คำวินิจฉัยของ “ศาล รธน.” ทำให้ 5 แกนนำอดีต กปปส. ต้องพ้นสมาชิกภาพ ส.ส.ทั้งหมดในคดีขัดขวางการเลือกตั้งตามที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกเมื่อ 24 ก.พ. 64 มี 1.นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรค ปชป. 2.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. 3.นายอิสสระ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป. 4.นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา ปชป. 5.นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. โดยเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี นายชุมพล นายอิสสระ นายณัฏฐพล ทำให้ต้องเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 ชุมพร และเขต 6 สงขลา ส่วนปาร์ตี้ลิสต์ใช้เลื่อนคนถัดไปมาแทน

คำวินิจฉัยตอนหนึ่งเหมือนวางบรรทัดฐานว่า ส.ส.ต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างซื่อสัตย์สุจริตปราศจากเหตุมัวหมองไม่ให้เสื่อมเสียเกียรติและศักดิ์ศรีแห่งสภา ใครถูกเพิกถอนสิทธิ…ย่อมไม่อาจอยู่ในฐานะไว้วางใจในความสุจริตได้ และไม่สมควรให้เข้ามามีอำนาจทางการเมืองอื่นอีกด้วย…ช่างสะเทือนใจนัก

ไม่แปลกที่ นายถาวร เสนเนียม ต้องน้ำตาคลอเบ้า อกใจแทบระเบิด สรุปวรรคทองได้ว่า ยอมรับโดยหลักการ แต่เหตุผลไม่น่าเชื่อถือ อ้างไทยปกครองโดยมี รธน. เป็น ก.ม.สูงสุด แต่ท่านเอา “วิธีพิจารณาความแพ่ง” มาอยู่เหนือ รธน. ไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน การอ้างว่า ขังตนโดยชอบ (ติดคุก 2 คืนเพราะประกันตัวไม่ทัน ศาลถือว่าคดีถึงที่สุดแล้ว) ตนก็ต้องรับโทษตามที่ท่านพิจารณา แต่ “ผมต้องน้ำตาตกใน ด้วยอกระทม ด้วยความเจ็บปวดที่ไม่มีคำบรรยายใด ๆ ทั้งสิ้น ผมสิ้นแล้ว สิ้นเกียรติยศที่จะเป็นสมาชิกพรรคด้วยคำวินิจฉัยของศาล รธน.” คำวินิจฉัยของศาล รธน. ถือเป็นที่สุดและผูกพันทุกองค์กร ใครก็รู้กัน คำพิพากษาออกมายังไงก็คืออย่างงั้น

ก็นะ หากย้อนกลับไป นับแต่ “ระบอบ 3 ป. แห่ง คสช.” ปล้นอำนาจประชาชนไปโดยการปูทางของ กปปส. แล้วร่าง รธน.อัปยศมาสืบทอดอำนาจ ก็มีคนเจ็บปวดจากองค์กรอิสระอย่างแสนสาหัส มันกลายเป็นเครื่องมือทำลายล้างและกำจัดศัตรูการเมืองรวมทั้งคนเห็นต่างที่สุดเลวร้าย แทบไม่ต่างจากเยอรมนีสมัย “ฮิตเลอร์” หลายคนต้องตายไปโดยหาศพไม่เจอ หลายคนติดคุกซ้ำซาก บางคนไม่มีแม้แผ่นดินอยู่ มีการใช้อำนาจอำมหิตตามอำเภอใจ มียุบพรรคเป็นว่าเล่น ทำลายอนาคตนักการเมืองคนแล้วคนเล่า ไม่แปลกที่คนสมน้ำหน้านายถาวรเยอะแยะ

แต่เราไพล่คิดไปถึงท่อนเพลงหนึ่ง…บัดนี้เธอโดนเข้าบ้าง..เสิร์ชใน “กูเกิล” ถึงรู้ว่าชื่อเพลง “กฎแห่งกรรม” แต่งโดย จงรักษ์ จันทร์คณา บรมครูที่ทิ้งผลงานไว้ถึง 3,000 เพลง มี พิทยา บุณยรัตพันธุ์ นักร้องหญิงสุดเปรี้ยวแห่งยุคสมัยร้องไว้ ทั้ง 2 ท่านล่วงลับไปแล้ว แต่เพลงนี้กลับ “อมตะ” เพราะเข้าถึงสัจธรรมและแสนกินใจ

น่าเห็นใจ น่าเห็นใจ น่าเห็นใจที่เธอต้องเจ็บช้ำ โดนลมคำรักลวงจนระกำ โดนถูกเขาทำ จนช้ำ ใครนะทำได้ หากคิดไปถึงครั้งหนึ่ง รักครั้งหนึ่งซึ่งฉันเคยถูกทำลาย เธอเป็นคนทำให้ฉันช้ำใจ ฉันก็ช้ำใจไม่ผิดที่เธอช้ำอยู่ เหตุการณ์จะผ่านไป ฉันยังจำได้ ความอัปยศอดสู ฉันเคยเรียกเธอ ให้เธอมาดู ให้มาดูรอยช้ำเธอกลับหนำใจ บัดนี้เธอโดนเข้าบ้าง รู้หรือยังว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน ยามเรารักเขา เขากลับทำลาย เขากลับทำลาย มันเจ็บใช่ไหมคนดี”

นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของคนช้ำรัก แต่คือการเป็นผู้ถูกกระทำ จึงขอมอบเพลงนี้ให้ ถาวร เสนเนียม แต่จะยังไงก็ตาม นายก็เป็น ส.ส.จากการเลือกตั้งของประชาชน จะดีจะชั่วย่อมมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีในตัวเอง ตอนนี้คงรู้นะ ทำไมผู้คนถึงอยากยุบองค์กรอิสระกันนัก เพราะในโลกนี้

ไม่มีอะไรจะโหดร้ายได้เท่ากับการใช้กฎหมายที่ไม่ชอบธรรมมาเข่นฆ่าผู้คนให้ตายทั้งเป็นอีกแล้ว…บัดนี้เธอโดนเข้าบ้าง คงรู้แล้วสินะ มันเจ็บปวดแค่ไหนคนดี ?!?.

——————-
ดาวประกายพรึก