แต่การรับรองกฎหมายที่เพิ่งจะใช้กันทั่วโลก หลังลงนามไปเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ทำให้โอลิมปิก โตเกียวครั้งนี้ เป็นการทดสอบไปว่า หน่วยงานสอบสวนของรัฐบาลสหรัฐจะได้รับความร่วมมือ หรือถูกต่อต้านจากหลายประเทศทั่วโลก

กฎหมายต่อต้านการใช้สารกระตุ้น “รอดเชนคอฟ” ให้อำนาจพนักงานสอบสวนของสหรัฐเข้าไปติดตาม และตรวจสอบว่ามีใครสมรู้ร่วมคิดกันกระทำผิด ในการแข่งขันกีฬารายการใหญ่บ้าง แต่โดยเนื้อแท้แล้ว เจ้าหน้าที่ของสหรัฐดำเนินการไปแล้ว ก่อนที่จะมีกฎหมายออกมาเสียอีก โดยโจเซฟ จิลเลสพี หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภัยคุกคามข้ามชาติ ได้เปิดตัวการปฏิบัติริเริ่มกิจกรรมกีฬาและเกม มุ่งไปที่ความสนใจและทรัพยากร โดยสอบสวนอาชญากรรมเฉพาะกีฬา เจ้าหน้าที่สอบสวนได้พบกับเจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรม และเริ่มก้าวล่วงไปถึงหน่วยงานผู้รักษากฎหมายต่างประเทศ และองค์กรกีฬาเพื่อหารือถึงการปฏิบัติหน้าที่ตำรวจโลกในวงการกีฬา

จิลเลสพี บอกอีกว่า เรามีกลไกมากมายที่จะต้องจัดหมวดหมู่ สิ่งที่ต้องใช้กับบุคคลที่จะเข้าไปตรวจสอบ มีกฎหมายมากมาย แต่บางครั้งกฎหมายก็ยังหละหลวม ไม่ชัดเจนและขยายต่อไปไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวบท คำนิยามของการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศรายการใหญ่

ข้อกล่าวหาการใช้สารกระตุ้นมาจากรัสเซียจนเป็นเรื่องอื้อฉาว กฎหมายจึงได้ผ่านสภาคองเกรสไปเมื่อปีที่แล้ว แต่เจ้าหน้าที่การแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศบางรายตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐกำลังได้รับอำนาจมาโดยไม่ต้องเสียอะไร อีกทั้งยังขยายอำนาจขอบเขตการสอบสวนเข้าไปการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ ที่มีนักกีฬาของสหรัฐเข้าร่วมแข่งขันด้วย มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ เพื่อประโยชน์ของผู้สนับสนุนรายการ ที่มีธุรกิจอยู่ในสหรัฐอเมริกา

องค์การต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (World Anti-Doping Agency : WADA) ก็ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายของสหรัฐ พร้อมเตือนว่าการใช้อำนาจตรวจสอบจะสร้างความยุ่งยาก และยังไปบ่อนทำลายความพยายามที่จะตรวจสอบ และต่อต้านการใช้สารกระตุ้นเดิมอยู่แล้ว

ดังนั้นโอลิมปิกโตเกียวที่กำลังจะเปิดฉากขึ้น จึงอาจเป็นโอกาสแรกที่ได้เห็นว่ากฎหมายได้รับการตอบสนอง และเปิดเผยถึงเจตนาของการใช้กฎหมายของทางการสหรัฐ รวมถึงระดับความร่วมมือจากหน่วยงานหรือองค์กรภายนอก และก้าวข้ามนอกเขตอำนาจของกฎหมายที่มีอยู่ก่อนแล้วได้อย่างไร

มาร์ค เอ. ดรัมเบิล ผอ.สถาบันกฎหมายข้ามชาติในกรุงวอชิงตัน บอกว่า กฎหมายแบบนี้จะมีประโยชน์ในแง่ของการกำหนดนิยามของอาชญากรรม แต่การป่าวร้องดูเหมือนว่าจะเลวร้ายกว่าการปฏิบัติ คุณไม่สามารถนำคดีขึ้นสู่ศาลได้ หากไม่มีพยานหลักฐาน หากไม่มีการเคลื่อนย้ายบุคคล ข้อมูล และพยานแล้วก็เปล่าประโยชน์

ชื่อกฎหมายที่เรียกขานกันว่า กฎหมายรอดเชนคอฟ ก็มาจากชื่อของนายกริกอรี รอดเชนคอฟ ผู้เชี่ยวชาญเจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ซึ่งหนีการถูกดำเนินคดีของทางการรัสเซีย โดยไปลี้ภัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา เขาเป็นคนในวงการที่ออกมาเปิดโปงเรื่องอื้อฉาวของรัสเซีย โดยบอกว่า กฎหมายจำเป็นสำหรับโตเกียวเกมส์ ซึ่งนักกีฬาจากรัสเซียถูกห้ามเข้าร่วมการแข่งขันในนามนักกีฬาทีมชาติรัสเซีย แต่ต้องใช้ชื่อกลางอย่าง ROC ย่อมาจากคณะกรรมการโอลิมปิกรัสเซีย

รัสเซียยังใช้สารกระตุ้นเป็นอาวุธ เพื่อทดสอบว่าประชาคมโลกจะยังตรวจจับได้หรือไม่ กฎหมายรอดเชนคอฟตอนนี้จึงเป็นดาบปราบสารกระตุ้น เพื่อหมายหัวผู้อยู่เบื้องหลัง ไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกลงโทษ เขาเชื่อว่ากฎหมาย กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ และเอฟบีไอจะนำมาซึ่งวันใหม่ของการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง การป้องปรามและความยุติธรรมสู่โลกกีฬา

นี่คือการสร้างความกดดันต่อองค์กร ที่มีหน้าที่ปฏิบัติอยู่แล้วในการป้องกันสารกระตุ้น ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการโอลิมปิกสากล องค์การต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก แต่การทำหน้าที่ตำรวจโลกของสหรัฐอเมริกาก้าวเข้ามาสู่วงการกีฬาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยกฎหมายฉบับนี้ จนแยกกันไม่ได้แล้วระหว่างกีฬากับการเมือง.

เลนซ์ซูม

เครดิตภาพ : REUTERS