นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบ 20 กว่าปีได้ ชายหนุ่มขายเสื้อผ้าในห้างสรรพสินค้า เสื้อผ้าผู้ชาย กางเกงยีน มีลูกค้ามาเดินห้างเลือกซื้อข้าวของมากมาย ในยุคสมัยที่โทรศัพท์มือถือยังแพง และเพจเจอร์ยังได้รับความนิยม โทรศัพท์สาธารณะปรากฏให้เห็นบ่อยมากและยังไม่รู้จักการสูญพันธุ์ ในยามที่ร้านเหล้าเปิดได้ยันเช้า ในยามที่ไม่มีข้อกำหนดเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ในยามที่เศรษฐกิจเปิดกว้าง จึงมีคนขายของออกมาเปิดร้านกันหวังว่าจะรวยได้อย่างง่ายดาย

ชายหนุ่มปิดร้านในช่วงทุ่มถึงสองทุ่ม เขานัดหมายกับเพื่อน นัดหมายกันไปเที่ยว ร้านเหล้า ผับ บาร์สนุกสนาน วอร์มด้วยเครื่องดื่มเบาๆ แล้วขยับไปหาเหล้ามากชนิดที่ยังโฆษณาในโทรทัศน์ได้อยู่ วันเสาร์ มีฟุตบอลให้ชม คืนนั้นเหล่หญิงไว้คน แล้วด้วยความเมาผสมความกล้า จึงเข้าไปจีบ ขอเบอร์เพจเจอร์และจะให้ดีต้องขอเบอร์โทรศัพท์บ้าน ไม่นานได้มา เมากลับห้อง ตื่นมากำเหรียญบาทโทร.หาหญิงนัดหมายกินข้าว เพลิดเพลินสำราญใจ สนุกสนานในชีวิตวัยหนุ่มสาว

แรก ๆ ก็คบกันดี น้องยังเรียนมหาวิทยาลัยชื่อดัง ขี้งอนแต่ก็ชอบให้อ้อน ชายหนุ่มขายเสื้อผ้าในห้าง เป็นพ่อค้าไม่มีเงินเดือน แต่ได้กำเงินทุกวัน ซื้อของดูแลเทียวหาเธออยู่เสมอ รักนิรันดร์ผักต้มยังชมว่าหวาน อย่างไรก็ดี หญิงสาวขี้หึงเกินไป เขาคุยกับเพื่อนขายของด้วยกันที่เป็นผู้หญิง เธอก็ไม่พอใจ ออกอาการทางสีหน้าอย่างเห็นได้ชัด หลัง ๆ กลับไปทะเลาะกันบ่อยขึ้น มากขึ้นเรื่อย ๆ หลายครั้งไม่มีเหตุผลการวิวาทด้วยซ้ำ

จนถึงจุดหนึ่งจึงต้องบอกเลิก หญิงสาวร้องห่มร้องไห้ไม่พอใจข่มขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ชายหนุ่มยืนยันเมื่อหมดรักก็หมดใจ ทุกอย่างควรลาจากเลิกรา หญิงสาวเจ็บใจเก็บของออกจากห้องชายหนุ่มด้วยน้ำตา กลับไปที่บ้าน

เขาขายของปกติ กำเงินได้ทุกวัน แต่มีอยู่วันตื่นขึ้นมาแล้ว หายใจไม่ออกคล้ายเหมือนถูกบีบคอ คิดว่าเป็นเพราะบุหรี่ Royal Standard ที่คุณอาขายอัญมณีเปิดร้านอยู่ข้าง ๆ ให้มาสูบ มันเป็นบุหรี่อเมริกันของรัฐเวอร์จิเนีย รสเข้มหนักแน่นอัดลงปอดแล้วปล่อยควันออกมาได้สบาย ๆ อิ่มตามสำนวนประสาของคนชอบสูบ

ทีแรกเขาคิดว่าบุหรี่นั้นหนักแน่นเกินไป จนทำเอาปอดไม่ไหว แต่ก็คิดได้ว่าไม่ได้สูบเยอะขนาดนั้น ในเวลาต่อมาเขาปวดท้อง แต่ไม่ใช่อาการท้องเสีย แต่เหมือนมีอะไรทิ่มแทงท้อง

นอนทุรนทุรายกว่าจะลุกออกมาได้ ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชน ในยุคที่ 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นเพียงแค่โครงการที่ยังไม่เป็นจริง หมอเอกชนให้ยาไปกิน ถามว่าเขากินอาหารผิดสำแดงมาหรือไม่ เขาส่ายหน้า เป็นคนไม่ชอบกินเผ็ด

มาเปิดร้านในสภาพทรุดโทรม หญิงสาวขายเสื้อผ้าผู้หญิงข้างห้อง ถามด้วยความสงสัย “เป็นอะไรน่ะเธอ”

“ไม่ค่อยสบาย”
เขาตอบเสียงซีดเซียว

“เที่ยวหญิงให้มันน้อยหน่อยสิ” อาผู้ชายขายอัญมณีแซว ทำเอาชายหนุ่มยิ้มแบบเขิน แต่ยังข่มความเจ็บในกายไว้

วันแรกผ่านไป วันที่สองเริ่มหนัก ต้องไปหาหมอ แต่ก็ไม่มากไปกว่าได้ยามากิน เขาชักสงสัยเกิดอะไรขึ้น โทรศัพท์ไปปรึกษาเพื่อน แนะนำให้ไปหาหมอเหมือนเดิม

