คิชิดะซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งผู้นำรัฐบาลคนที่ 100 ของประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดอันดับ 3 ของโลก เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา บอกว่า เงินอัดฉีดจำนวน 56 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในประเทศ เมื่อปีที่แล้ว เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนชาวญี่ปุ่นรู้สึก “ปลอดภัยและมีความหวัง”
แผนใช้จ่ายตามงบที่ประกาศมีหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการแจกเงินสดและคูปองแก่ครอบครัว ซึ่งมีลูกหลานอายุไม่เกิน 18 ปี การช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจรายย่อย ขึ้นเงินเดือนค่าตอบแทนแก่พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์
แผนฟื้นฟูถูกประกาศหลังจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวเกินคาดมาก ในช่วงไตรมาสสองของปีนี้ ขณะที่รัฐบาลพยายามหาแนวทางควบคุมการระบาดรุนแรงของโควิด-19 ด้วยมาตรการเข้มข้นในเมืองหลวง คือกรุงโตเกียว และอีกหลายจังหวัด
อดีตนายกฯ 2 คน โยชิฮิเดะ ซึงะ และชินโซ อาเบะ อัดฉีดงบประมาณ 40 ล้านล้านเยน และ 38 ล้านล้านเยน เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศในปี 2563 แต่นักวิเคราะห์บางส่วนตั้งข้อสงสัย ต่อประสิทธิภาพของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งสองรายการนี้
คิชิดะกล่าวในระหว่างการประชุมด้านนโยบายกับคณะรัฐมนตรี และพรรคร่วมรัฐบาลผสมว่า ในที่สุดรัฐบาลก็สามารถสร้างมาตรการทางเศรษฐกิจ ที่จะนำพาประเทศเข้าสู่สังคมใหม่ (new society) หลังการระบาดของโควิด-19
แต่คาดว่างบรายจ่ายตามแผนจำนวน 56 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 10% ของจีดีพี จะบานปลาย สูงขึ้นไปถึง 79 ล้านล้านเยน จากองค์ประกอบอื่น ๆ รวมถึงเงินกู้จากภาคเอกชน
คิชิดะซึ่งนำพาพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) คว้าชัยชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปลายเดือนที่แล้ว แบบเหนือความคาดหมายเล็กน้อย ได้ประกาศระหว่างการหาเสียง จะผุดโครงการใช้จ่ายเงินมหาศาล หลังจากซึงะลาออกจากตำแหน่ง ส่วนหนึ่งจากความล้มเหลวในการตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19
ข้อมูลของทางการเผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัว 0.8% ในช่วงระหว่างเดือนก.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา เกินคาดการณ์ของตลาดมาก สาเหตุหลักเกิดจากการระบาดรุนแรงของโควิด-19 ในประเทศ ส่งผลกระทบต่อการใช้จ่าย และปัญหาห่วงโซ่อุปทานสะดุด เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนตัวของเศรษฐกิจ
แต่อัตราการติดเชื้อโควิดรายวันในญี่ปุ่นลดฮวบลงในช่วง 1-2 เดือนล่าสุด และประชากรกว่า 2 ใน 3ของทั้งหมด กว่า 125.9 ล้านคนฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และข้อจำกัดส่วนใหญ่ถูกยกเลิกทั่วประเทศ
นักวิเคราะห์กล่าวว่า แผนฟื้นฟูของคิชิดะจะสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้ “ในระดับหนึ่ง” ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนตั้งข้อสงสัยประสิทธิภาพของมาตรการแจกเงิน
ส่วนธนาคารยูบีเอสแห่งสวิตเซอร์แลนด์ กล่าวเตือนว่า มีความเป็นไปได้สูงที่แผนของคิชิดะจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแนวโน้มภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศได้
จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ตอนนี้ญี่ปุ่นมีหนี้สาธารณะพอกพูนมหาศาล จำนวนมากกว่า 250% ของจีดีพีประเทศ
โยโกะ ทาเคดะ หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยมิตซูบิชิ กล่าวเตือนว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของคิชิดะ อาจส่งผลกระทบในทางลบต่อสถานะการเงินการคลังของญี่ปุ่น เนื่องจากคิชิดะพยายามจะแสดงความเป็นผู้นำ ด้วยการประกาศแผนฟื้นฟูจำนวนเงินมากเป็นประวัติการณ์แบบฉับพลันแผนนี้ อาจจะไม่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย แต่จะทำให้เงินออมของประเทศชนเพิ่มพูนขึ้น
ทาเคดะเชื่อว่า เงินแจกที่ชาวญี่ปุ่นได้รับจากรัฐบาลตามแผนส่วนใหญ่ จะกลายเป็นเงินเก็บ แทนที่จะถูกหว่านกลับเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศ.
เลนซ์ซูม
เครดิตภาพ : AP