วันเวลา ไม่เคยคอยใคร ปีเก่ากำลังจะจากไป ปีใหม่กำลังจะมาเยือนอีกครั้ง ทุก ๆ วันคืออนาคต ดังนั้นต้องทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตที่สดใส

            เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา คือวันมหามงคลของปวงชนชาวไทย เป็น “วันพ่อแห่งชาติ” วันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพบระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ในด้านกีฬา พระองค์ยังทรงสนับสนุน ส่งเสริมวงการกีฬาของไทย มาโดยสตลอด ชาวไทยน้อมสำนึกในพระมหกรุณาธิคุณตราบนิรันดร์

ย้อนอดีต การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2529 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดวันที่ 16 ธันวาคมของทุกปีเป็น”วันกีฬาแห่งชาติ” เนื่องจากเมือปี พ.ศ. 2510 ประเทศไทย ได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 หรือกีฬาซีเกมส์ในปัจจุบัน ระหว่างวันที่ 9-16ธันวาคม 2510 ที่กรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหรือ “ในหลวง”ของปวงชนชาวไทยได้ทรงเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนั้นด้วย

ด้วยพระปรีชาสามารถที่พระองค์ทรงเรือใบเข้ามาเหนือนักกีฬาคนอื่น เป็นภาพที่คนไทยต่างปลื้มปีติ ภาพที่ “ในหลวง” ทรงประทับยืนบนแท่นรับเหรียญรางวัล ชนะเลิศเหรียญทองร่วมกับนักกีฬาที่ชนะอันดับที่2 และที่ 3 ในพีธีปิดการแข่งขันที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 

และวันที่ 5 ธ.ค.2564 ที่ผ่านมา ชาวไทยก็ได้มีความสุขกับผลงานของนักกีฬาไทย ในภาวะของโลกยุคนิวนอร์มัล ที่ต้องต่อสู้กับไวรัสร้าย “โควิด-19”

เริ่มจากวงการกอล์ฟ“โปรจีน” อาฒยา ฐิติกุล สาวน้อยมหัศจรรย์วัย 18 ปีของไทย และวงการกอล์ฟโลกตอนนี้ ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ต่อเนื่อง ปิดฉากกอล์ฟคิว-ซีรีส์ ( Q-Series) ศึกชิงตั๋วแอลพีจีเอ ทัวร์ สนามแรก ที่รัฐอลาบามา สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ทำผลงานเป็นอันดับ 4 ร่วมกับสเตฟานี คีเรียคู โปรสาวชาวออสเตรเลียน ที่สกอร์รวม 13 อันเดอร์พาร์เท่ากัน 

ทำให้ “โปรจีน” ผ่านเข้าไปเล่นคิว-ซีรีส์ สัปดาห์ที่สอง ที่ไฮแลนด์ โอคส์ กอล์ฟ คลับ ระหว่างวันที่ 9-12 ธันวาคมนี้ ซึ่งคัดนักกอล์ฟที่ผลงานดีที่สุด70 อันดับแรกหรือเทียบเท่าเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง โดยยังคงสกอร์ไว้ และนักกอล์ฟที่ผลงานดีที่สุด 45 อันดับแรกหรือเทียบเท่าเมื่อจบสัปดาห์ที่สอง จะได้สิทธิแข่งขันแอลพีจีเอ ทัวร์  ฤดูกาลหน้าต่อไปซึ่งยังมี”โปรปริญญ์” ปวริศา ยกทวน เข้าไปเล่นในสัปดาห์ที่สอง ด้วยผลงาน 1 โอเวอร์พาร์ ในอันดับ 62 ร่วม ส่วน “โปรพริม” พริมา ธรรมรักษ์ หวดเกิน 6 โอเวอร์พาร์ ไม่ผ่านตัดตัว

เชื่อเหลือเกินว่า ด้วยฝีไม้ฝีมือตอนนี้ “โปรจีน” จะไม่พลาดตั๋วแอลพีจีเอทัวร์ แน่นอน ติดตามลุ้น ติดตามเชียร์กันต่อไป