วันที่ 3 ชายหนุ่มไปทำงานไม่ได้ เขาต้องโทรศัพท์ไปหาเพื่อนผู้หญิงร้านข้าง ๆ ให้โทร.กลับมาที่เบอร์ห้อง ย้ำว่าอาการไม่ค่อยดีลุกไม่ไหว

แม่ค้าหญิงขับรถมาหาถึงห้อง แบกเข้าไปโรงพยาบาล หมอตรวจสอบเอกซเรย์ต่าง ๆ ไม่พบว่ามีอะไรในท้อง ชายหนุ่มครุ่นคิด เกิดอะไรขึ้นกับเขา ขณะที่หญิงสาวกระซิบขณะขับรถกลับ “โดนของเปล่า”

ชายหนุ่มอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ส่ายหน้าไม่เชื่อ แต่ตอนนี้ปวดท้องมาก ๆ หญิงสาวจอดรถแวะข้างทาง หยอดเหรียญโทรศัพท์สาธารณะ ถามเรื่องราวจากเพื่อน ก่อนจะขับพาชายหนุ่มไปยังที่หมาย เป็นวัดแห่งหนึ่ง กว่าจะถึงก็ต้องถามทางชาวบ้านพอสมควร

หลวงพ่อลงมาดู ชายหนุ่มยกมือไหว้ “เอ็งโดนของเหรอ” รู้ทันโดยไม่ต้องเอ่ยปาก หลวงพ่อบริกรรมคาถามบางอย่างฟังไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจ สาดน้ำมนต์ แล้วตำยาบางอย่างมาให้ “กินให้หมด วันละ 3 เวลา” เหมือนคำสั่งแพทย์ตะวันตก ชายหนุ่มกินทันที อาการปวดท้องค่อยดีขึ้น แต่ยังไม่หายขาด

เขากินยาที่หลวงพ่อบด รสขมมาก 3 วันจึงหมด อาการค่อยดีขึ้นเป็นลำดับ เช้านั้นตื่นมา เพื่อนแม่ค้าลงไปซื้อข้าวให้ ชายหนุ่มอ้วกลงกลางเตียงนอน ที่น่าแปลกคือไม่ใช่อาเจียนที่ปรากฏออก แต่เป็น ก้อนผมจำนวนมาก เขาล้วงไปในปากหยิบมันออก ผมสีดำขดเป็นกลมเปื้อนรอยเลือด ยิ่งไปกว่านั้นยังมีสิ่งที่ตกใจสุดขีด เพราะไม่เพียงเส้นผมเท่านั้นที่โผล่ออกมาเป็นปม

มันยังมี ตะปู ปรากฏออกมาด้วย นี่คือยุคสมัยไหน ถึงมีเรื่องแบบนี้ปรากฏขึ้นอีก ไม่น่าเชื่อว่าได้เห็น เมื่อแม่ค้าหญิงกลับมา ชายหนุ่มเล่าให้ฟัง เธออ้าปากค้าง จ้องมองปมผมสีดำยาวเหมือนผมผู้หญิง และตะปู 2-3 ตัว ทั้งสองกลับไปวัดไหว้พระอีกรอบ “ผู้หญิงเขาแค้นเอ็ง แต่ทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ”

ชายหนุ่มเหงื่อตก เขาขายเสื้อผ้าตามเดิม แต่ปิดร้านเร็วขึ้น บางคราวขณะกำลังเดินไปขึ้นรถกลับที่พัก ก็มักจะเห็น หญิงสาวคนรักเก่าแอบอยู่ที่เสาลานจอดรถ เห็นตรงหางตา จนเมื่อหันไปมองก็ไม่มีสิ่งใดปรากฏ

ในยุคที่หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นยังมีบทบาทสูง แม่ค้าหญิงส่งมาให้เขาดูแล้วบอกว่า แฟนเก่าเอ็งฆ่าตัวตายผูกคอในหอพักนักศึกษานะ” เขาอ่านในยุคที่ยังไม่มีการบังชื่อสกุลคนตาย เขาอ้าปากค้าง ข่าวบอกว่าเธอเสียชีวิตมาแล้วเกือบอาทิตย์ จนกลิ่นเหม็นออก คนต้องไปแจ้งให้มาเปิดห้อง

ชายหนุ่มกลืนน้ำลาย วันนั้นเขาเก็บข้าวของที่ร้านเร็วกว่าปกติ อาผู้ชายกับอาผู้หญิงที่ขายของร้านอัญมณีนั่งกินข้าว ลูกชายคนโตพาน้องชายคนเล่นเดินเที่ยวในห้าง เขาปิดร้านเร็วจนอา ๆ สงสัย แต่ก็บอกว่าวันนี้มีนัดกับเพื่อนเลยต้องไปทำธุระก่อน แล้วจึงออกไปขึ้นรถกลับ ขณะวนรถลงจากลานจอด เขาก็ได้เห็น….

หญิงสาวอดีตคนรักเก่ายืนอยู่หน้ารถ เธอสวมชุดนักศึกษาใบหน้าซีดขาว ชายหนุ่มแตะเบรก มือจับพระที่คอ ก่อนจะตัดสินใจขับรถพุ่งเข้าหา ร่างของหญิงสาวหายไป ชายหนุ่มขับออกมา มองกระจกหลัง เธอยังยืนมองเขาอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ยิ้มหรือแสดงอารมณ์ใด แต่เอามือล้วงไปในลำคอหยิบเอาก้อนผมกับตะปูออกมาให้เขาได้ชม

……………………………………………………………………………………
คอลัมน์ : หนอนโรงพักโดย “ณัฐกมล ไชยสุวรรณ”
ขอบคุณภาพจาก : Pixabay..