เรียกได้ว่ารอกันมาเนิ่นนานสำหรับ Battlefield 2042 ที่แฟนๆ ต่างกล่าวว่าภาคนี้จะเป็นการกลับมาของซีรีส์ Battlefield หลังจากที่พังพินาศ (ด้วยตัวเอง) มาใน Battlefield V แต่กลายเป็นว่าเกมที่ได้รับความคาดหวังไว้ว่าจะกลายเป็น ที่สุดแห่งปีของเกม FPS (หรืออาจจะเป็น Game Of The Year เลยก็ได้) ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ไปดูกันครับ

ชม Trailer ของ Battlefield 2042 ได้ที่นี่

ความพังพินาศของ Battlefield V

เรียกได้ว่าเป็นภาคที่ทีมงานดูรีบร้อนปล่อยเกมออกมามากเหมือนกับ EA “ร้อนตังค์” หลายคนที่ได้เล่นวันแรกหรือช่วงแรกๆ ก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนโดนหลอกให้มา ซื้อเกมที่ยังทำไม่เสร็จ Bug ก็เยอะ Balance ก็แย่ ฉาก Cut Scene ก็เอาใน Trailer มาใส่ พูดถึง Trailer มันก็โคตรจะ Bullshit เนื้อเรื่องที่ EA บอกว่า “นี่คือเนื้อเรื่องที่ดีที่สุดของ Battlefield” ก็โดน บิดประวัติศาสตร์ซะเละเทะ แถมยัง ยัดเยียดความหลากหลายมาแบบไม่สนใจใคร ขนาดแฟนๆ ออกมาวิจารณ์ก็ยังไป “ปากแซ่บ” ใส่ บอกว่าเป็น คนไม่มีการศึกษาบ้างแหละ เป็นพวกเหยียดเพศบางแหละ นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ ที่แก้ไม่เคยจะหาย ก็คือเหล่า Hacker ที่เยอะจนไม่หวาดไม่ไหว ไม่แปลกใจที่ยอดขายใน Steam จะตกต่ำขนาดขนาดนั้น แต่หลังๆ มาเหมือนเลิกฝืนกลับมาทำอะไรที่เคยทำ แม้จะยังมีเนื้อเรื่องที่ยังทำไม่เสร็จบ้าง แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรียกศรัทธาจากแฟนๆ กลับมาได้บ้าง

ส่งไม้ต่อให้ 2042 

คราวนี้มาพูดถึงฝั่งผู้ท้าชิงกันบ้าง Battlefield 2042 เปิดตัวได้อย่างดีเพราะกระแสตอบรับของแฟนดีมากๆ จนทำให้ Battlefield 4 กลับมามีคนเล่นเยอะขึ้น Battlefield 2042 เปิดตัวด้วยธีมสงครามที่ไม่เป็นอนาคตมาก ระหว่างการเตรียมวางจำหน่าย ทีมงานได้เผยตัวโหมดใหม่ที่เรียกว่า Portal ซึ่งเป็นการนำแผนที่ เกมการเล่น อาวุธจากเกมภาคเก่าๆ เช่น Bad Company 2, 1942 และ 3 มา Remake ใหม่ โหมด Hazard ซึ่งเป็นโหมดเกมเน้น Squad ที่เหมือนได้รับแรงบันดาลใจจาก Escape from Tarkov เกม FPS สมจริงที่กำลังมาแรงจัดในช่วงนั้น จนเหลายคนรวมถึงผมต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “Battlefield กลับมาแล้ว” และกด Pre-Order เกมแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย 

แต่พอมามีการมาทดสอบ Beta สื่อหลายเจ้าผู้เล่นหลายคนก็ได้มีโอกาสเข้าไปทดสอบซึ่งก็เริ่มมีเสียงบ่นต่างๆ เข้ามา จน EA และ DICE ต้องออกมาแจงเล่นว่าตัวทดสอบ Beta เป็น แพทช์ที่เก่าแล้ว ตัวเกมจริงจะไม่เป็นแบบนี้ (เอาตามตรงผมยังไม่เห็นความผิดปกติอะไรนักก็มันเป็นเเค่ BETA อะ) สัญญาณความพังนั้นเริ่มจะมาเอาชัดจริงๆก็ตอนหลังจากทดสอบ Beta เสร็จ ข่าวเลื่อนการเปิดตัวจากเดือนตุลาคมเป็น 19 พฤศจิกายน ผมก็เริ่มเอะใจแล้วว่าจะเข้า “อีหรอบเดิมอีกแล้วหรอ” แล้วมันก็เป็นจริงๆ 

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน Battlefield 2042 ก็ออกวางจำหน่ายและเปิดให้ผู้เล่นที่ได้เข้าเล่นในวันนั้นเป็นวันแรก ส่วนตัวได้สิทธิในการเล่นก่อน (ไม่ใช่เพราะเป็นสื่อแต่อย่างที่บอก Pre-Order มา) แต่ก็เลือกมาเล่นวันนี้เพราะรู้ดีว่า Battlefield มักมีปัญหาในช่วงวันวางจำหน่ายเป็นประจำ แต่ก็ยังไม่วายจะเจอ “สิ่งเลวร้าย” ทั้ง บัคง่าวๆ ทั้ง Scope ที่ซูม 8X แล้วกลายเป็น 1X (เอาไว้ทดสอบความแม่นหรือไง) รถถังที่ Spawn บนตึก (นอกจากจะบัคก็ยังเจอจนน่ารำคาญอีก) รถ HoverCraft (รถสะเทินน้ำสะเทินบก) ก็แข็งแกร่งเกินไป

นอกจากนี้  Battlefield 2042 ก็มีหลากหลายประเด็น ที่คนไม่ชอบตั้งแต่การเปลี่ยนทหารธรรมดา ๆ กลายเป็น ทหาร Specialists (คล้ายๆ Star War Battlefront) ที่โคตรจะไม่บาลานซ์, UI ย่ำแย่ สร้างความสับสนให้ผู้เล่นหลายคน, Leaderboard แบบใหม่ที่ไม่มีการแสดงตัวเลข Kill/Death ของผู้เล่นทุกคนในห้องอีกต่อไป, Gunplay และ Movement ก็ดูไม่สมจริงเหมือนเกมภาคเก่าๆ ปัญหาเรื่อง Perfromance ก็ห่วยแตกจนเขาแซวกันว่าเป็น BF FPS20-42 (โชคดีที่เครื่องแรงเลยไม่เจอ) ปืน SMG ก็ OP เกิน AR ไม่ต้องหามาใช้ล่ะ และปัญหาสุดท้ายคือ Hacker ที่โคตรจะเยอะแถมมันมีไลฟ์สดโชว์ด้วย และยังมีปัญหาอื่นๆ มากมายที่ยังกล่าวไม่หมดแต่มันอธิบายด้วยบทวิจารณ์จากผู้เล่น “เป็นแง่ลบ” แล้ว คือจะให้อธิบายง่ายๆ Battlefield 2042 เปิดตัวมาได้แย่ยิ่งกว่า Battlefield V เสียอีก

เรื่องแย่ๆ ไปเยอะแล้วมาพูดถึงเรื่องดีๆ กันบ้างดีกว่า

ก็ใช่ว่า Battlefield 2042 จะมันจะมีแต่ของไม่ดีของดีมันก็มีเหมือนกัน (นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ) คือ Gameplay สำหรับผมมันก็ยังสนุกใช้ได้ ด้วยความที่จำนวนคนมันเยอะ มันก็ “นัวๆ ดี” เหมือนกัน ส่วนโหมดหลักๆที่แบกให้มันดีได้ก็คือ Portal Mode ได้รับความนิยมมากกว่าเกมหลัก จนหลายคนบอกว่า Portal คือโหมด “เดอะแบก” ของเกม Battlefield 2042 อย่างแท้จริง

ณ ตอนนี้ ทีมงาน DICE เผยว่าอัพเดทรอบหน้า ทีมงานจะทำการแก้ไขระบบชุบชีวิตเพื่อน, ลดความสามารถรถ Hovercraft และปรับปรุง Quality of Life เพื่อการเล่นเกมสนุกสนานกับสะดวกสบายมากขึ้น แต่ก็มีข่าวว่า ทางหัวหน้านักออกแบบเกมก็ลาออกไปแล้ว ก็หวังว่า EA และ DICE จะไม่ทิ้งประชาชนชาว Battlefield ก็แล้วกัน

จากภาคที่กอบกู้อาจกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับชาว Battlefield เพราะเขาคงไม่อยากเผชิญวิบากรรมแบบนี้อีกแล้ว

——————————————–
GAMESTALK BY INSIDE THE GAME
คอลลัมน์โดย Wacther
ติดตามรีวิวเกมส์ และ อื่นๆที่น่าสนใจได้ที่ : INSIDE THE GAME