”สายส่ง” ตัด”สัญญาณ” ของ”เครื่องมือสื่อสาร” เป็นการ”จัดการ” หลังถูก” รัฐบาลจีน” ส่ง” รัฐมนตรีช่วย” มาทำการ”บีบคอ” เหมือนถูก”บังคับ” ให้ทำ เรื่องนี้ถ้าจะ”ให้ถ้วย” ผู้รับไม่น่าจะเป็น” แพทองธาร ชินวัตร” แต่ต้องเป็น” สี จิ้นผิง” ผู้นำ”หมายเลขหนึ่ง”ของ”สาธารณรัฐประชาชนจีน”…..ดังนั้นเรื่องการ”อภิปรายไม่ไว้วางใจ” หลังจบการ”อภิปราย” ของพรรคฝ่ายค้าน ที่ครั้งนี้มีข่าวว่านอกจาก”พรรคประชาชน” ที่มี”เท้งเต้ง” ณัฐพงศ์ เรืองปัญญาวุฒิ” เป็น”ผู้นำฝ่ายค้าน” แล้ว”พรรคร่วมฝ่ายค้านอย่าง” พลังประชารัฐ” ที่มี”ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ” เป็น”หัวหน้าพรรค” ก็จะส่ง”ลูกพรรค” มาร่วม”วงไพบูลย์” ในการ”เปิดบาดแผล” ของ”นายใหญ่” ที่ถูกมองว่าเป็นผู้”ชักใย” อยู่เหนือ”รัฐบาล” และผลของการ”อภิปรายไม่ไว้วางใจ” จะทำให้มีการ”ปรับ ครม.” นั้นเป็นของแน่ แต่จะมีการ”ปรับพรรคการเมือง” บางพรรคออกจากการเป็น”พรรคร่วมรัฐบาล” หรือไม่ ยังไม่แน่ แต่ก็เป็น”เกมการเมือง” ที่ต้อง”ติดตาม”…..
@ส่วนความ”เคลื่อนไหว” ของ”ภาคประชาชน” ก็เริ่มขึ้นแล้ว” วันนี้” กองทัพชาวนา” ทั้งประเทศ ก็ออกมา เรียกร้อง ให้”รัฐบาล” แก้ปัญหาเรื่อง”ราคาข้าวเปลือก” ที่ตกต่ำ ในขณะที่”ข้าวสาร” มีแต่”ขึ้นราคา” ทำไม่”กลไกรัฐ” จึงสวนทางกับ”ข้อเท็จจริง” ของราคาข้าว ตามด้วยเกษตรผู้ปลูก”มันสำปะหลัง” ที่ เตรียม”เคลื่อนพล” เพราะ ราคามันสำปะหลัง จาก กิโลกรัมละ 4 บาท ลดเหนือ 1.90 บาท เกษตรกรต่าง”ขาดทุนย่อยยับ” นี่แสดงให้เห็นถึง”ประสิทธิภาพ” ในการ”บริหารประเทศ” และการด้อยศักยภาพของ”เสนาบดี”ที่” อยู่ใน”ข่าย” ถูก”ปรับ” ให้พ้นจาก” ครม.” หลังการ”อภิปราย”ในครั้งนี้ ….. ในขณะที่ “ประชาชนทุกครัวเรือน” ต่างได้รับความ”เดือดร้อน” จากการ”ปรับขึ้นราคา” ของ”น้ำมันปาล์ม” ที่”นายทุน” สั่งให้”ขึ้นราคาจากขวดละ 60 บาท เป็น 70 บาท โดยที่” อธิบดีกรมการค้าภายใน และ “เสนาบดีกระทรวงพาณิชย์” ไม่ได้”เดือดร้อน” แบบ”ประชาชน” แต่อย่างใด เรื่อง”ราคาน้ำมันปาล์ม” ที่ขึ้นราคา”ตามใจฉัน” สร้างความ”เดือดร้อน”ไปยังคน”ค้าขาย” ตั้งแต่”แม่ค้าข้าวแกง,ข้าวเหนียวไก่ทอด” จนถึง”แม่ค้ากล้วยแขก” จะ”ขึ้นราคา” ยอดขายก็ตก ถ้าไม่”ขึ้นราคา” รายได้หายเพราะ”กำไรหด” นี้คือความ”ทุกขเวทนา” ของ”ประชาชน” ในยุคของรัฐบาลเพื่อไทย ที่มี”แพทองธาร ชินวัตร” นายก”รัฐมนตรี”ผู้”กินหรู อยู่ดี” ตามวิถีของ”แฟชั่น”…..
