แม้ราคาของข้าวพันธุ์ “แคลิฟอร์เนีย โรส” หรือ “แคลโรส” (Calrose) เพิ่มขึ้นสองเท่า นับตั้งแต่ฮิราโนะซื้อครั้งแรกเมื่อช่วงฤดูร้อนปีที่แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีราคาถูกกว่าข้าวที่ปลูกในญี่ปุ่นมาก และเขาไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนข้าวที่ใช้ ถ้าราคาข้าวภายในประเทศไม่ต่ำกว่าราคาข้าวแคลโรส

ความเต็มใจของฮิราโนะ ในการยอมรับข้าวต่างประเทศ อาจเป็นเค้าลางของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในกรอบความคิดของธุรกิจและผู้บริโภคในญี่ปุ่น ซึ่งอาจทำให้รัฐบาลโตเกียวผ่อนปรนข้อจำกัดบางประการ หากข้าวกลายเป็นประเด็นที่ยุ่งยากในการเจรจาภาษีกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ

อนึ่ง ราคาขายส่งข้าวภายในญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นประมาณ 70% ในช่วงปีที่ผ่านมา จนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลเมื่อปี 2549

เนื่องจากข้าวได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนจัด และภาวะเงินเฟ้อทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวที่คึกคัก ส่งผลให้อุปสงค์เพิ่มขึ้น ธุรกิจหลายแห่งจึงเริ่มเดิมพันว่า ญี่ปุ่นจะเปิดรับการเปลี่ยนแปลง

เมื่อไม่นานมานี้ ยักษ์ใหญ่ด้านซูเปอร์มาร์เก็ตของญี่ปุ่นอย่าง “อิออน” เริ่มจำหน่ายข้าวอเมริกันผสมข้าวญี่ปุ่น ในสัดส่วน 80 ต่อ 20 ซึ่งมีราคาถูกกว่าข้าวในประเทศประมาณ 10% หลังการทดสอบยอดขายประสบความสำเร็จ

อีกด้านหนึ่ง เครือร้านอาหารจานด่วน “มัตสึยะ” และผู้ประกอบการร้านอาหาร “โคโลไวด์” เริ่มเสิร์ฟข้าวอเมริกันแท้ 100% ในปีนี้ ส่วนเครือซูเปอร์มาร์เก็ต “เซยู” ก็ขายข้าวไต้หวันหมดอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปีที่แล้ว

เมื่อทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าต่อหลายประเทศทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา เขาก็กล่าวหาญี่ปุ่ นที่เรียกเก็บภาษีข้าวสหรัฐสูงถึง 700% ซึ่งบรรดาผู้กำหนดนโยบายของญี่ปุ่น กล่าวถึงคำพูดของทรัมป์เกี่ยวกับประเด็นที่อ่อนไหวนี้ว่า “น่าสลดใจ” และโต้แย้งว่าตัวเลขภาษี 700% ข้างต้น อ้างอิงจากราคาข้าวระหว่างประเทศในอดีตเมื่อนานมาแล้ว

แม้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จะมีการหารือเรื่องข้าวมากเพียงใด ในการเจรจาภาษีระดับทวิภาคี ระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐ แต่นักวิเคราะห์บางคนคิดว่า รัฐบาลพรรครีพับลิกันของทรัมป์ อาจไม่ให้ความสำคัญกับข้าว เนื่องจากการส่งออกข้าวไปยังญี่ปุ่น มาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่สนับสนุนรัฐเดโมแครต นอกจากนี้ มันก็ไม่มีความชัดเจนว่า ญี่ปุ่นเต็มใจที่จะเปิดตลาดข้าวของตนเองมากแค่ไหน

ทั้งนี้ สัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าอาจมีช่องว่างสำหรับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง คือ คณะกรรมการที่ให้คำแนะแก่กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา เสนอให้ขยายการนำเข้าข้าวหลัก โดยให้เหตุผลว่า การยกเลิกเพดานนำเข้าข้าวปลอดภาษี 100,000 ตัน อาจช่วยรักษาเสถียรภาพของอุปทานได้

อย่างไรก็ตาม พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ผู้นำญี่ปุ่น ไม่น่าจะเสี่ยงสร้างความไม่พอใจให้กับเกษตรกรของประเทศ ซึ่งเป็นฐานเสียงที่มั่นคง ก่อนถึงการเลือกตั้งวุฒิสภาญี่ปุ่น ในเดือน ก.ค. นี้.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES