“หวยแพง” เป็นปัญหาที่ทุกรัฐบาลได้หยิบยกมาแก้ไข แต่สุดท้ายก็เหลว!! ที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลไหนสามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จกันแบบจริงจังเสียที ขนาดถึงขั้นตัดสินใจ…ให้พิมพ์สลากออกมาขายกันมากถึงงวดละ 100 ล้านใบ ก็ยังแก้ไม่ได้ แถมยังทำให้ “หวย” แพงมากขึ้นไปอีกต่างหาก

ทุกวันนี้การหาซื้อหวยในราคาใบละ 80 บาท นั้นแทบหาไม่ได้ จะพบเจอก็ใบละ 100 บาทขึ้นไป หรือถ้าเป็นเลขเด็ดเลขดัง ก็ตกใบละ 120 บาท เรื่อยไปจนถึงใบละ 150 บาทก็มี แล้วแต่เลขเด็ดที่ปล่อยกันออกมาแต่ละงวด ส่วน…คำตอบของบรรดาคนขายหวย ก็อย่างที่คุ้นหู “รับมาแพง”

เป็นอันรู้กัน…ถ้าเป็นเลขที่ใช่ เลขที่โดน แถมยังแลกกับ “ความหวัง” ที่มีโอกาสน้อยนิด ก็ยอมควักเงินซื้อ!!

แต่ก็เป็นเรื่องแปลก!! ที่ว่า คนซื้อหวยแพง อย่างบรรดาเซียนหวยทั้งหลาย ไหง…ไม่เคยเดินขบวน ไม่เคยก่อ็อบ ไปเรียกร้องหาความเป็นธรรมกับสำนักงานสลากฯ กับกระทรวงการคลัง หรือแม้แต่ที่ทำเนียบรัฐบาล กันเสีนที… มีก็เพียง…เสียงก่น เสียงบ่น

แม้สำนักงานสลากฯ จะพยายามออกแนวทาง “แก้ปัญหา” ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว แต่เป้าหมายก็เพียงแค่ว่า…ให้เห็นว่ามีหวยใบละ 80 บาท อยู่จริง ก็เท่านั้น!!

ทุกวันนี้…การเปิดให้ลงทะเบียนคนขายหวย เพื่อล้างไพ่ของเดิมที่ยาวนานมา 7 ปี ปรากฏว่า มีผู้ลงทะเบียนเข้ามาแล้ว กว่า 5.8 แสนราย และเชื่อว่า เมื่อถึงวันปิดลงทะเบียนคือสิ้นเดือน ม.ค.นี้ คงทะลุไปกว่า 3 เท่า จากที่กำหนดไว้ให้เพียง 2 แสนคน

นั่นหมายความว่า…อาชีพ “ขายหวย” ยังเป็นที่ถวิลหาของคนไทย แล้วในข้อเท็จจริงแล้ว คนที่แห่แหนมาลงทะเบียนขอขายหวยเหล่านี้!! จะเป็น “ตัวจริง” สักกี่ราย!!

หาก “ตัวจริง” ที่ได้รับสิทธิ ได้รับโควต้าขายหวย แล้วนำไปขายแบบ “สุจริต” ในราคาใบละ 80 บาท จากต้นทุนใบละ 70.40 บาท เท่ากับว่า ได้กำไรไปแล้วใบละ 9.60 บาท ก็น่าจะทำกำไรในแต่ละงวดได้ไม่น้อย และถ้าเป็นคนมีโชค หรือโชคเข้าข้าง ก็อาจเป็นเศรษฐีน้อย ๆ จากการถูกรางวัลไปด้วยซ้ำ

ความจริงก็คือความจริง!! ที่สังคมรับรู้กันอยู่แล้วว่า ส่วนใหญ่ก็นำโควตาไป “ขายช่วง” ไป “ขายต่อ” เปิดทางเปิดโอากาสให้มีนำไป”รวมชุด” แล้วโขกราคาขาย

ต่อให้… “นายกฯ บิ๊กตู่” รวบอำนาจ ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหวยแพง ขึ้นมาเอง 21 คน และใช้คนของตัวเอง “ออกหน้า” นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานแก้ปัญหา แล้วขนเอาบรรดาผู้บริหารระดับสูงจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสารพัด เข้ามาร่วมขบวน

ขณะเดียวกันยังกำหนดให้สำนักงานสลากฯ ต้องส่งข้อมูล ส่งรายละเอียดทั้งหมด ให้กับคณะกรรมการ แล้วให้รายงานทุกอย่างตรงต่อตัวบิ๊กตู่ แบบชนิดที่เรียกว่า เรื่องนี้ ต้องเป็น “วาระแห่งชาติ” ก็ตามทีเถอะ

แต่ปลายทาง… ก็เหมือนเดิม เพราะสถานการณ์เช่นนี้ วิธีการแก้ไขปัญหาเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในอดีตเค้าทำกันมาแล้ว สุดท้ายในระยะแรก อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงราคาหวยอาจลดลงมาได้บ้าง แต่ผ่านพ้นไปสักพัก ก็เข้าอีหรอบเดิม

ก่อนหน้านี้ สังศิต พิริยะรังสรรค์ประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ซึ่งได้ทำการศึกษาและวิจัย เรื่องเศรษฐกิจการพนัน ให้ความเห็นไว้ว่า วิธีที่จะแก้ปัญหา “หวยแพง” ให้ได้ผล คือ… ต้องเปลี่ยนสลากแบบกระดาษ มาขายผ่านระบบ “ออนไลน์” แทน เพื่อตัดวงจร ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว

โดยวิธีการก็ต้องเปิดประมูลแบบโปร่งใส ให้เอกชนมาดำเนินการ และให้สำนักงานสลากฯ เป็นเพียงผู้กำกับดูแล โดยที่รายได้เข้ารัฐก็เป็นเพียงแค่ “ส่วนแบ่ง” เท่านั้น

เช่นเดียวกับต่างประเทศ ที่มีการขายสลากกินแบ่ง หรือล็อตโต้ ที่ให้เอกชน เป็นผู้ดำเนินการ หน่วยงานรัฐทำหน้าที่เพียงแค่กำกับดูแลเท่านั้น ที่สำคัญ เวลานี้เกือบทุกประเทศขายสลากผ่านระบบออนไลน์กันหมดแล้ว แม้แต่ในอาเซียนเอง จะมีก็แค่ไทย กับเมียนมา ที่ยังขายสลากฯ แบบกระดาษกันอยู่

ทุกวันนี้!!!วิธีการขายสลากออนไลน์ ในต่างประเทศ ก็ตั้งเป็นร้านแบบเคาน์เตอร์เล็ก ๆ ที่เรียกว่า “คีออสก์” ผู้ซื้อสามารถเลือกเลขที่จะซื้อได้ คนขายก็บันทึกเลขลงในระบบและพรินต์ออกมาให้

วิธีนี้!! ถือว่าช่วยตัดปัญหาเลขเต็ง เลขเด็ด เลขดังที่ผู้ขายสลากฯ มักขายในราคาแพงได้สำเร็จ

ส่วนที่กลัวกันว่า…จะทำให้คนขายหวยรายย่อยต้องได้รับผลกระทบ ก็เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการขาย มาเป็นคนรับออร์เดอร์แล้วไปซื้อผ่านคีออสก์ หรือหันมาตั้งคีออสก์ ขายเอง ก็ได้

แต่กระบวนการทั้งหมด ทั้งการเปิดประมูล การแบ่งปันผลประโยชน์ให้รัฐ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ต้องอยู่บน ความถูกต้อง ความโปร่งใส ก็แค่นั้น!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”