@การที่”น้ำมันปาล์ม” ในประเทศมีราคาแพง ก็ทำให้”ขบวนการนำเข้าน้ำมันปาล์มหนีภาษี” จาก” ประเทศมาเลเซีย” ฟื้นคืนชีพ มีการนำ”น้ำมันปาล์มหนีภาษี” เข้ามาจาก ประเทศมาเลเซีย มายัง”ประเทศไทย” ด้าน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ชายแดน จ.สงขลา สตูล, นราธิวาส”เป็น จำนวนมาก เพราะเป็นที่ต้องการของ”ตลาด” และ”ประชาชน” เพราะ”น้ำมันปาล์ม” จากประเทศมาเลเซียมี”ราคาถูก” และขายถูกกว่า”น้ำมันปาล์ม” ของ”ประเทศไทย” ขวดละ 10 บาท ใน”ปริมาณ” ที่เท่ากัน แล้วใครอีกที่”เสียหาย” ก็”ประเทศชาติ” อีก เพราะไม่ได้”ภาษี”เข้าประเทศ” ส่วนผู้ที่”แฮ้ปปี้” คือ” เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ที่ขับรถ”โฉบเฉี่ยว”ไปมา เดือนละ ครั้ง สองครั้ง เพื่อสร้าง”สัมพันธไมตรี” กับ”ขบวนการ” ในแนวชายแดน จบข่าว……
@ควันหลงจาก” ครม.สัญจร” ที่ “จังหวัดสงขลา” ที่คน”สงขลา” ถอนหายใน”เฮือกใหญ่” เพราะ”งบประมาณ” ที่ได้จาก “รัฐบาล” ครั้งนี้มีเพียง”จิ๊บจ้อย” นอกนั้นเป็นเพียง”ยาหอม” ส่วนเรื่องที่ “จังหวัด” ควรนำเสนอ เช่นเรื่องของ”โพงพาง” ที่เป็นเครื่องมือ”ประมงผิดกฎหมาย” เต็ม”ท้องทะเลสาบ” และที่เป็น”โพงพาง” ที่”รุกล้ำร่องน้ำ” ซึ่งต้องใช้”งบประมาณ” ในการ”แก้ปัญหา” ที่”คาราคาซัง” มากกว่า 10 ปี ไม่มีการ”หยิบยก” เข้าที่ประชุม เช่นเดียวกับ”เงินเยียวยา”ให้กับ”เรือประมง”ที่เข้าโครงการของ”ไอยูยู” ขายเรือให้รัฐ และ”เลิกอาชีพประมง ที่”จอดผุพัง” ใน”ทะเลสาบ” เพราะยังไม่ได้รับ”เงินเยียวยา” ไม่มีการ”นำเสนอ” ให้ “ครม.” ดำเนินการ แม้แต่เรื่องการ”ฟื้นฟูทะเลสาบสงขลา” ที่วันนี้กลายเป็น”ทะเลสาบที่ป่วยไข้” ก็ไม่มี”นักการเมือง” และ”ข้าราชการ ในพื้นที่พูดถึง ครม.สัญจร ที่ สงขลา จึงมีแต่เรื่อง”ชื่นมื่น”..….
@กลับมาเรื่องของ”ไฟใต้” ที่”ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ “สามจังหวัดชายแดนภาคใต้” ( ปัตตานี,ยะลา,นราธิวาส ) พร้อมทั้ง”รับปาก” ที่จะทำหน้าที่”ดับไฟใต้” ให้”ยุติ”ภายใน 1 ปี หรือ ภายใน”รัฐบาล”ของ”ลูกสาว” แพทองธาร ชินวัตร” ผู้เป็น”นายกรัฐมนตรี” ถามว่า อะไรที่เป็น”สิ่งบอกเหตุ” ว่าจะ”ดับไฟใต้”ได้ภายในเวลา 1 ปี “กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” ในพื้นที่”ลดลง” หรือ”หมดไป” ในการ”ก่อเหตุ” หารือ”แกนนำ” ของ”บีอาร์เอ็น” ในประเทศมาเลเซียมีการ”ตกปากรับคำ” ว่าจะ”ยุติ”การ”ก่อการร้าย” และ”ยอม”กลับบ้าน” โดยไม่มีอะไร”ติดปลายนวม” ทั้งที่ “ลงทุน” ไปมากแล้ว และใช้เวลา”ยาวนานกว่า 60 ปี” หรือ” อันวาร์ อิบราฮิบ” นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีการ”พูดคุย”กับ”พรรคพาส” ที่เป็น”พรรคฝ่ายค้าน” เป็น”เจ้าของที่นั่ง” ใน”รัฐกลันตัน.ตรังตานู” ที่ให้การ”สนับสนุน”กลุ่ม”บีอาร์เอ็น” หรือ” ตำรวจสันติบาล” มีการ”เยสโนโอเค” ในการที่จะ”ผลักดัน” ให้”บีอาร็เอ็น” ออก”นอกประเทศ”แล้ว เปล่าเลย ไม่มีสิ่ง”บอกเหตุ” ถึงการ”ล้มเลิก” ที่จะ”ก่อการร้าย” และยกเลิก”ธง” ในการ”แบ่งแยกดินแดน” จาก”บีอาร์เอ็น” แม้แต่ เรื่องเดียว เรื่องการ ประกาศที่จะ”ดับไฟใต้” ภายใน 1 ปี ของ”ทักษิณ ชินวัตร” อดีต”นายกรัฐมนตรี” จึงเป็นเรื่อง”ปากไว” และเป็นเพียง”วาทกรรม” ของการ”หาเสียง” เท่านั่น ดังนั้น”ประชาชน” ในพื้นที่”สามจังหวัดชายแดนภาคใต้”อย่าหลง”ดีใจได้ปลื้ม” กับ”วาทกรรม”ของ”ทักษิณ ชินวัตร”…..แต่ ให้ “ระวังป้องกันตนเอง” และ”ทรัพย์สิน” เพราะหลังการ”ประกาศ” ที่จะ”ดับไฟใต้” ให้”ยุติ” ภายใน 1 ปี อาจจะไป”ยั่วยุ” ให้” กองกำลังติดอาวุธ” ของ”บีอาร์เอ็น” ก่อเหตุร้ายมากขึ้น เพราะเป็น”สันดาน” ของ” บีอาร์เอ็น” ที่ไม่ชอบให้มีการ”ท้าทาย” ……
@การที่”ทักษิณ ชินวัตร” กล่าว”ขอโทษ” และ”ยอมรับผิด” ในหลายๆเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นใน”จังหวัดชายแดนภาคใต้” ครั้งที่”ทักษิณ ชินวัตร” เป็น”นายกรัฐมนตรี” โดยเฉพาะเรื่องการ”ตายหมู่” ที่”มัสยิดกรือเซะ” และ”ที่”หน้าสภ.ตากใบ” ถ้า”ทักษิณ ชินวัตร” คิดว่าแค่คำ”ขอโทษ” และทุกอย่างก็จบ”โดย”ทึกทัก” เอาเองว่า”ผู้ที่นับถือ”ศาสนาอิสลาม” ในพื้นที่พร้อมที่จะให้”อภัย” ก็เป็นเรื่อง”คิดผิด” ทั้งแต่”เริ่ม”เข้ามาเพื่อ”ดับไฟใต้”แล้ว เพระหลังที่”ทักษิณ ชินวัตร” ขึ้นเครื่องบินกลับกรุงเทพฯ “หน่วยงานความมั่นคง” ในพื้นที่คงไม่มีใคร”รายงาน” ให้”ทักษิณ ชินวัตร” และ”ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกรัฐมนตรี และ”เสนาบดีกระทรวงกลาโหม”ว่า” วงน้ำชา” และ”วงเสวนา” ของ”ภาคประชาชน” และ”ภาคประชาสังคม” เขา”วิพากษ์ วิจารณ์” เรื่องการลงพื้นที่เพื่อ”ขอโทษ” และจะ”ดับไฟใต้” ให้สำเร็จภายใน 1 ปี ว่าอย่างไร ดังนั่น อย่าเอาการ”จัดฉาก”ด้วยการนำ”คนที่ถูก”จัดตั้ง” เพียงไม่กี่คน ว่า”ยินดี”ที่จะให้”อภัย” กับความ”ผิดพลาด” แล้วมา”ทึกทัก” ว่าผู้ที่เป็น”มุสลิม” ให้”อภัย” ในเรื่อง”เก่าก่อน” แล้ว เชื่อ”หัวไอ้เรือง”เถอะ เรื่องของ”ไฟใต้” ยังไม่จบง่าย และ”ฉากจบ” ก็ไม่ใช่การ”เจรจา” อย่างที่”เข้าใจ” เพราะการ”เจรจา” ให้”จบได้” ต้องทำให้”บีอาร์เอ็น” อ่อนแอ และ หมดทางสู้ หมดทางไป แต่ “บีอาร์เอ็น” วันนี้” แกนนำ” ยังมีการ”ผลัดใบ” เพื่อการ”ไปต่อ” ที่ สำคัญ” บีอาร์เอ็น” ยัง”หาเงิน” เพื่อ”สนับสนุน” ขบวนการได้……
@ส่วนเรื่องของ”สภาความมั่นคงแห่งชาติ” หรือ” สมช.” ที่อยู่ระหว่างการ”ร่าง” แผน”ยุทธศาสตร์”การ”ดับไฟใต้” ที่ให้มีความกฎละหม้ายคล้ายคลึง” กับ “นโนยาย 66/23 เพื่อใช้ในกานการ”พาคนกลับบ้าน” ขอโทษเถอะ นโยบาย”พาคนกลับบ้าน” ที่” กอ.รมน.ทำมาในหลายสิบปี นอกจากเป็นการ”ผลาญงบประมาณ” แล้ว เคยมีความ”สำเร็จ” ที่ไหน เหตุผลที่”ไม่สำเร็จ” เพราะการ”พูดคุย” และ”พาคนกลับบ้าน” ล้วนแต่ไปพาคนที่”บีอาร์เอ็น” ทำการ”ปลดระวาง” และกำลังหาทางให้”กลับบ้าน” เป็นการ”พูดคุย” ที่”เข้าทาง” ของ”บีอาร์เอ็น” ไม่ใช่”เข้าทาง” ในการ”ดับไฟใต้” และ “เวทีพูดคุย” มากมายที่ทำกันมาไม่ใช่”เวที”ของการ”พูดคุย” กับ” แนวร่วม” ของ”บีอาร์เอ็น” แต่เป็นการ” พูดคุย” กับกลุ่ม”ผู้เห็นต่าง” ที่เป็นคนในพื้นที่ซึ่งยังไม่ได้เข้าร่วมกับ”บีอาร์เอ็น” แต่”เห็นต่าง” จากรัฐ จาก”ส่วนราชการ” ใน เรื่องของ”นโยบาย” ที่ไม่”สอดคล้อง” กับ”สถานการณ์” และความ”เป็นจริง” เท่านั้น ส่วน”แนวร่วม” และกองกำลังติดอาวุธ” ที่”เคลื่อนไหว” อยู่ในพื้นที่ของ”สามจังหวัด” และที่อยู่ใน”มาเลเซีย” เคยมีการตั้งวง”เสวนา” กันหรือไม่ ก็ เปล่าเลย……
@ทุกข์ของ”ชาวบ้าน” และความ”เสียหาย”ของ”ประเทศชาติ” ทางหลาวงหมายเลข 4 หรือ”ถนนสายเอเชีย” ระหว่าง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ถึง จังหวัดสงขลา ระยะทาง 200 กว่า กิโลเมตร ฝั่งขามาจาก อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช – อำเภอบางกล่ำ จังหวัดสงขลา ที่ถนนมีการ”พังทลาย”เป็นช่วงๆ ทั้งที่ “บางช่วง บางตอน” เพิ่งสร้างเสร็จเพียง 1 ปี 2 ปี เพราะมี”ขาใหญ่” ที่ รับจ้าง”บรรทุกหิน” จาก”โรงโม่หิน” ใน” อำเภอทุ่งสง” และ “อำเภอร่อนพิบูลย์” จังหวัดนครศรีธรรมราช คันละ 50 คิว น้ำหนักคันละ 100 ตัน โดยวิ่งในเวลากลางคืน จนเป็นเหตุให้”ถนนพังทลาย” เป็นการสร้างความ”เดือดร้อน” ให้ ประชาชนผู้”สัญจร” และเป็นการสร้างความ”สูญเสีย” ให้กับ”งบประมาณแผ่นดิน” เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ ที่นำใช้ในการ”ก่อสร้าง” เป็นเงินที่มาจาก”ภาษีของประชาชน” เรื่องนี้”สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” ต้อง”รับผิดชอบ” เพราะไม่ทำการ”จับกุม”ผู้ทำความผิด” ในการ”บรรทุกน้ำหนักเกิน” ใน “ทางหลวงหมายเลข 4” มี จุดตรวจตำรวจทางหลวง 5 แห่ง และอยู่ในพื้นที่ของ”โรงพัก 10 แห่ง” ดังนั้นการที่ปล่อยให้”ขาใหญ่” ที่เป็น”ผู้รับเหมา” และมี”นักการเมือง” อยู่ด้วย “พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผบ.ตร. และ “พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 และ”พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี “ ผบช.ภ.9 ต้อง “รับผิดชอบ” ด้วยการ”จับกุมผู้ทำความผิด” และต้องให้มีการ”ชดใช้” ความ”เสียหาย” ที่เกิดขึ้น…..
@สุดท้าย ขอ แสดงความยินดีกับ” นายกองค์กรบริหารส่วนจังหวัดยะลา “ นายมุขตาร์ มะทา” ที่ “กกต.” ประกาศรับรองเป็นที่เรียบร้อย รวมทั่ง”นายก อบจ. ท่านอื่นๆ ใน”ภาคใต้ทั้งหมด ส่วนผู้ที่ยัง”ค้างเติ่ง” ก็ต้อง”ลุ้น” กันต่อไป เพราะอย่างไรเสีย”กกต.จังหวัด” คง”ปล่อยผี” ทั้งหมด ส่วน”ความผิด” ที่มีการ”ร้องเรียน” ก็ให้เป็นหน้าที่ของ”กกต.กลาง”…..หลังการศาล”พิพากษา” กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูก”กล่าวหา” ในการ”บุกรุกโบราณสถานเขาน้อย” อ.สิงหนคร จ.สงขลา ทั้ง 5 คน ให้”รับโทษ” ทั้งทาง”อาญา” และ”ทางแพ่ง” โดยไม่มีการ”รอลงอาญา” ประชาชนชาว สงขลา ต่าง”มั่นใจ” มากขึ้นว่า”กฎหมาย” และ”ศาลยุติธรรม” ยังเป็นสิ่ง”ศักดิ์สิทธิ์” เป็น”ที่พึ่ง” ของ”ประชาชน”ได้…..แล้วพบกันใหม่ ในวันศุกร์หน้า สวัสดีครับ
ไชยยงค์ มณีพิลึก
————————————————————-