ขณะที่วงการแบดมินตันก็กระหึ่มโลกกับผลงานของ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย ที่โชว์พลังความแข็งแกร่งย้ำชัยคู่ปรับจากญี่ปุ่น เถลิงแชมป์รายการที่ 4 ติดต่อกัน ในการแข่งขันแบดมินตันรายการ “เวิลด์ทัวร์ ไฟนอลส์ 2021”เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซียหลังรอบชิงชนะเลิศ คู่ผสม “บาส-ปอป้อ” มือ 2 โลก และแชมป์เก่ารายการนี้ พิชิต ยูตะ วาตานาเบ้ ที่จับคู่กับ อริสะ ฮิกาชิโนะ มือ 4โลกจากญี่ปุ่น 

2-0 เกม 21-19, 21-11 คว้าแชมป์รายการที่ 7 ในปีนี้จาก 11แชมป์ของทั้งคู่นับตั้งแต่จับคู่กันมาเมื่อปี 2558 และเป็นแชมป์ระดับเวิลด์ทัวร์รายการที่ 4 ติดต่อกันต่อจาก ฮายโล โอเพ่น, อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส, อินโดนีเซีย โอเพ่น

นอกจากนี้ยังถือเป็นการทำ “แฮตทริก”คว้าแชมป์ 3 รายการ 3 สัปดาห์ติดต่อกันเป็นครั้งที่2 หลังจากทำได้ครั้งแรกเมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่ประเทศไทย ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการแบดมินตันไทย โดยทั้ง 2 ครั้งเป็นการแข่งขันแบบระบบปิดในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19

สำหรับรายการต่อไป “บาส-ปอป้อ” จะร่วมศึกชิงแชมป์โลก “เวิลด์แชมเปี้ยนชิพส์ 2021” ซึ่งเป็นทัวร์ส่งท้ายปี ระหว่างวันที่ 12-19 ธันวาคม ที่ประเทศสเปน ร่วมกับนักแบดมินตันไทยอีกหลายคน ให้ชาวไทยได้ติดตามเชียร์กันอีก

ส่วนในวงการฟุตบอลไทยเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2564 “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ประเดิมสนาม ชนะ  ติมอร์เลสเต 2-0ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” กลุ่ม A  นักแรก ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ และจะลงสนามนัดต่อไปใน วันที่ 11 ธ.ค. พบ เมียนมา

2 ประตู อาจดูน้อยไปในความรู้สึกของแฟนบอลชาวไทย และหลายชาติในอาเซียน ที่ยิ้มเยาะไทย กับการเอาชนะติมอร์เลสเต แค่นี้ แต่มันก็เป็นก้าวแรกที่เริ่มต้นด้วยชัยชนะ ที่ต้องเชียร์ให้กำลังใจกัน เพื่อก้าวต่อไปสู้ความหวังที่ตั้งเป้าไว้ ไม่มีอะไรที่จะตอบคำถามได้ดีที่สุด เท่ากับผลงานในสนาม เชื่อว่านักฟุตบอลทีมชาติไทยทุกคน ต่างก็ตระหนักดี

กีฬา ย่อมมีทั้งผิดหวัง และสมหวัง เป็นเสน่ห์ของวงการกีฬา และกำลังใจก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุด

อดีตมีไว้เป็นบทเรียน เพื่อปรับปรุงพัฒนาสู่อนาคตที่สดใส ใน “ในวันพ่อ” ที่เวียนมาถึง ก็ได้น้อมลำรึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และมีความสุขร่วมกันไปกับผลงานที่ยอดเยี่ยมของเหล่านักกีฬาไทย อีกครั้ง

ส่วนคนที่พ่ายแพ้ ก็ยังต้องก้าวเดินต่อไป เพราะความพ่ายแพ้ ก็ถือเป็นกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะได้เช่นกัน

ส่งเสริม และให้กำลังใจกัน ทั้งในวันที่ผิดหวัง และสมหวัง ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ

“คม ท่าดี