ก่อนอื่น ต้องขอแสดงความไว้อาลัยกับการเสียชีวิตที่ดูมีเงื่อนงำของดาราสาว “แตงโม นิดา” หลายคนอาจเคยไม่ชอบเธอเรื่องความแรง เรื่องอุดมการณ์ทางการเมือง แต่เมื่อถึงนาทีนี้ มันน่าเสียใจที่ทุกคนรู้จักด้านดีๆ ของแตงโมมากขึ้น เมื่อตอนเขาไปอยู่ในอุ้งหัตถ์ของพระเจ้าแล้ว ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเอามาสอนใจคนเราว่า อย่าตัดสิน อย่าเกลียดใครถ้าไม่รู้จักเขาจริงๆ และ ชีวิตคนเรามันสั้นเกินไปสำหรับการเก็บความเกลียดไว้ในใจ

ความมีเงื่อนงำของคดี คือ การที่พยานบนเรือให้การไม่ตรงกัน การแจ้งกู้ภัยล่าช้า หลักฐานบางอย่างที่ถูกส่งไปที่บ้านแม่ของแตงโม ก็ขอให้ตำรวจคลี่คลายคดีนี้ได้โดยเร็ว สิ่งที่คนจับตามากคือ ผู้เกี่ยวข้องมีคำว่า “ไฮโซ” นำหน้า และดูจะมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับคนในเครื่องแบบระดับสูง คนต่างกลัวว่าแตงโมจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้.. ไฮโซมีอภิสิทธิ์อย่างไร.. เราก็คงเห็นๆ กันจากกรณี ทายาทเครื่องดื่มเป้าหมายมีไว้พุ่งชนนั่นแหละ

ข่าวลือที่ออกกันมาหนาหูระดับหนึ่ง คือ “แตงโมถูกหลอกไปรับงานเอ็นแล้วไม่ยอม เลยพยายามหนี” ซึ่งขออย่าให้เป็นเช่นนั้นเลยเพราะมันยิ่งดูน่าเศร้ามาก เพราะกลายเป็นว่า คนที่เธอรักและไว้ใจที่สุดนั่นแหละ ทำร้ายเธอ.. เอาความเป็นเพื่อนมาหาผลประโยชน์ใส่ตัว แต่ขณะนี้เรายังไม่ด่วนตัดสินใครเด็ดขาดรอจนกว่าผลการสอบสวนของตำรวจจะออกมาเป็นทางการ ซึ่งสังคมเฝ้าจับตาหนักแน่ ขอให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้นกับเธอ

“งานเอ็น” คืออะไร? หลายคนก็คงรู้จัก มันก็ย่อมาจาก entertain คือไปให้ความบันเทิงในรูปแบบต่างๆ นั่นแหละ สถานที่พวกผับ บาร์ ที่ของคนทำงานกลางคืน ก็คือการให้ความสนุก ความบันเทิง อย่างในกรุงเทพฯ เอง “บาร์โฮสต์” เดิมก็มีอยู่หลายบาร์ (ไม่รู้เดี๋ยวนี้ล้มหายตายจากกันไปเยอะแล้วหรือยัง) บาร์โฮสต์จะเป็น บาร์เที่ยวสนุกๆ อาจเรียกได้ว่า “ปลอดภัย” สำหรับผู้หญิง ที่แค่ต้องการเพื่อนชายมาคุยด้วย ดื่มด้วย เพื่อผ่อนคลาย

