เชื่อเถอะ!! หนึ่งในคำอธิษฐาน คำขอพร ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลไหน ปีเก่า ปีใหม่ สงกรานต์ วันเกิด และอีกสารพัด หนีไม่พ้นขอให้ “ถูกหวยถูกลอตเตอรี่”

ด้วยเพราะคนไทยอยู่กับ “ความเชื่อ” มาตลอดทั้งชีวิต ที่สำคัญ!! สังคมไทยยังแยกไม่ออกจากการพนันขันต่อ ขณะที่ส่วนใหญ่ก็เป็นผู้มีรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำ มีรายได้ไม่เพียงพอกับการใช้ชีวิต

ที่พึ่งที่ดีที่สุด แถมยังเป็น “ความหวัง” คอยชโลมจิตชโลมใจ ก็คือการ “เล่นหวยเล่นลอตเตอรี่ จะหวยรัฐบาล หรือหวยใต้ดินก็ตามแต่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร? ที่ในแต่ละปีจะมีคนไทยนิยมเล่นหวยทั้งที่ถูกกฎหมายและไม่ถูกกฎหมายมากถึง ปีละกว่า 20 ล้านคน หรือประมาณ 25% ของจำนวนประชากรไทย

ขณะที่เงินหมุนเวียนจากการซื้อหวยใต้ดิน และลอตเตอรี่ ในแต่ละปีก็มีมากกว่าปีละ 2.5 แสนล้านบาททีเดียว ซึ่งหากนำเงินเหล่านี้ไปลงทุนในเมกะโปรเจกต์ อย่างรถไฟฟ้า รถไฟเชื่อมสนามบิน  ก็คงทำได้หลายสายแน่

ต่อให้ราคาล็อตเตอรี่แพงกว่าราคาที่กำหนดแค่ไหน?  แต่เมื่อต้องการแลกกับความหวัง…. แลกกับความเสี่ยง… หลายคน!! ก็ยอมควักเงินจ่าย แถมหลายคนควักจ่ายแบบไม่คิดด้วยซ้ำไป

ที่ผ่านมา… สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้หาทางแก้ไขในสารพัดวิธี เพื่อทำให้ราคาขายลอตเตอรี่นั้นอยู่ในราคาที่กำหนดที่ใบละ 80 บาท สุดท้าย!! ก็เหลว ทุกวันนี้หาซื้อแทบไมได้ เพราะส่วนใหญ่ราคากลางก็มักอยู่ที่ใบละ 100 บาท

แต่ถ้าเป็น “เลขเด็ด” เลขนิยมทั้งหลาย ก็ทะยานไปถึงใบละ 120 บาท 150 บาท โน่น แถมยังหาซื้อใบเดี่ยว ๆ ไม่มีต้องซื้อเป็นเลขชุด 2 ใบ 5 ใบ

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าปัญหา “หวยแพง” สาเหตุใหญ่มาจากการ “รวมชุด” ซึ่งบรรดาพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ได้เลือกใช้วิธี “ส่งต่อ” แทนที่จะนำลอตเตอรี่ที่จองซื้อได้ไปขายตามราคาที่กำหนด

ทั้งที่ราคาต้นทุนของลอตเตอรี่แต่ละใบที่สำนักงานสลากฯขายให้ อยู่ที่ใบละ 70.40 บาทเท่านั้น และบรรดารายย่อยที่ได้รับสลากฯ ก็มีมากถึง ได้ในราคาต้นทุน 70.40 บาทต่อใบ ซึ่งกลุ่มรายย่อยมีประมาณ 2 แสนรายและเป็นกลุ่มที่ได้รับโควตามากถึง 85%

ถ้าบอกว่า “หวยแพง” ก็อย่าไปซื้อ แต่ในเมื่อหลายคน “หวังรวย” จากหวย ก็อดไม่ได้ที่ต้องซื้อ ส่วนคนที่เบี้ยน้อยหอยน้อย ก็ยอมเสี่ยงไปเล่น “ใต้ดิน” แทน

