คนรุ่นใหม่เกิดไม่ทัน หรือโตไม่ทัน “องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์” หรือ “ร.ส.พ.” รัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งทำธุรกิจบริการขนส่งสินค้าให้กับหน่วยงานราชการและประชาชนทั่วไป ทั่วประเทศ ด้วยรถบรรทุกสีเขียว ๆ ซึ่งใครก็รู้ว่า ร.ส.พ.อยู่ใต้ร่มเงาของทหารบก โดยมี “นายพล” หลายคนเป็นผู้บริหาร และมานั่งเป็นบอร์ดก็มี!

แต่ไม่รู้บริหารกันอีท่าไหน? จน ร...เจ๊ง! ต้องปิดกิจการไปเมื่อเดือน ก.. 49 หลังจากเปิดดำเนินกิจการมา 53 ปี ในขณะที่บริษัทบริการรับส่งสินค้าของเอกชนหลายแห่งในภาคเหนือ ภาคอีสาน ต่างร่ำรวยกันพุงปลิ้น!

หลายปีมาแล้ว “พยัคฆ์น้อย” ไปนั่งกินข้าวในร้านที่อยู่ใกล้สี่แยกสัญญาณไฟในตัวจังหวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็น “เมืองทหาร” มีค่ายทหารมากมายไปหมด และช่วงบ่าย 3-4 โมงเย็น ตรงสี่แยกสัญญาณไฟกลางเมือง สภาพการจราจรติดขัดไปด้วยรถยนต์ทหาร ทั้งรถบัส รถจีเอ็มซี มารับบุตร-หลานทหารกลับจากโรงเรียน จอดติดไฟแดงกันยาวเหยียดเกือบ 20 คัน

โดยมีชื่อหน่วยงานทหารติดอยู่ข้างรถ มีทั้งระดับมณฑลทหารบก (มทบ.)–กองพลทหารราบฯกองพันกองร้อย เมื่อมองขึ้นไปบนรถแต่ละคัน มีนักเรียนนั่งกันอยู่ไม่กี่คน ลองนึกภาพดูว่าวิ่งรับส่งนักเรียนกันทุกเช้าเย็น ถลุงน้ำมันกันวันละเท่าไหร่? แล้วหน่วยงานทหารทั่วประเทศหมดเงินค่าน้ำมันไปกับภารกิจรับส่งบุตรหลานไปโรงเรียน ปีละเท่าไหร่?

ที่พล่ามมาข้างต้น ทั้งเรื่อง ร.ส.พ. และรถยนต์ทหารรับ-ส่งนักเรียน เพื่อเชื่อมโยงให้เห็นภาพกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งให้รถไฟ-บขส. และรถบรรทุกของทหาร เตรียมพร้อมรับมือกรณีรถบรรทุกขนส่งสินค้าของเอกชนประท้วงหยุดวิ่ง เนื่องจากปัญหาราคาน้ำมันดีเซลแพงลิตรละ 30 บาท

เมื่อวานซืนเห็นทหารกองพลที่ 1 นำรถบรรทุกออกมาเช็กความพร้อม 34 คัน เพื่อรอรับภารกิจใหม่ล่าสุด! นอกเหนือไปจากการปลูกผักชีในค่าย คือการให้บริการแบบ “อาร์มี่ ทรานสปอร์ต” แต่หลังจาก “ปิดจ๊อบ” แล้วไม่ทราบว่าจะเบิกค่าน้ำมัน ค่าซ่อมรถ ค่าเบี้ยเลี้ยงพลขับและพลทหารท้ายรถกันกระจุยกระจายหรือเปล่า? (ฮา)

พล.1 รอ.'เด้งรับนายกฯจัดรถทหาร34คัน แก้ปัญหารถบรรทุกประท้วงนํ้ามันขึ้นพร้อมขู่หยุดวิ่ง  | เดลินิวส์

เรื่องของเรื่องมาจากนายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และคณะรถบรรทุกบุกมาที่กระทรวงพลังงาน รวมทั้งเข้ายื่นหนังสือถึง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายกิตติกร โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนฯ เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาราคาน้ำมันแพง

นายอภิชาติระบุว่าขอเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานตรึงราคาขายน้ำมันดีเซล 25บาท/ลิตร เป็นเวลา 1 ปี ในช่วงโควิด-19 และวิกฤติเศรษฐกิจ จนกว่าสถานการณ์คลี่คลาย รวมทั้งลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลซึ่งสูงถึง 5.99 บาท ซึ่งหลาย ๆ รัฐบาลที่ผ่านมา เวลาเจอวิกฤติน้ำมันดิบ 142 ดอลลาร์/บาร์เรล เขาก็ตรึงอยู่ที่ 30 บาท แถมลดภาษีสรรพสามิตเป็น 0 บาท

ยกตัวอย่างสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลดลงมาเหลือ 2 สตางค์ ชาวรถบรรทุกจึงหวังพึ่งรัฐสภาเป็นที่พึ่งสุดท้าย และข้อเรียกร้องดังกล่าวรัฐบาลสามารถทำได้ แต่หากรัฐบาลยังชะลอไม่เปิดโต๊ะเจรจา ก็ขอขีดเส้นตายนับตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึง 1 ธ.ค. 64 ถ้ายังไม่ได้ยินคำตอบจากรัฐบาล ชาวรถบรรทุกจะยกระดับด้วยการเติมน้ำมันแค่ 20-30 ลิตร น้ำมันหมดตรงไหนก็จอดตรงนั้น แล้วจะต้องนำน้ำมันราคา 25 บาท มาเติมให้พวกเรา

นี่คือที่มาที่ไปของ “อาร์มี่ ทรานสปอร์ต” เอารถยนต์ทหารมาวิ่งขนส่งสินค้า ถ้ารถบรรทุกเอกชนหยุดวิ่งขึ้นมา งานนี้นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงาน จะแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันอย่างไร? จะอ้างแต่เรื่องกลไกการค้าเสรีไม่ได้!

ไหนจะเรื่องเงินกองทุนน้ำมันกว่า 2 หมื่นล้านบาท ที่รัฐบาล คสช.มุบมิบโยกไปเป็นรายได้ของรัฐ นายสุพัฒนพงษ์ต้องรีบทวงเงินก้อนนี้กลับคืนมา และดูข้อกฎหมายว่าเป็นความผิดด้วยหรือเปล่า ถ้าผิดก็ต้องเล่นงาน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เช่นนั้น รมว.พลังงาน ควรพิจารณาตัวเอง!!.

—————————
พยัคฆ์น้อย