สถานการณ์บ้านเมืองร้อนฉ่า! กรณีศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยว่าการกระทำของ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล-อานนท์ นำภา และ ภาณุพงศ์ จาดนอก ด้วยการปราศรัยที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แม้ว่าทั้งสามคนจะยืนยันว่าขอแค่การ “ปฏิรูป”

ต่อมา พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ไปพูดปลุกใจนักศึกษาป้องกันราชอาณาจักรให้กล้าลุกขึ้นยืนในโรงหนัง!

ต่อเนื่องสัปดาห์นี้ กลุ่มผู้รักประชาธิปไตยนำโดยแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย กลุ่มเหล่าทัพราษฎร ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย และคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ชุมนุมกันที่แยกปทุมวัน เพื่อทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเผาหุ่นฟาง-ทุบศาลพระภูมิ แล้วไปยื่นหนังสือกับสถานทูตเยอรมนี

เมื่อ 2 วันก่อน พล.อ.ประยุทธ์ไปประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร (ครม.สัญจร) ที่ จ.กระบี่ ก็ไปชวนกลุ่มแม่บ้านให้ร้องเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” ซึ่งเป็นเพลงปลุกใจแห่งยุคสมัย

“พยัคฆ์น้อย” ไม่แน่ใจว่าการร้องเพลงดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ต้องการสื่อความหมายไปในเรื่องใด? แต่ถ้าจะให้เดาทางนายกฯ คงสื่อความหมายให้รักชาติบ้านเมือง และถ้าเป็นจริงตามที่ “เดา” ก็ต้องบอกกับ พล.อ.ประยุทธ์ว่าอย่าผูกขาดความรักชาติไว้กับตัวเอง เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่ประเทศไทย แล้วประเทศไทยก็ไม่ได้มีแค่ พล.อ.ประยุทธ์

คนไทยรักบ้านเกิดเมืองนอนกันทั้งนั้น! แต่วัดกันไม่ได้ว่าใครรักมาก หรือรักน้อยกว่ากัน แล้วที่สำคัญจะบังคับให้รักทุกเรื่องเหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้หรอก!

พยัคฆ์น้อย” รู้เรื่องมาพอสมควรกับกลุ่มคนประเภท “รักชาติจนน้ำตาไหล” แต่อมเบี้ยเลี้ยง อมเงินเดือนทหาร อมค่าข้าว อมกระสุน อมน้ำมัน เอาพลทหารไปรับใช้ที่บ้าน เอะอะก็จัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษทั้งที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน

บางคนดราม่าว่านุ่งกางเกงปะก้น บ้างก็มีเมียเป็นแม่ค้าบัวลอย แต่พอทำรัฐประหารแล้วร่ำรวยอู้ฟู่ทั้งตระกูล ส่วนแม่ค้าบัวลอยกลายคุณป้าไฮโซใส่เครื่องประดับแพรวพราว นั่นคือสภาพโดยรวมของกลุ่มคนผู้รักชาติจนน้ำตาไหลแหมะ ๆ

วกกลับมา ครม.สัญจร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ กับพลพรรคประชาธิปัตย์ อย่าประมาทเกมการเมืองของ พล..ประยุทธ์และพรรคพลังประชารัฐ เพราะเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” อาจสื่อสารไปถึงพี่น้องภาคใต้ ไม่เช่นนั้นคงไม่หว่านล้อมว่าถ้าปรับ ครม. จะเอา ส..ภาคใต้พลังประชารัฐมาเป็นรัฐมนตรีแทน “ธรรมนัสนฤมล”

นายจุรินทร์อย่าลืมว่าเวลานี้ “ป้อมค่าย” ประชาธิปัตย์ ถูกพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาชาติ ตีทะลวงแตกหลายจังหวัด โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐสามารถกวาด ส.ส. ภาคใต้ได้มาถึง 14 คน

เมื่อก่อนมีการแซวกันว่าประชาธิปัตย์ส่ง “เสาไฟ” ลงภาคใต้ก็ได้เป็น ส.ส. แต่ปัจจุบันไม่ใช่! เพราะพลังประชารัฐ-ภูมิใจไทย-ประชาชาติ รู้ดีว่าสนามภาคใต้ “เจาะ” ง่ายกว่าภาคอื่น ดังนั้นก่อน ครม.สัญจร ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาฯ พลังประชารัฐ จึงคุมทัพหน้าบุก 3 จังหวัดภาคใต้เพื่อเจาะฐานเสียงที่นี่

พูดง่าย ๆ ว่าสนามภาคใต้เปิดกว้างให้พรรคการเมืองอื่นมาแข่งขัน โดยไม่ได้ผูกขาดชีวิตไว้กับ “เสาไฟ” อีกต่อไป!

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะคนใต้รักบ้านเกิดเมืองนอน ต้องการเห็นคุณภาพชีวิตดีขึ้น มีถนน ไฟฟ้า ประปาสาธารณูปโภคดี ๆ เหมือนภาคอื่น อยากให้ข้าว-ยางพารา-ปาล์มน้ำมัน-พืชผักผลไม้ราคาดีขึ้น การท่องเที่ยวกลับมาบูมอีกครั้ง

เวลานี้ประชาธิปัตย์ถูกเพื่อนบุกบ้านเพื่อยึดเป็นฐานที่มั่น โดยหลังจากนี้ “ประยุทธ์-ประวิตร-ธรรมนัส” จะลงไปลุยภาคใต้กันเป็นเทือก!!.

————–
พยัคฆ์น้อย