ให้ลองนึกภาพ ผู้ชายแต่งตัวดีๆ สูงๆ หล่อๆ ฝึกมารยาทดีๆ เป็น “โฮสต์” ซึ่งบาร์นึงมีโฮสต์หลายคน แขกผู้หญิง (โฮสต์ส่วนมากไม่ค่อยรับเกย์) ก็จะเรียก โฮสต์เหล่านั้นมานั่งคุย นั่งดื่มเหล้าด้วย แล้วก็นั่งเล่นเกมโน่นนี่ มันจะมีช่วงเวลา “เปิดฟลอร์” คือถ้าอยากออกไปเต้นรำ ทั้งแบบเต้นแร้งเต้นกาหรือเต้นลีลาศก็ได้ ผู้หญิงก็จะเอาหนุ่มโฮสต์ไปเต้นด้วย ไม่มีการรุกล้ำล่วงเกินทางเพศ (เว้นแต่จะไปคุยกันนอกรอบเอง) อัตราค่าบริการก็คิดเหมาเป็นชั่วโมง แขกโต๊ะหนึ่งจะเรียกโฮสต์กี่คนก็ได้แต่ต้องจ่ายค่าชั่วโมงให้ทุกคนที่เรียก หนุ่มโฮสต์ก็จะคะยั้นคะยอให้ซื้อดริงค์ซึ่งเป็นรายได้หลักของบาร์

ข้างฝั่งงานเอ็นตามสถานที่ของผู้ชายก็มี ก็พวกคาราโอเกะอะไรต่างๆ ที่สามารถเปิดห้อง เรียกผู้หญิงพนักงานมานั่งเป็นเพื่อนคุย เพื่อนร้องเพลง กินข้าวได้ แล้วก็จ่ายแบบตามชั่วโมงแหละ เรียกมากี่คนก็จ่ายเท่านั้น  ..แต่ถ้ามองมิติทางภาษา ผู้หญิงทำงานเอ็นในสถานที่แบบนี้กลายเป็นถูกเรียกว่า “เด็กนั่งดริ๊งค์” มันดูกดคุณค่าลง ขณะที่วิธีเรียกผู้ชาย เขาจะเรียก “เด็กโฮสต์” ซึ่งน่าจะได้วิธีเรียกมาจากญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นมีบาร์โฮสต์มาก

แต่ไปตามสถานที่มันดูไม่เป็นส่วนตัว มันก็เลยมีระบบ “งานเอ็น” อีกแบบที่ไปในสถานที่เฉพาะ เช่นเช่าห้องโรงแรม ไปที่เซฟเฮาส์คนรวย พวกนี้จะมีการรับผ่านเอเย่นต์ ซึ่งมี “กลุ่มไลน์ส่งงาน” อยู่ โดยแขกจะต้องรู้จักเอเย่นต์ แล้วก็เสนอว่า “ต้องการงานประเภทไหน เอาเด็กกี่คน บั๊ด (budget) เท่าไร ไปที่ไหน งานนานแค่ไหน” อย่างเช่น มีไฮโซสาวรายนึงต้องการแค่เพื่อนนั่งคุย แต่ขอความเป็นส่วนตัว ก็แจ้งไปกับเอเย่นต์ บอกขอบเขตงานว่า แค่ชงเหล้า พูดคุย นานกี่ชั่วโมง บั๊ดเท่านี้นะ พร้อมระบุลักษณะของเด็กที่ต้องการ และจำนวน

เอเย่นต์ก็จะไปบอกงานต่อในกลุ่มไลน์ ว่า “งานนี้มีเงื่อนไขนี้” แล้วเด็กหรือเอเย่นต์เจ้าอื่นก็จะส่ง “คอมการ์ด (COMPCARD)” หรือส่งรูป ลักษณะ ประวัติ นิสัย มาให้เลือก หรือบางทีเด็กในกรุ๊ปไลน์ก็ส่งคอมการ์ดของตัวเองไปให้เอเย่นต์ที่หางานพิจารณา เขาก็จะเอาไปเสนอลูกค้าอีกทีว่ามีคนนี้ๆ ลูกค้าเคาะคนไหน ..แต่ที่สำคัญคือ ทั้งเด็กทั้งเอเย่นต์ต้องรู้เงื่อนไขที่ชัดเจน ไม่เกินขอบเขตที่เสนอมาเพราะ “บั๊ด” มันจะต้องเพิ่มขึ้นตามเนื้องานหรือเวลา (หรือหยวนๆ กันได้ไปคุยหน้างานอีก)

