ย้อนไปต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา มิเกล อาร์เตตา โดนแฟนบอลฝ่ายตรงข้ามแซวเละ หลังจากลูกทีมแพ้นิวคาสเซิล 0-2 ทั้งที่มีโอกาสยิง 23 ครั้ง ในรอบรองชนะเลิศ คาราบาว คัพ นัดแรก เนื่องจากพูดถึงลูกบอล Puma ว่าควบคุมได้ยาก ต่างจากลูกบอล Nike ที่ใช้ในพรีเมียร์ลีก

ล่าสุด เปป กวาร์ดิโอลา เป็นอีกคนที่ออกมาบ่นลูกบอล Mitre ซึ่งใช้ในถ้วยเอฟเอ คัพ เพราะแม้ชนะ พลีมัธ อาร์ไกล์ 3-1 แต่กุนซือชาวสเปนเลือกใช้คำเดียวกับอาร์เตตาในการอธิบายลูกบอลว่ามัน Tricky ประมาณว่ามันเล่นยาก ลูกบอลบินว่อนไปหมด

ถ้ามองแบบไม่อคติจนเกินไป การที่นักเตะจะไม่ชินกับลูกบอลอาจไม่ได้น่าประหลาดใจ เพราะแต่ละรายการใช้ลูกบอลต่างยี่ห้อกันเกือบหมด พรีเมียร์ลีกใช้ Nike, แชมเปียนชิพใช้ Puma, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกใช้ Adidas, ยูโรปาลีกใช้ Kipsta, ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีกใช้ Decathlon, ลีกคัพใช้ Puma และ เอฟเอ คัพใช้ Mitre

เรียกว่าลงเล่น 4 รายการก็จะเจอกับลูกบอล 4 ยี่ห้อ

กีฬาระดับโลกนั้นความแตกต่างแม้รายละเอียดเล็กน้อยย่อมส่งผลไปถึงการแข่งขัน เช่น โต๊ะสนุ้กเกอร์ต่างยี่ห้อ ความแข็งของชิ่งก็อาจส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของลูกไม่เหมือนกัน ไปจนกระทั่งอุณหภูมิความชื้น หรือนักวิ่งแข่งจะเก่งขนาดไหน รองเท้าต่างยี่ห้อก็รายละเอียดปลีกย่อยไม่เหมือนกัน

คำถามคือแล้วลูกฟุตบอลที่ใช้ต่างยี่ห้อกันหมดแบบนี้จะเหมือนกันหมดหรือไม่?

ตอบได้เลยว่าไม่เหมือนกัน 100%

ระเบียบของคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลนานาชาติ (Ifab) ตีความถึงลูกบอลเบอร์ 5 ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการแข่งขันระดับอาชีพทั่วโลกว่า

  1. ต้องทำจากวัสดุที่เหมาะสม
  2. เส้นรอบวงระหว่าง 68 ซม. ถึง 70 ซม.
  3. น้ำหนักระหว่าง 410 ถึง 450 กรัม
    4.แรงดันเท่ากับ 0.6-1.1 (ระหว่าง 8.5 psi ถึง 15.6 psi)

อีกทั้งลูกบอลทั้งหมดที่ใช้ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการจะต้องได้รับการทดสอบ จากนั้นจึงได้รับตรา “ควบคุมคุณภาพโดยฟีฟ่าสำหรับฟุตบอล”

เอฟเอและอีเอฟแอลยืนยันว่าลูกบอลที่นำมาใช้คุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด แต่ในความเป็นจริงไม่น่าเป็นไปได้ ที่ลูกบอลทุกยี่ห้อจะมีรายละเอียดตรงกันทั้งหมด

อย่างน้อยวัสดุและเทคโนโลยีที่นำมาใช้อาจแตกต่างกัน และมันสามารถเปลี่ยนวิธีที่ลูกบอลเคลื่อนที่ผ่านอากาศได้

ลูกบอลรุ่น Take the Nike Flight ถูกระบุว่าทำจากโพลียูรีเทน, ยาง, โพลีเอสเตอร์ และฝ้าย มีร่องที่ช่วยให้อากาศเดินทางรอบๆ ลูกบอลและพุ่งทะยาน ส่วนลูกบอล Orbita 1 ของ Puma ระบุว่าลดรอยตะเข็บลงมา และ Adidas เผยว่ามีการใช้สารที่มีพื้นฐานทางชีวภาพ เช่น อ้อยและเส้นใยไม้จากภายนอก มากกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มา

สรุปแล้วแต่ละยี่ห้อเรียกว่าลูกบอลเหมือนกัน แต่ก็แตกต่างกัน.

เฮียเอง