รับมอบ. พ.อ.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผบ.กำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพิธีรับมอบสิ่งของละศีลอด เดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446 โดยมี พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธาน ณ ห้องโถง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

เยี่ยมอวยพร. ชมรมชาวไทยเชื้อสายจีนจังหวัดยะลา เยี่ยมอวยพร ฯพณฯวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องในวันตรุษจีน ณ มูลนิธิมะทา อ.เมือง จ.ยะลา

เปิดงานวิชาการ. มณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการฯคณะกรรมส่งเสริมการศึกษาเอกชนได้เป็นประธานเปิดงานวิชาการ มอ.ว.ครั้งที่ 2. ณ. หอประชุมนานาชาติ มอ.หาดใหญ่ โดยมี สุชาติ สุขพันธ์ ผอ.ร.ร,มอว.พิทยานุสรณ์ ให้การต้อนรับ

เยี่ยมคำนับ.พล.ร.ท. นเรศ วงศ์ตระกูล ผบ.ทัพเรือภาคที่ 2 ประธานคณะทำงานผสมทางทะเลฝ่ายไทย และ คณะทำงานฯ จากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าเยี่ยมคำนับ พลเรือเอก Datuk Zulhelmy bin Ithnain ผู้บัญชาการทหารเรือมาเลเซีย Senior Assistant Commissioner Shamsul ผบ.ตำรวจน้ำมาเลเซีย รวมทั้งเข้าหารือกับ ลดา ภู่มาศ เอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และ เยี่ยมชมการปฏิบัติงานของสำนักงานองค์กรร่วม ไทย – มาเลเซีย