งานเอ็นไม่จำเป็นต้องมีเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้อง แค่เป็นการหาเพื่อนเพื่อระบายความเหงา หรือหาเพื่อนมาทำให้สนุกสนาน เมื่อก่อนโควิดระบาด ก็ได้ข่าวว่า สาวๆ จีนเองก็ชอบจ้างงานเด็กมางานเอ็น ยิ่งถ้ารวมกลุ่มกัน เรียกเด็กมาดีกว่าไปตามสถานที่ข้างนอกที่ไม่อาจไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไรนัก มีอะไรไม่พอใจอาละวาดกับเอเย่นต์ได้เลย เอเย่นต์คุมเด็กให้ได้ ซึ่งพวกเอเย่นต์ก็รับค่านายหน้าไป งานเอ็นไม่ใช่แค่ผู้ชายจ้างผู้หญิง ผู้หญิงจ้างผู้ชายก็เยอะ เกย์จ้างผู้ชายก็เยอะ

และจะมีงานเอ็นอีกระดับที่เรียกว่า “เอ็นวี” อันนี้จะมีเงื่อนไขที่สูงกว่างานให้ความบันเทิงทั่วไป คือมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ก็ต้องกำหนด “บั๊ด” กันอีกราคาหนึ่ง และเอเย่นต์อาจต้องคุยคนรับงานในทางลับว่าสามารถไปงาน “เอ็นวี” ได้หรือไม่ ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ คนรับงานหลายคนก็พร้อมรับงานเอ็นวีเพราะค่าตัวมันสูงกว่า และใน งานเอ็นวีบางทีก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ เช่น การไม่รู้รสนิยมผู้จ้าง

เด็กเอ็นหลายคนเคยผ่านประสบการณ์ที่เมื่อรับงาน ผู้จ้างขอให้ใช้ยาเสพติดเพื่อกระตุ้นอารมณ์ด้วย บางคนก็รู้เพราะมันจะมีเงื่อนไขแจ้งว่า “ไฮ” ได้หรือเปล่า หมายถึงเล่นยาด้วย คนรับงานบางคนที่ตั้งตัวเป็นศิลปินอิสระ ก็อาจเห็นโพสต์ในทวิตเตอร์ผ่านๆ ตากันมาบ้างว่า “ไฮได้” หรือ “รับงานไฮ” ..แต่เด็กเอ็นหลายคนก็ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำ คือถูกหลอกให้ดื่มเครื่องดื่มผสมยาอันตรายบางตัวที่ทำให้ไม่มีสติ แล้วเอาผิดก็ยากเพราะหลายคนก็ยังไม่กล้าไปแจ้งความว่ารับงานเอ็น ที่เคยเป็นข่าวให้คนรับงานเล่นไฮจนช็อกตายก็มีอยู่

“เอ็นวี” บางงาน เด็กก็ไม่รู้รสนิยมผู้จ้างดีพอ เพราะเขาไม่แจ้ง จะอายหรือเหตุใดก็ตาม แต่มันเป็นเงื่อนไขที่ทั้งอยู่ในขอบเขตรับได้และรับไม่ได้ อย่างเช่นถ้าเบาๆ รับได้ ก็ให้ คนรับงานแต่งชุดคอสเพลย์ (cosplay) หรือแต่งเลียนแบบบทบาทต่างๆ แต่งเป็นคนในเครื่องแบบ แต่งเป็นคนในหนัง แต่งเป็นตัวละครในอนิเมะ มาเสิร์ฟเหล้า มาเล่นตลกให้ดูบ้าง แต่ถ้าเอ็นวีประเภท รสนิยมทางเพศแปลกๆ แบบชอบการมัด (bondage) ชอบซาดิสต์ ก็ต้องวัดดวงกันว่าถ้าหนีจะเกิดอะไร  ยิ่งผู้จ้างมีอิทธิพล มีเงิน ยิ่งน่ากลัว งานแบบนี้มันรับกันลับๆ ด้วยเพราะมันผิดกฎหมาย

