การเมืองไทยเดินมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ จากความร้าวฉานในพรรคร่วมรัฐบาลที่พรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวหลังถูกยึดคืนโควต้า รมว.มหาดไทย ผสมโรงด้วยคลิปหลุด “นายกฯอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร สนทนาประสาอาหลานกับ “ฮุน เซน” ประธานองคมนตรีกัมพูชา แบบสร้างข้อกังขาให้คนไทย วันนี้ “คอลัมน์ตรวจบ้าน”ต้องมาสนทนากับ “จตุพร พรหมพันธุ์”วิทยากรคณะหลอมรวมประเทศไทย วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในห้วงเวลานี้ เป็นระสุดท้ายของรัฐบาลเพื่อไทยหรือยัง

โดย “จตุพร” เปิดประเด็นกรณีคลิปเสียงที่น..แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไปคุยกับฮุน เซน หลุดออกมาช่วงนี้ ว่า ถือว่าเป็นการกระทำที่กระทบกระเทือนทั้งในเรื่องความมั่นคงทางความรู้สึกของชาติอย่างรุนแรง จะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เป็นเรื่องที่รับฟังไม่ได้ เพราะการพูดถึงพล..บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ทำหน้าที่ปกป้องราชอาณาจักรไทย ปกป้องแผ่นดินไทย ว่า อยู่ตรงกันข้าม เป็นพวกอยู่ตรงกันข้าม พูดเอาเท่ นี่ยกตัวอย่างในทางการทหารในอดีตก็เสมือนหนึ่งว่าได้ตัดหัวแม่ทัพของตัวเองส่งเป็นเครื่องบรรณาการให้กับศัตรู ซึ่งความรู้สึกนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามันไปอย่างรวดเร็ว ความเป็นจริงนั้น กรณีคลิปนี้ที่ออกมามีความต่อเนื่องตามลำดับเนื่องจากว่า “นายกฯอิ๊งค์” พูดกับสมเด็จฮุนเซน พูดในวันประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) วันสุดท้ายคือวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเป็นวันที่ไทยแพ้คดีเรื่องประสาทเขาพระวิหารต่อกัมพูชาที่ศาลโลก

จึงไม่น่าแปลกใจว่าหลังจากประชุมเจบีซีในวันดังกล่าวเสร็จ ก็ไม่มีการแถลงผ่านไปหลายชั่วโมงจนคนเข้าใจผิดเรื่องสัดส่วนแผนที่ 1:200,000 จนมาชี้แจงทางเฟซบุ๊กยามวิกาล ซึ่งคลิปนี้เป็นเรื่องต่อเนื่อง พอวันรุ่งขึ้น “นายกฯอิงค์”ก็มีท่วงทำนองใหม่ในการประชุมที่บ้านพิษณุโลก จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าก่อนคลิปนี้จะออกมา เราจะเห็นเฟซบุ๊กของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แสดงความไม่พอใจต่อท่าทีการทูตของนายกรัฐมนตรีไทย ต่อมานายพลฮุน มานี รองนายกฯกัมพูชา น้องชายของฮุน มาเนต ก็เป็นแกนนำประชาชน 1.5 แสนคน แสดงความรักชาติบ้านเมืองปกป้องอธิปไตยของชาติหลังจากนั้นคลิปนี้ก็ออกมา

ตอนแรกผมก็ฟังเนื่องจากว่าใน 3 คน ผมเคยฟังเสียงจริงกันมาแล้วทั้งสิ้น เสียงนั้นอย่างไร AI ก็แต่งแยกอยู่แล้ว แต่ภาวนาขอให้เป็น AI เมื่อทางกัมพูชาโดยสมเด็จฮุน เซน เขายืนยันว่าเป็นของจริง และความยาว 17 นาทีเศษ ที่เปิดออกมาเบื้องต้นเพียง 9 นาทีเท่านั้น นายกฯ ไทยหาช่องทางอื่นกันไม่ได้แล้ว เพราะว่า “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.กลาโหม นักข่าวไปถามช่วงแรกก็ยังพยายามจะปัดไปถึง AI กันอยู่ แต่ว่าเมื่อทางกัมพูชาเขามีฉบับเต็มและเขาแถลงเองว่าถ้าต้องการจะเพิ่มส่วนที่ขาดเขาก็ยินดีมอบให้ “นายกฯอิ๊งค์”ก็ไม่มีทางอื่นก็ต้องยอมรับว่าเป็นความจริง อ้างว่าเป็นเทคนิคของการเจรจา

ซึ่งลืมไปว่าตัวเองก็เคยใช้คำว่าเทคนิคของการหาเสียงผ่านอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยก่อนหน้านี้ กรณีพรรคภูมิใจไทยมาแล้ว ตอนหาเสียงเลือกตั้งคนก็วิจารณ์กันพอสมควร แต่น้อยกว่ามากกับเรื่องของแผ่นดิน แม่ทัพเขาประกาศสู้สุดตัว ยืนยันว่านี่คือแผ่นดินของกู ถ้าใครบุกเข้ามาก็ต้องรบกัน ต้องลุยกัน แต่ขณะเดียวกันแม้ว่านายกฯ จะมาอ้างเรื่องว่าพูดฝั่งตรงกันข้ามหมายถึงประเทศกัมพูชาก็ฟังไม่ขึ้น เพราะการพูดกับสมเด็จฮุน เซน นั้น ชี้ได้ชัดว่าแม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายอยู่ตรงกันข้าม เสมือนหนึ่งว่า “นายกฯ ไทย” กับ “สมเด็จ ฮุน เซน” นั้นเป็นพวกเดียวกัน คือ ส่วนตัวรู้จักกันในฐานะ อา หลาน เป็นเรื่องปกติ แต่คำว่าพูดเอาเท่ และไม่ใช่ท่าทีที่รัฐบาลจะเอาด้วยไอ้นี่เกิดความเสียหาย

