ไม่เพียงแต่ในประเทศไทย ที่เป็นห่วงอนาคตของ “กีฬามวยสากลสมัครเล่น” ว่าจะคงอยู่คู่กีฬาโอลิมปิกต่อไปหรือไม่ แต่ในแวดวงกีฬาโลก มีกระแสข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง แสดงความเป็นห่วง ไม่แพ้วงการกีฬาบ้านเรา

            เนื่องจาก “มวยสากล” เป็นอีกชนิดกีฬาหนึ่ง ที่มีความหวังคว้าเหรียญโอลิมปิก ของประเทศไทย

            พลิกอ่านสื่อดังอย่าง inside the games เจอรายงานข่าว การเปิดใจของ คีธ วอล์คเกอร์ ประธานสมาคมมวยสากลสมัครเล่นนิวซีแลนด์ แกเป็นห่วงอนาคต “กีฬามวยสากล” ภายใต้การบัญชาการของชาวรัสเซีย อูมาร์ เครมเลฟ ประธาสนสหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (IBA) จาหรือไอบ้า อยู่มาก ซึ่งแกก็มีเหตุผลให้น่าครุ่นคิด

            วอร์คเกอร์ ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินมวยสากลในกีฬาโอลิมปิก 1988 ที่อื้อฉาว ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้นั้น ตั้งข้อสงสัยว่า การได้สปอนเซอร์รายใหญ่ของไอบ้า เป็นบริษัทพลังงานน้ำมันของรัสเซียนั้น จะมาสู่การทุ่มเม็ดเงิน เพื่อหวังรักษาเก้าอี้ประธานไอบ้า ที่จะมีการเลือกตั้งราวเดือนมิ.ย.นี้  

มากกว่าการฟื้นฟูสถานภาพ และการปรับปรุงองค์กรของไอบ้า ให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) หรือไอโอซีพอใจ หลังจากไอโอซี สั่งแบนไอบ้า ในเดือนมิ.ย.2019 ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการจัดมวยในกีฬาโอลิมปิก เนื่องจากปัญหปัญหาระยะยาวเกี่ยวกับการกำกับดูแล การเงิน การตัดสิน และระบบการตัดสินกีฬามวยสากล

ตอนนี้แม้ “กีฬามวยสากล” ยังมีบรรจุอยู่ในกีฬาโอลิมปิก 2024 “ปารีสเกมส์” แต่ไอบ้าก็ยังติดโทษแบนอยู่ และ “มวยสากบล” ยังไม่ได้รับการบรรจุเข้าโปรแกรมแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก 2028 ที่ลอสแองเจลิส แต่สามารถคืนสถานะได้หากเป็นไปตาม “แผนงาน” ที่ไอโอซีร่างขึ้น และกำหนดให้ไอบ้าปฏิรูปเกี่ยวกับประเด็นสำคัญ 3 ด้าน ภายในปี 2023

โดยไอบ้า ต้อง แสดงให้เห็นว่าประสบความสำเร็จในการจัดการข้อกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการกำกับดูแล ความโปร่งใสทางการเงินและความยั่งยืน  ตลอดความสมบูรณ์ของกระบวนการตัดสินและตัดสิน เรียกว่า “อาการยังน่าเป็นห่วง” อยู่

วอร์คเกอร์ เรียกร้องว่า “เราไม่ได้ต้องการเงินจากรัสเซีย” เราต้องการเงินทุนจากไอโอซีต่างหาก” เพราะหากไอบ้า ยังคงโดนแบน ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือจากกองทุนโอลิมปิก 

พร้อมย้ำว่า ปีนี้เป็นปีที่วิกฤตสำหรับไอบ้า เป็นอย่างยิ่ง หลังจากไอบ้าโดนไอโอซีรุกหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังบอกอีกว่า เขามีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับการอยู่รอดในกีฬาโอลิมปิกของไอบ้า ซึ่งอาจถึงหายนะ

ที่น่าสนใจ วอร์คเกอร์ ชี้ว่า เคลมเรฟ ได้รับเลือกเป็นประธานไอบ้า ในเดือนธ.ค.2020 เสียบแทนคนเก่าที่ลาออก โดยอ้างว่าต้องการมากอบกู้สถานะของไอบ้า ซึ่งจนบัดนี้ไอโอซี ก็ยังไม่พอใจการปฏิรูปของไอบ้า ซึ่ง วอร์คเกอร์ สงสัยว่า เครมเลฟ ตั้งใจกอบกู้ หรือหวังรักษาเก้าอี้ของตัวเอง

ที่สำคัญอีกอย่าง วอร์คเกอร์ บอกว่า เขาแน่ใจว่า ไอโอซีกำลังจับตาดูการเลือกตั้งประธานคนใหม่ของไอบ้าในปีนี้ เพื่อพิจารณาว่าจะปลดล็อกโทษแบนให้ไอบ้าหรือไม่ และหาก เครมเลฟ ยังคงได้รับเลือกเข้ามาอีกครั้ง ไอโอซี จะพอใจหรือไม่ นี่คือเรื่องใหญ่ เพราะเป็นอนาคตของ “กีฬามวยสากล” ในกีฬาโอลิมปิก

และที่ วอร์คเกอร์ กังวลมากอีกด้าน คือ เครมเลฟ ใช้นโยบายด้านการเงิน ล่อใจชาติสมาชิกเพื่อรักษาเก้าอี้ ซึ่งจะทำให้ชาติสมาชิกเล็ก ๆ ที่ไม่มีเงินมาก ตัดสินใจเข้าทาง เครมเลฟ จะส่งผลต่อการลงคะแนนเสียงอย่างไร มากกว่าที่จะหาคนที่เหมาะสม

เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ โฆษกของไอบ้า แจ้วงว่า มีการติดต่อกับสหพันธ์แห่งชาติเป็นประจำในประเด็นต่าง ๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการกำกับดูแลที่กำลังดำเนินอยู่ เช่น การสัมมนาออนไลน์จัดขึ้นแบบทวีปก่อนการประชุมวิสามัญเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยย้ำว่า

 “การพัฒนาสมาคมมวยชาติสมาชิก ยังคงเป็นเป้าหมายหลักสำหรับ IBA เช่นเดียวกับความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงินของนักมวย เช่นการตั้งเงินรางวัลสูงมากในการจัดการแข่งขันให้นักมวย ที่ได้เหรียญทอง,เงิน,ทองแดง ในศึกมวยสากลชายชิงแชมป์โลก เมื่อปีที่ผ่านมา

ไอบ้า ตอกย้ำเสมอว่า อนาคตของการชกมวยโอลิมปิกและการคืนสถานะไอบ้า  โดยไอโอซี ยังคงเป็นลำดับความสำคัญสำหรับไอบ้า ที่มุ่งเน้นอย่างต่อเนื่องในการปฏิรูปธรรมาภิบาล ความซื่อสัตย์ด้านกีฬา และความสมบูรณ์ทางการเงิน ซี่งได้แสดงความคืบหน้าอย่างมากในปีที่ผ่านมาและจะดำเนินการต่อไปในปีนี้ และขอบคุณไอโอซี ที่ยอมรับความก้าวหน้าของไอบ้า

อย่างไรก็ตาม บางส่วนก็คิดว่า ยังเป็นเพียงแค่ “ราคาคุย” และทุกสิ่งทุกอย่างทั้งอนาคตของไอบ้า และกีฬามวยสากลในโอลิมปิก จนถึงขณะนี้นั้น สรุปได้สั้น ๆ ว่า

“อาการยังน่าเป็นห่วง”

                                    “คม ท่าดี”