จิตอาสา. โดมเดช ขุนกลับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ่อแดง คณะผู้บริหาร รองปลัด หัวหน้าส่วน พนักงานส่วนตำบล พนักงานจ้างทุกท่าน พร้อมด้วย โฆษิต เทพมุณี ปลัดอำเภอสทิงพระประจำตำบลบ่อแดง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประธานสภาเด็กตำบลบ่อแดง จิตอาสาพระราชทาน อสม.ตำบลบ่อแดง และประชาชนตำบลบ่อแดง เข้าร่วมโครงการกำจัดขยะมูลฝอยในพื้นที่ตำบลบ่อแดง ณ หาดแสนสุข ต.บ่อแดง อ.สทิงพระ จ.สงขลา

ชมกิจกรรม. ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีต นายกรัฐมนตรี ที่ปรึกษาประธานอาเซียน ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ TK Park Yala ชมกิจกรรมในอุทยานการเรียนรู้ยะลา และการแสดงจากวงออร์เคสตราเยาวชนเทศบาลนครยะลาโดย นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ณ อุทยานการเรียนรู้ยะลา

กระชับความสัมพันธ์. ซันตารา นูซันตารา นายกเทศมนตรีเมืองตากใบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศุภชัช ณ พัทลุง ผกก.สภ.ตากใบ และ อาเฟนดี บินปูเต๊ะ สมาชิกสภา อบจ.นราธิวาส (อ.ตากใบ เขต 1) พร้อมด้วย บุคลากรเทศบาลเมืองตากใบ ร่วมให้การต้อนรับ Mr. Mohamed Yusoff Khan Bin Mohd Hassan ผู้อำนวยการกองตรวจคนเข้าเมืองรัฐกลันตัน และ Mr. Suhaizan Bin Abdullah หัวหน้าตรวจคนเข้าเมือง Pengkalan Kubor, Kelantan ประเทศมาเลเซีย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเมืองชายแดนไทย-มาเลเซีย ณ เทศบาลเมืองตากใบ อ,ตากใบ จ,นราธิวาส

ฝึกอบรม. ว่าที่ ร,ต, ตระกูล โทธรรม ผวจ.นราธิวาส มอบหมายให้ วีรพัฒน์ บุณฑริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรม Smart Farmer ชาวสวนยาง หลักสูตร “พัฒนาองค์ความรู้ด้านยางพารา สร้างความยั่งยืนในอาชีพการทำสวนยาง” ปีงบประมาณ 2568 โดยมี นายศานติ พันธุ์มณี ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดนราธิวาส นายเทอดศักดิ์ รัญจวน เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส ณ ห้องประชุมสวนอาหารริมน้ำ อ.เมือง จ.นราธิวาส

เยี่ยมคารวะ. นิกร เซ้งเถียร ผอ.ศค.จชต.และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะกงสุลใหญ่มาเลเซีย และกงสุลใหญ่อินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา หารือประเด็นการขับเคลื่อนการศึกษาแบบบูรณาการในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ สถานกงสุล อ.เมือง จ.สงขลา

