ในช่วงโควิด-19 กลับมาระบาดหนัก มีผู้ติดเชื้อจำนวนหลายหมื่นคนต่อวัน “ดูหนังกับหมี” จึงขอกลับมารีวิวซีรีส์ จากแพลตฟอร์มการชมภาพยนตร์ได้ในมือถืออีกครั้ง โดยสัปดาห์นี้เป็นเรื่องราวของภาพยนตร์ซีรีส์ยอดนิยมอันดับ 1 ของ Netflix นั่นก็คือ “Juvenile Justice หญิงเหล็กศาลเยาวชน” โดยตัวเรื่องถูกแบ่งออกมาเป็น 10 ตอน ความยาวตอนละประมาณ 1 ชม.เศษ บทหนังถูกเขียนออกมาเพื่อสื่อไปยังเด็กและผู้ใหญ่ทั่วโลก พร้อมตีแผ่เรื่องราวของ “อาชญากรรมเด็ก” ตลอดจนกระบวนการยุติธรรมในการพิจารณาคดีต่าง ๆ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงก่อนการตัดสินในชั้นศาล โดยเด็กที่กระทำผิด ก็จะถูกตัดสินให้เข้าไปอยู่ในสถานพินิจฯ (คุกเด็ก) และเมื่อได้รับการปล่อยตัว มีหลายคนที่จะกลับตัวกลับใจได้ แต่ก็ยังมีอีกหลายคน ที่กลับไปก่ออาชญากรรมใหม่ และบางทีก็มีความรุนแรงขึ้นด้วย

เรื่องย่อ หญิงเหล็กศาลเยาวชน
“ชิมอึนซอก” (รับบทโดย คิมฮเยซู) ผู้พิพากษาคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาประจำที่ศาลเยาวชนเขตยอนฮวา เธอมีบุคคลิกที่เย็นชา มุ่งมั่นในการทำงานอย่าสูง ตรงกันข้ามกับ “ชาแทจู” (รับบทโดย คิมมูยอล) ผู้พิพากษาหนุ่มผู้ใจดี แต่สิ่งที่หนึ่งที่ทั้งสองมีเหมือนกันก็คือ ความมุ่งมั่นในการหาข้อเท็จจริงเพื่อจะตัดสินคดีต่าง ๆ ให้แก่เด็กและผู้ใหญ่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม สำหรับการทำงานที่เคร่งเครียดแล้ว ทั้งสองยังมี “คังวอนจุน” (รับบทโดย อีซองมิน) หัวหน้าผู้พิพากษาแผนกคดีอาญาเยาวชน ที่ทำงานในแวดวงกฎหมายมานานกว่า 22 ปี และกำลังอยากจะก้าวเข้าสู่การเมือง และยังมี นากึนฮี (รับบทโดย อีจองอึน) หัวหน้าผู้พิพากษาที่เย็นชาและไม่ใจดีกับใคร เธอจัดการกับอาชญากรเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ก็ยังต้องเชือดเฉือนบทบาทกับ “ซิมอึนซอก” ในระหว่างเจาะลึกทางคดีด้วย

อย่างไรก็ดี แม้ว่าในซีรีส์เรื่องนี้ผู้พิพากษา “ชิมอึนซอก” มักจะเอ่ยปากว่า “…ฉันเกลียดอาชญากรเด็กอย่างที่สุด…” แต่เอาเข้าจริง เธอกลับมีมนุษยธรรมและเมตตากับเด็กทุกคนโดยปราศจากข้อสงสัย ขณะที่ผู้พิพากษาหนุ่ม “ชาแทจู” ก็ยังทำให้เธอเปิดมุมมองใหม่ว่า เด็กบางคนก็เปลี่ยนแปลงตนเองได้จริง แม้จะไม่สามารถแก้ไขเรื่องเลวร้ายที่กระทำในอดีตได้ก็ตาม แต่พวกเขาก็กลับตัวกลับใจได้จริง และนั่นคือหน้าที่ของเหล่าตุลาการในการตัดสินคดีให้บทลงโทษแก่เด็ก เพื่อให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงผลของการกระทำผิด และความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย

จุดเด่นของ Juvenile Justice
ซีรีส์เรื่องนี้ ได้ผู้กำกับ ฮงจงชาน (ผลงาน Life, Her Private Life) และนักเขียนบท คิมมินซุก (ผลงาน Notebook From My Mother) ผนึกกำลังสร้างสรรค์ผลงานแบบถวายหัว จนออกมาเป็นเรื่องราวที่ดูแล้วซีเรียส หนักหน่วง แต่เนื้อหากลับไหลลื่น ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว บทถูกออกแบบและเขียนมาอย่างดี ชวนให้น่าติดตาม มีการแทรกเนื้อหาเกี่ยวกับ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ตัวเรื่องถูกแบ่งเป็นทั้งหมด 10 ตอน ตั้งแต่ คดีอาชญากรรมเด็กฆ่าหั่นศพ ความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาในศูนย์ฟื้นฟูเยาวชน คดีข้อสอบรั่วในโรงเรียน คดีอุบัติเหตุวัยรุ่นขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ และคดีกระทำชำเราหมู่ ซึ่งในทุกๆ ตอน มีแต่ความเข้มข้นหนักหน่วง บางตอนก็เชื่อมโยงกัน และบางตอนก็ซาบซึ้งใจ ตัวละครที่น่าชมคงป็นดาราสาว “คิมฮเยซู” หรือ ผู้พิพากษา “ชิมอึนซอก” เรียกว่าไม่เห็นรอยยิ้มของตัวละครตัวนี้เลย บุคคลิกเหมือนเป็นคนดุดัน ตรงกันข้ามกับ “คิมมูยอล” หรือ ผู้พิพากษา “ชาแทจู” ที่ยิ้มบ่อยและดูใจดีมากกว่า

Juvenile Justice" Season 1 Review: A Captivating K-Drama Courtroom Thriller  That Breaks All The Rules - Hype Malaysia

จุดอ่อนของ Juvenile Justice
ข้อเท็จจริงบางอย่างของซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ ดูโอเวอร์แอ๊คชั่นเกินไปและมีความย้อนแย้งในตัวเอง โดยเฉพาะการวางโครงเรื่องให้ผู้พิพากษาลงไปสืบหาเรื่องราวทางคดีด้วยตนเองนั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นหน้าที่ของอัยการและตำรวจ และแม้ตัวเอกจะเถียงว่า “…เป็นหน้าที่ของผู้พิพากษาในการเสาะหาความจริง…” แต่ความเป็นจริงก็ไม่ควรเอาชีวิตผู้พิพากษาไปเสี่ยงตายเพียงผู้เดียว และที่น่าประหลาดใจก็คือ ลงไปสืบหนเดียวกลับเจอต้นตอแบบเต็ม ยิ่งทำให้บทดูบังเอิญและโอเวอร์กันไปใหญ่….

Juvenile Justice" Season 1 Review: A Captivating K-Drama Courtroom Thriller  That Breaks All The Rules - Hype Malaysia

4/5 กะโหลก สำหรับ ผลงานแนวสืบสวนเชิงกฎหมายที่มีความเข้มข้นทุกเนื้อหา แม้ตัวเอกจะโอเวอร์ไปหน่อย แต่ภาพรวมแล้วก็ยังดูสนุกชวนติดตามไม่มีเบื่อ

————————————————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน

ขอบคุณข้อมูล ภาพจาก เว็บไซต์ Youtube และ Netflix