คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาลยื้อยุทธ์! พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมีการชิงไหวชิงพริบ หักเหลี่ยมเฉือนคมกันอีกหลายเรื่องราว โดยมีประชาชนคือตัวประกัน! นับตั้งแต่กรณีพิจารณาต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว

จนกระทั่งวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา มีข่าว ครม.เบรกนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ประกาศรักษาโควิดฟรีตามสิทธิ เลื่อนประกาศใช้ออกไปก่อน โดยให้ยึดหลักเจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉินรักษาฟรีทุกที่ (ยูเซ็ป) เช่นเดิมจากเดิมกระทรวงสาธารณสุขเล็งออกประกาศข้อกำหนดเกณฑ์รักษาผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อเป็นแนวทางในการบริหารจัดการผู้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน โดยจะปรับให้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้ารักษาฟรีตามสิทธิสุขภาพของตนเอง เช่น ประกันสังคม-สวัสดิการข้าราชการ-สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มี.ค.65 เป็นต้นไป

แต่ ครม.แตะเบรกหัวทิ่ม! ให้เลื่อนประกาศใช้ดังกล่าวออกไป เพื่อให้ประชาชนทำความเข้าใจการใช้บริการด้านสุขภาพและเตรียมความพร้อมรองรับผู้ติดเชื้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น จึงให้ยึดหลักเจ็บป่วยวิกฤติฉุกเฉินรักษาฟรีทุกที่เช่นเดิมงานนี้มี 2 มุมมอง คือ

  1. นายอนุทินและนายแพทย์ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข อยากประกาศให้โควิด-19 เป็น “โรคประจำถิ่น” เมื่อสัปดาห์ก่อนแพทย์โรงพยาบาลในต่างจังหวัด ยังพูดกันทั่วว่าจะประกาศเป็นโรคประจำถิ่นแล้วนะ! ทำให้หลายคนรู้สึกงง ๆ ว่าโควิด-19 ไม่ว่าสายพันธุ์อะไรก็ตาม จะเป็นโรคประจำถิ่นไทยไปได้อย่างไร?
  2. พล.อ.ประยุทธ์ตั้งการ์ดสูง ไม่เชื่อมือนายอนุทินและผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขว่าจะ “เอาอยู่” ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์คิดเยอะว่าถ้าลดความรุนแรงของโควิดเป็นโรคประจำถิ่นนั่น หมายความว่าจะต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต้องยุบศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ “ศบค.”

หมายความว่างานนี้นายอนุทินเป็นคน “ปิดเกม” เปิดแชมเปญฉลอง! ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ควรเป็นคน “ปิดเกม” นี้ไม่ใช่หรือ? ซึ่งจริง ๆ แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่อยากปิดเกมทั้งตัวเขาเองและนายอนุทิน เนื่องจากต้องการคงไว้ซึ่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ให้นานที่สุด เพื่อสกัดสารพัดม็อบที่จะออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่นายกฯ

งานนี้เหมือนโชคเข้าข้าง พล.อ.ประยุทธ์ แต่ความโชคร้ายไปตกอยู่กับประชาชน เนื่องจากวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยรายใหม่ 23,557 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 38 ราย แถมมีผู้อยู่ในข่ายติดเชื้อจากผลแอนติเจน เทสต์ คิท (ATK) อีก 22,240 ราย

ตัวเลขต่อวันพุ่งสูงขนาดนี้ จะเอาเตียงผู้ป่วยมาจากไหน?โดยเฉพาะ กทม. กับกระทรวงสาธารณสุขที่ “จูน” กันไม่ค่อยติด! จึงเป็นสถานการณ์น่าห่วงมาก เพราะคนไทยบอบช้ำมา 2 ปีแล้ว ไหนจะเรื่องมาตรฐานตรวจวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขว่าใครป่วยหนัก-เบา ควรจัดอย่กลุ่มสีไหน (เขียว-เหลือง-แดง) ต้องนอนกักตัวอยู่บ้าน หรือศูนย์พักคอย หรือว่าต้องเข้านอนในโรงพยาบาล

เอาเป็นว่าการโทรฯสอบถามผ่านสายด่วน 1330 ตอนนี้กำลัง “สายไหม้” แต่ส่วนใหญ่โทรฯไม่ติด! เพราะเต็มทุกสาย และเริ่ม มีข่าวว่ามีคนป่วยมานอนรอคิวบนฟุตปาธหน้าโรงพยาบาล

เหมือนประจานรัฐบาลกู้ฉุกเฉิน 2 รอบ 1.5 ล้านล้านบาท และงบกลางปี 65 อีก 1.63 หมื่นล้านบาท ใช้หมดแล้ว? หรือใกล้หมดไปกับการแจกสะเปะสะปะ ส่วนการทำงานก็ ครม.ไปทาง สาธารณสุขไปอีกทาง จึงไม่รู้มี ศบค.ไว้ทำไม?

แต่พอมีคนป่วยขึ้นมา ถ้าไม่หนักให้นอนกักตัวที่บ้านจะปล่อยให้แพร่ระบาดกันอยู่ที่บ้านและในชุมชนหรือ? หรือบอกให้ไปนอน “ฮอสพิเทล” คนไทยยามนี้ดำรงชีพอย่างอัตคัดขัดสนมาก ๆ ไม่ได้มีบ้านหลวงอยู่ฟรี ใช้น้ำ-ไฟฟรี นะจ๊ะ!!.

——————-
พยัคฆ์น้อย