เปิดงาน, อัมรันท์ บากา นายอำเภอกาบัง เปิดงานมลายูกาบังบ้านฉัน MALAYU FOOD FEST” อำเภอกาบัง จังหวัดยะลา เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สร้างรายได้และกระตุ้น เศรษฐกิจ ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอกาบัง สร้างความสุข ความบันเทิง กับประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งในการสนับสนุนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยมีตัวแทนหน่วยงานราชการเข้าร่วมงาน

เปิดงาน. ณ นาหนองยายลาย ตำบลนาพละ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง สกุล ดำรงเกียรติ รอง ผวจ.ตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดงานแรกเก็บข้าวตรัง เพื่อสืบสานภูมิปัญญาและวิถีวัฒนธรรม และสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก ฤดูกาลเก็บเกี่ยว โดยมี นพ.จำรัส สรพิพัฒน์ ประธานคณะกรรมการฯพัฒนาและขับเคลื่อนโยบายสาธารณะฯ จังหวัดตรัง กล่าวต้อนรับ

พัฒนาศักยภาพ. ณ บ่อหินฟาร์มสเตย์ อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง นำโดย บัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง ยุทธนา วิมลเมือง หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต พร้อมด้วยกลุ่มงานป้องกันการทุจริต จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพเยาวชนต้านทุจริต Trang Anti – Corruption Young Leaders GEN 6โดยมีเป้าหมายให้เยาวชนศึกษา”สิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งร้าง” และบางอย่างที่สร้างขึ้นมาโดยหน่วยงานราชการ แล้วไม่ได้ใช้ประโยชน์ เพื่อเป็นการสร้างเครือข่ายเยาวชนในการต่อต้านการทุจริต

เปิดกิจกรรม. ณ โรงเรียนบ้านห้วยม่วง ต.บ้านนา อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ชุลีกร ทองด้วง ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ตรัง เขต 1 ประธานเปิดกิจกรรม Kick off โรงเรียนคุณภาพตามนโยบาย 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ พร้อมเปิดแพรคลุมป้าย อาคารเรียนใหม่ และประชุมติดตามผลการดำเนินงานพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ โดยมี อาคม บริสุทธิ์ ผอ.ร.ร.บ้านหินคอกควาย ในฐานะประธานกลุ่มโรงเรียนบ้านนา-สุโสะ เป็นตัวแทนกล่าวรายงาน และให้การต้อนรับ

วันมนุษย์ศาสตร์. ผศ.ดร.ศิริชัย นามบุรี รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นประธานเปิดงาน วันมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 “มนุษย์ สังคม ชุมชนท้องถิ่น” โดยมี ผศ.นิชาภัทรชย์ รวิชาติ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ กล่าวรายงาน และคณะผู้บริหาร แขกผู้มีเกียรติ บุคลากร นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ร่วมงาน

เปิดสถานี. สุไลมาน บือแนปีแน สส.ยะลา เขต 1 พรรคประชาชาติ ให้เกียรติตัดริบบิ้นเปิดสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV Station PluZ ภายใน YALA PARK (ร้านอาหารฮาลาล – เครื่องดื่ม ฯลฯ) เพื่ออำนวยความสะดวกการเข้าถึงจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้กับพี่น้องประชาชนชาวยะลาที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยมี นายอิมรอน เส็นหลีหมีน นักธุรกิจยะลา CEO YALA PARK / CEO Ron Construction และทีมงานให้การต้อนรับณ ผังเมือง 4 อ,เมือง จ.ยะลา

เปิดนิทรรศการ. วันสุกรี แวมามะ นายอำเภอเมืองปัตตานี ร่วมเป็นเกียรติพิธีเปิดนิทรรศการผลงานวิชา “จะบัง วิชาการ” เพื่อบูรณาการ การเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้สัมพันธ์กับเนื้อหาของกิจกรรม และ เพื่อให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมได้เยี่ยมชมบูธกิจกรรมต่างๆ ทั้งนี้ได้มี นายนิอันนุวา สุไลมาน นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี พร้อมด้วย นางจุไรลี่ สาและ ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านจะบังติกอ หัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