ล่าสุด!! สำนักงานสลากฯ ได้คลอดแผนแก้ลอตเตอรี่แพง ใน 3 แนวทาง ประกอบด้วย โครงการสลาก 80 บาท ที่ตั้งเป้าหมายว่าอย่างน้อยทุกอำเภอต้องมีจุดขายลอตเตอรี่ใบละ 80 บาท เกิดขึ้น หรือ 1,000 จุดทั่วประเทศ

นอกจากนี้สำนักงานสลากฯยังยกเลิกโควตารายย่อยเดิมและจะเปิดรับสมัครใหม่จำนวน 2 แสนราย หรือเรียกง่ายๆว่าล้างไพ่ใหม่หมด ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมา ด้วยหวังให้ได้ “คนขายตัวจริง”

ขณะเดียวกันเพื่อให้ได้ลอตเตอรี่ใบละ 80 บาทอย่างแท้จริง สำนักงานสลากฯ ก็จะจัดทำ “แพลตฟอร์มกลาง” เพื่อให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย มาฝากขาย โดยสลากตัวจริง จะอยู่ที่สำนักงานสลากฯ คนซื้อจะได้เฉพาะตัวเลขเท่านั้น

อีกเงื่อนไข!! ที่น่าจับตาคือ แนวทางทั้งหมดนี้จะเป็นของผู้ที่ไม่ได้มีอาชีพประจำ หรือหมายความว่า บรรดาผู้ประกันตนตามมาตรา 33 บรรดา ข้าราชการ รัฐวิสากิจทั้งหลาย ไม่มีเอี่ยวโดยเด็ดขาด

ถามว่า? แนวทางที่ออกมา จะแก้ปัญหา “หวยแพง” ได้แน่หรือ คำตอบที่ชัดเจน คือ “ไม่ได้” แต่อย่างน้อยสำนักงานสลากฯต้องการให้เห็นว่า สลาก 80 บาท นั้นมีอยู่จริงและหาซื้อได้จริง

ก่อนหน้านี้เคยมีข้อเสนอหลายทางในการแก้ปัญหาหวยแพง โดยเฉพาะแนวทางที่ให้สำนักงานสลากฯ เป็นผู้ขายเอง โดยอาจจ้างคนมาขายโดยเฉพาะบรรดาพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ที่พร้อมเต็มที่ ขณะเดียวกันก็ต้องรับลอตเตอรี่ที่เหลืออยู่ไว้เอง โดยตั้ง “กองทุน” ขึ้นมาบริหารจัดการ

ขณะที่อีกหลายฝ่ายก็สนับสนุนให้สำนักงานสลากฯ ทำ “หวยบนดิน” ทำ “ลอตโต” ออกมาขายเหมือนเมืองนอกเมืองนา ที่ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร แถมใครถูก “แจ็กพอต” ที รวยมหาศาลไปด้วยซ้ำ!!

หันมาดูความเป็นจริง!! เพียงแค่จะรื้อโควตาใหม่ บรรดาผู้ค้าผู้ขาย ก็รวมตัวกันมาคัดค้านกันแน่นสำนักงานสลากฯไปแล้ว เพราะกลัวว่าไม่ได้โควตา

ที่สำคัญยิ่งกว่า… แม้ไม่มี 5 เสืออยู่ในระบบเหมือนเก่าก่อนแล้ว แต่ในความจริง ก็ยังคงมี “ผู้มีอำนาจ” เข้ามากุมโควต้าซะเอง การจะเข้าไปล้างบางแบบจริงจัง ก็ทำไม่ได้ เพราะ กลืนไม่เข้าคลายไม่ออก

เอาเป็นว่า!! คงต้องรอดูกันต่อไปว่า 3 แนวทางแก้ลอตเตอรี่แพงจะผ่อนหนักให้เป็นเบาได้แค่ไหน?

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”