รสนิยมทางเพศของคนเรามันมีความซับซ้อน ที่สำคัญคือต้องเป็น ความยินยอมพร้อมใจ (consent) ทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างมีวุฒิภาวะ ไม่ใช่การหลอกลวง หรือการข่มขู่บังคับ ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ หลายคนก็ต้องผันตัวเองไปใช้สมบัติชิ้นสุดท้ายคือ ร่างกายนั่นแหละหาเงิน พยายามทำให้ รูปเป็นทรัพย์ วงการความงาม ศัลยกรรมถึงเฟื่องฟูมาก เรียกว่าเอาหินปาเข้าไปในย่านสยามสแควร์สักสี่ห้าก้อน ก้อนนึงต้องโดนหลังคาคลินิกทำหน้าบ้างแหละ

ขณะที่ฝ่ายผู้ชายเอง ปัจจุบันมีหลายคนที่ชื่นชอบรูปร่างที่ดูดี ชอบโชว์หุ่นด้วยความภูมิใจ จนเกิดเป็นศัพท์ใหม่ขึ้นมาว่า spornosexual หรือ porn (หนังโป๊) กับ sport (กีฬา) มารวมกัน ..มันก็คือ “สมบัติ” ที่ขายได้ แม้กระทั่งในรูปแบบการ “ขายเงา” คือไม่ได้รับงานอะไรที่ต้องไปกับแขกนะ แต่อาศัย ขายรูปโป๊ตัวเองลงแพลตฟอร์มต่างๆ เดิมมันนิยมเปิดกลุ่มไลน์ขายรูปขายคลิปกัน แต่ก็บ่นกันขรมว่าหลอกลวงก็หลายเจ้า อีคนเปิดตอนเปิดพูดดิบดี รวมเงินได้แล้วปิดกลุ่มหนีซะงั้น แล้วอ้างว่ามีคนไม่รักษาสัญญา เอาภาพที่เผยแพร่เฉพาะสมาชิกไปโพสต์ทวิตเตอร์

ตอนนี้ก็หันมานิยมแพลทฟอร์ม onlyfans คือจ่ายเงินค่า “ซับ” (subscribe) รายเดือน มีจ่ายพิเศษเปิดกล้องได้  ต่างประเทศเขาทำกันโครมๆ เรื่องเซ็กซ์มันเป็นเรื่องขายได้ มีอยู่ช่วงหนึ่ง onlyfans คิดจะปรับให้แพลตฟอร์มตัวเองเป็น แพลตฟอร์มแบบใสๆ คือให้ติดตามงานของศิลปินประเภทโพสต์อะไรที่ไม่ใช่ของโป๊ ปรากฏว่าหุ้นเตรียมตกระนาวจนต้องพลิกลิ้นกลับแทบไม่ทัน เพราะมีตัวอย่างมาแล้วจาก tumblr ที่ปรับแพลตฟอร์มไม่เอาของโป๊ ตอนนี้แทบจะร้าง

เคยคุยกับคนที่ทำงานบริการด้านนี้ ส่วนใหญ่เขาก็ไม่คิดจะทำไปจนเกษียณอายุตามราชการหรอก เขาแค่อยากหาเงินช่วงสั้นๆ เพื่อไปทำอย่างอื่น และก็มีอยู่บางกลุ่มที่บอกว่า งานแบบนี้คืองานใช้ความเสน่หา ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่า “เป็นสิ่งที่ไม่มีการลงทุนสูงนัก” แต่อาจจับพลัดจับผลูบิงโก ได้เจอ “ช้างเผือก” มาติดใจ เอาไปเลี้ยงให้กินหรูอยู่แพงสบายไปเลย ซึ่งก็ไปว่าเขาไม่ได้เต็มปากนักเพราะโลกทุนนิยมต้องมั่งมีเขาเชิดชูบูชา..พูดแค่นี้แหละ