@ รัฐบาลจะอยู่บริหารงานต่อได้หรือไม่

สิ่งที่นายกฯ แถลงความจริงพูดได้อย่างเดียวคือต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกเท่านั้น เพราะเวลาถัดจากนี้ไปเชื่อผมเถอะเรื่องนี้เอาไม่อยู่หรอก เรื่องนี้จะแรงเกินกว่าที่คนเขารับไหว เพราะทันทีที่มีเรื่องแล้ว ๆ ตัวเองออกมาแถลงด้วยความมั่น ด้วยหน้ามั่นกับเรื่องใหญ่ขนาดนี้ คือ “นายกฯอิ๊งค์” เธอประเมินสถานการณ์ความรู้สึกของคนไทยต่ำไป วันนี้คือไปอย่างรวดเร็ว ไปอย่างน่ากลัว

วันนี้ผมเชื่อว่าเอาไม่อยู่แล้ว หลังเกิดเหตุการณ์นี้ ผมว่าอย่างไรภายใน 1-2 วันนี้เธอต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วโดยทางความเป็นจริงแล้วพรรคร่วมรัฐบาลต้องนัดประชุมกัน เพื่อจะแจ้งไปยังพรรคแกนนำรัฐบาลว่าให้นายกฯ ลาออกก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายและพรรคเหล่านั้นจะต้องร่วมรับผิดชอบด้วย สถานการณ์เกินไปกว่าที่จะเข้าใจเป็นอย่างอื่น ความรู้สึกส่วนตัวใครแต่ละคนก็มีกันได้ แต่เรื่องชาติบ้านเมืองมันเสียหายเกินกว่าที่จะยอมกันได้ เพราะฉะนั้นมันไม่มีทางเลือก นี่ก็ถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างรุนแรงมากที่สุดแล้ว

ส่วนมองว่ารัฐบาลจะอยู่บริหารต่อไปได้หรือไม่นั้น จบแล้ว ลองไปถามใครก็ได้ เรื่องนี้มันยิ่งกว่าสุดซอย จะเป็นชนวน ยื้อไปก็มีเรื่อง นำพาสู่สถานการณ์ที่ไม่พึงปรารถนาอีกมากมาย ใครที่ฟังคลิปเต็มๆ เอาแค่ 9 นาทีที่เปิดมานั้น ต่างก็หน้าหงายกันทุกคน”

@ สถานการณ์ของรัฐบาลที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยประกาศถอนตัวร่วมรัฐบาล

ถือเป็นความโชคดีของทาง “อนุทิน” และคณะไป ที่ไปเก็บข้าวของออกจากกระทรวงมหาดไทย เพราะว่าไอ้ที่จะเก็บข้าวของต่อไปอีกคนก็คือทำเนียบรัฐบาล สถานการณ์นี้พรรคภูมิใจไทยและ “อนุทิน” โชคดีที่สุด ก่อนเกิดเหตุการณ์นี้ใครก็รู้ว่ามันปลายๆ รัฐบาลอยู่แล้ว พอเกิดเหตุการณ์คลิปนี้ยิ่งกว่าถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง เหมือนกับอยู่บ้านที่กำลังจะถูกไฟไหม้แล้วตัวเองออกมาก่อน แล้วจะไม่โชคดีได้อย่างไร ถ้านั่งเครื่องบินก็คือเลขที่นั่ง A11 สายการบินอินเดีย รอดคนเดียว

ดูสถานการณ์ไปคิดว่าไม่ไหวหรอก คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมา ผ่านการเมืองในเหตุการณ์ต่างๆ เรานี่อยู่มาอายุ 60 แล้วเห็นมาเยอะ ดังนั้นมองว่า “มันไปไม่ได้มันจบแล้วล่ะ” เพียงแต่ว่าจะลงอย่างไรเท่านั้นเอง ส่วนสถานการณ์จะบานปลายนำไปสู่การรัฐประหารได้หรือไม่นั้น ก็ภาวนาว่าอย่าให้เกิดขึ้นเลย เพราะว่าบ้านเมืองนั้น อย่างที่ผมบอกว่าคนที่จะเปิดประตูการรัฐประหารไม่ใช่ประชาชน แต่คือรัฐบาลเอง และวันนี้ก็ยิ่งประจักษ์ชัด

@ ถ้ายุบสภาในขณะที่ร่าง พ...งบประมาณฯ ยังไม่ผ่าน ประเทศประเทศจะเกิดปัญหาหรือไม่

ไม่เกิดปัญหา กฎหมายก็มีวิธีการใช้จ่ายงบประมาณไปพลางก่อนได้อยู่แล้ว วันนี้ปัญหาอยู่ที่ตัวของ “นายกฯอิ๊งค์” เองและพรรคเพื่อไทย ถ้ายุบสภาคนที่เดือดร้อนที่สุดก็ คือ พรรคเพื่อไทย เพราะแผลมันใหม่ และถ้าเรื่องนี้ถูกนำไปใช้ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ลงพื้นที่ยากที่สุดผมจะบอกให้ เพราะฉะนั้นแต่ละพรรคการเมืองมันไม่มีทางเลือกอยู่แล้ว ถ้าจะยุบสภาก็ไปเลือกตั้งใหม่ แต่พรรคที่เดือดร้อนสุดก็อย่างที่ผมบอกก็คือพรรคเพื่อไทยนั่นเอง ปัญหาคือพร้อมหรือไม่