เวลาที่เดินผ่านลานจอดรถกลางแจ้งตามสถานที่ต่างๆ หลายๆ คนคงจะเคยพบเห็น ผู้ใช้รถ “ยกก้านปัดน้ำฝนขึ้น” เพื่อต้องการรักษาเจ้าปัดน้ำฝน จากสภาพอากาศร้อนและให้มีอายุไขยืนยาว และยังช่วยประหยัดเงินที่จะเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนเร็วขึ้น? วันนี้ “รู้ก่อนเหยียบ” มีคำตอบมาฝากครับ

ต้องบอกก่อนว่า ในความเป็นจริงนั้น แม้ว่ากระจกบังลมหน้าจะมีการสะสมความร้อนเอาไว้ แม้จะยกก้านปัดน้ำฝนขึ้นไปแล้ว แต่ยางปัดน้ำฝนยังคงได้รับความร้อนและรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ ใบปัดน้ำฝนจึงมีการเสื่อมสภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่ดีครับ
นอกจากนี้ “การยกใบปัดน้ำฝนขึ้น” จะทำให้สปริงในชุดก้านปัดน้ำฝนยืดตัวมากกว่าปกติ เมื่อใช้ไปนานๆ สปริงจะเกิดการเสื่อมสภาพ ทำให้แรงกดของก้านปัดน้ำฝนลงบนกระจกลดน้อยลง ผลที่ได้คือ ปัดไม่เกลี้ยง หรือมีอาการใบปัดกระโดด และ “ต้องเสียค่าใช้จ่ายเปลี่ยนชุดก้านปัดน้ำฝนสูงกว่าการเปลี่ยนเฉพาะยางปัดมาก”

เทคนิคควรรู้
อายุไข “ปัดน้ำฝน” จริงๆ แล้ว หากเป็น “ปัดน้ำฝน” ที่มีคุณภาพ อายุเฉลี่ยจะอยู่ที่ 18-24 เดือน แต่สำหรับประเทศไทย ซึ่งเป็นเมืองร้อน อายุ “ปัดน้ำฝน” ย่อมสั้นลง โดยยังมีลักษณะการใช้งาน-การดูแลเป็นตัวแปรด้วย แต่ด้วยราคาที่ถูกลงเพียงหลักร้อยบาท ปัจจุบัน หลายๆ ท่านจึงเลือกเปลี่ยนเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนของทุกปี แต่เพื่อความชัวร์ หากทดลองแล้วปัดไม่เกลี้ยงก็หาซื้อเปลี่ยนได้เลยครับ…