ปรากฏการณ์เรื่องเศรษฐกิจตกต่ำจากโควิด คนก็ดิ้นรนหาทางเท่าที่ต้นทุนของตัวเองจะมีอยู่ หันไปใช้ต้นทุนสุดท้ายคือเรือนร่าง มันมีมาก เอาจริงมันเป็น ปัญหา หลายอย่างทั้งใน เรื่องสุขภาพ การแพร่โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การใช้ยา ความปลอดภัถ้าเจอแขกแปลกๆ ไปจนถึงกรณีน้อง “เดียร์ลอง” คือ การละเมิดลิขสิทธิ์ เอาเนื้อหาเฉพาะในแพลตฟอร์มเฉพาะของเธอออกมาโพสต์เป็นของฟรี ..บางที นโยบายภาครัฐอาจต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่เป็นอยู่นี้ด้วย ไม่ใช่เอะอะๆ ก็บอก เราเมืองพุทธ เมืองแห่งศีลธรรม อี๋แหวะไปหมด ทั้งที่กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง

เขาก็มีข้อถกเถียงกันมากเรื่องการค้าประเวณีเสรีอยู่ ประเด็นหนึ่งคือ “ถ้าออกกฎหมาย ควรต้องให้คนทำงานตรงนี้ขึ้นทะเบียนหรือไม่” ฝั่งไม่เห็นด้วยให้ขึ้นทะเบียนบอกว่ามันเป็น การตีตรา เพราะการค้าประเวณี เป็นอาชีพที่ถูกด้อยค่า และก็มีพวกที่มา ทำเพราะความจำเป็นชั่วคราว จะให้เขาขึ้นทะเบียนทำไม ต่อไปเกิดเขามีอนาคตดีๆ กลายเป็นตราบาป แค่ให้มันถูกกฎหมายแล้วตำรวจไม่จับ เวลามีปัญหาอะไรร้องเรียนตำรวจได้ก็พอ

อีกฝั่งหนึ่งเขาต้องการให้ขึ้นทะเบียน แต่เป็น การขึ้นทะเบียนลับ คือไม่ใช่ไปโผล่หราในเอกสารราชการทุกแห่งหรอกว่ารับงานค้าประเวณี เป็นดาราหนังโป๊ หรือเคยทำ แต่ต้องให้หน่วยงานด้านสุขภาพและด้านสวัสดิการสังคมมีฐานข้อมูลประชากรกลุ่มนี้ อย่างด้านสุขภาพ ก็เพื่อให้มาตรวจเลือดเมื่อเสี่ยงหรือทุกรอบสามเดือน ให้ยา PrEP ยา PEP ถุงยางอนามัย ไว้ป้องกันตัวเอง ฝ่ายสวัสดิการสังคมก็เข้าไปให้คำแนะนำได้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุติดเชื้อเอชไอวี และเป็น กลุ่มคนที่ส่งเงินเข้าประกันสังคม หรือมี กองทุนต่างหาก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องให้การช่วยเหลือ อย่างโควิดระบาดทำงานไม่ได้ กลุ่มนี้ก็จะได้มีเงินชดเชยอีกส่วนหนึ่ง เพราะบางคนไม่ได้อยู่ลำพังต้องดูแลครอบครัว

ใช้เซ็กซ์หาเงิน เป็นเรื่องดีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับมิติศีลธรรมคนมองจะประเมิน แต่คนที่ทำเขาก็บอกว่า “ก็ต้องเอาตัวรอด และคือสิทธิในร่างกายของเขา” จึงไม่ขอสรุปอะไร

………………………………………………………
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย “บุหงาตันหยง”