“…ทำไมถึงว่าโควิดมันกระจอก ก็รอวันนี้แหละครับ รอให้ท่านได้พิสูจน์ว่ามันกระจอก เพราะว่าเราเตรียมตัวเอง โดยที่ทำให้มันเป็นโรคที่เรารับมือกับมันได้!!”

เสียงคำพูดในคลิป บางช่วงบางตอนของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ยืนพูดบนเวทีขณะไปเป็นประธานเปิดงาน มหกรรมขับเคลื่อนนโยบายเปิดเมืองเปิดประเทศ ที่ลานวัฒนธรรมเชียงคาน ถนนคนเดิน อ.เชียงคาน จ.เลย เมื่อค่ำวันที่ 16 ธ.ค. โดยมีทั้ง นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย ยืนประกบเคียงข้างบนเวที

คลิปเดียวกลายเป็นกระแสดราม่า วิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทำให้นายอนุทิน ต้องรีบออกมาสยบดราม่า อธิบายถึงประเด็นดังกล่าวอีกครั้งทำนองว่า “กระจอก” ที่หมายถึงคือ ไวรัสมันทำอะไรคนไทยไม่ได้ หากทุกคนเข้าใจและเรียนรู้ในการดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี รู้ว่าจะรับมือโควิดอย่างไร มันก็จะเป็นโรคกระจอก

ห้วงวันเวลาใกล้เคียงกัน ซีกโลกฝั่งยุโรป กำลังตื่นตัว สถานการณ์การแพร่ระบาดของ เชื้อกลายพันธุ์ โอมิครอน สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร (19 ธ.ค.) กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ ยืนยันผู้ป่วยโควิด-19 ในประเทศ เพิ่มขึ้น 90,418 คน และเสียชีวิตอีก 125 ราย นับเป็นวันที่สองติดต่อกันแล้ว

ปัจจุบันอังกฤษมีผู้ป่วยสะสม 11,279,428 คน และเสียชีวิตสะสม 147,173 ราย ส่วนการแพร่ระบาดของเชื้อโอมิครอน ยืนยันผู้ติดเชื้อสะสม 24,968 คน เพิ่มขึ้นกว่า 10,059 คน ภายในวันเดียว โดยผู้ป่วยหนักจากเชื้อตัวนี้เพิ่มขึ้นจาก 65 คน เป็น 85 คน ทำให้อังกฤษต้องทำรายงานประเมินความเสี่ยงของโอมิครอน (Technical briefing ฉบับที่ 32) 1. โอมิครอนจะทำให้มีโอกาสแพร่เชื้อกันในครัวเรือนมากกว่าสายพันธุ์เดลตาถึง 2.9 เท่า 2.การประเมินสถานการณ์ปัจจุบัน พบว่าลักษณะการติดเชื้อโอมิครอนในอังกฤษนั้น มีถึงร้อยละ 47.8 ที่ติดจากผู้ติดเชื้อที่อยู่นอกครัวเรือน

การประเมินความเสี่ยงของโอมิครอน เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าลักษณะการติดเชื้อแพร่เชื้อนั้นแตกต่างจากเชื้อเดลตาเดิม ทำให้ต้องเร่งพิจารณา เรื่องมาตรการควบคุมป้องกันโรคให้สอดคล้องกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เนื่องจากเชื้อดื้อต่อภูมิคุ้มกัน ทั้งจากวัคซีนและจากที่เคยติดเชื้อมาก่อน แม้ความรุนแรงจะเท่าเดลตาหรือน้อยกว่า แต่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เริ่มจะปะทุขึ้นรวดเร็ว

ตอนนี้ทำให้หลายประเทศทั่วโลกเริ่มวิตกกังวล มีทั้ง ปิดประเทศ หรือ เพิ่มมาตรการยกระดับมาตรการป้องกัน อย่างเข้มข้นอีกครั้ง มาร์ค รุตต์ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ตัดสินใจ ประกาศล็อกดาวน์ทั่วประเทศ 3 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค. 64 ยาวไปจนถึง 14 ม.ค. 65 พร้อมย้ำดัง ๆ ให้ชาวฮอลแลนด์พร้อมรับสถานการณ์ว่า เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิดระลอกที่ 5 ซึ่งมีเชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อระบบสาธารณสุข จนต้องระงับให้บริการรักษาพยาบาลหลายกรณี เพื่อเตรียมบุคลากรการแพทย์และเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง สำหรับดูแลผู้ป่วยโควิด

ฝั่งยุโรปแต่ละประเทศ จมูกไวรับรู้ถึง “มหันตภัยไวรัสมรณะ” ได้เป็นอย่างดี มันไม่ได้เพียงแค่เข่นฆ่าชีวิตมวลมนุษยชาติเท่านั้น ยังทำลายระบบเศรษฐกิจโลก ล้มพังพาบกระทบกันไปเป็นลูกโซ่ พลิกโฉมเปลี่ยนไปจนเกินจะบรรยาย ความเสียหายก็ประเมินค่าไม่ได้ จึงต้องรีบงัดมาตรการที่เคยใช้ขึ้นมารับมือสถานการณ์เอาไว้ก่อน

วกกลับมามองประเทศไทย เห็นภาพฝูงชนนับหมื่นเบียดเสียดแออัดเข้าไปดูคอนเสิร์ตศิลปินดัง ภายในงาน มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2564 พอภาพเป็นข่าวออกไป แม้จังหวัดจะรีบสั่งให้งดคอนเสิร์ตทันควัน แต่ก็ทำเอาบรรยากาศเก่า ๆ ‘คลัสเตอร์‘ ระบาดโควิดที่เคยทำปั่นป่วนทั้งประเทศมาแล้ว เริ่มกลับมาเขย่าโสตประสาทอีกครั้ง

แม้ตอนนี้หลายคนอาจจะมีวัคซีนอยู่เต็มแขน แต่อย่าลืมมองไปที่ตัวเลข พบผู้ติดเชื้อโอมิครอน ภายในประเทศไทยวันที่ 20 ธ.ค. จำนวน 63 ราย ถือว่ากำลังไต่ระดับ ที่สำคัญกำลังอยู่ในช่วงนับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จึงต้องรีบหามาตรการออกมาล้อมคอกเป็นการด่วน อย่าปล่อยให้บานปลาย จนกลายเป็นฝันร้าย ต้อนรับปีเสือ 2565!!.

————————-
เชิงผา