พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทำอ้อม ๆ แอ้ม ๆ จะกู้เงินมาแจกผ่านโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันทรุดหนัก ฐานะการคลังประเทศคงใกล้ถังแตกเต็มทน ขณะที่ยังเหลือเวลาอีก 5 เดือน กว่าจะสิ้นปีงบประมาณ 65 ยังไม่รู้ว่าต้องกู้มาโปะอีกเท่าไหร่

ข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ระบุว่า ระบบกระแสเงินสดไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 65 (ต.ค.-ธ.ค.64) รัฐบาลมีรายได้นำส่งเข้าคลังทั้งสิ้น 531,147 ล้านบาท แต่มีการเบิกจ่ายงบประมาณทั้งสิ้น 1,059,145 ล้านบาท รัฐบาลจึงกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 305,020 ล้านบาท

ตอนนี้ข้อมูลระบบกระแสเงินสดไตรมาสที่ 2 (ม.ค.-มี.ค. 65) ยังไม่ออกมา แต่พอจะคาดเดาจากท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ว่าไม่ต่างจากไตรมาสแรกมากนัก เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นเท่าที่ควร รัฐบาลไม่มีอะไรมากระตุ้น เพราะเม็ดเงินที่หว่านออกไป ใช้แล้วหมดเลย ไม่ได้เกิดผลต่อระบบเศรษฐกิจในระยะยาว

หันไปหันมาจึงหมุนอยู่กับงานถนัด “กู้มาแจก” ผ่านโครงการคนละครึ่ง ทั้งที่อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) เช่น นายชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์ บอกว่าการเงินการคลังภาครัฐน่าเป็นห่วงอย่างมาก เพราะขาดดุลงบประมาณติดต่อกันมายาวนาน และภาระหนี้สูงขึ้นเรื่อย ๆ

ขณะที่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ระบุว่านโยบายการคลังขณะนี้ เหมือนไม่มีนโยบาย มีแต่ใช้เงินไปเรื่อย ๆ ไม่ได้คิดว่าจะขาดดุลไปเท่าไหร่ แล้วจะขาดดุลในน้ำหนักแค่ไหนถึงจะเพียงพอ

ทางด้าน ศ.ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง เตือนคนไทยว่าอย่าปล่อยให้ประเทศล้มละลายแบบศรีลังกา เพราะรัฐบาลจากการรัฐประหารอยู่มาเกือบ 8 ปี ทำให้ประเทศไทยซึ่งเคยอยู่อันดับต้น ๆ ของอาเซียน กลายเป็นอันดับท้าย ๆ รัฐไม่มีความน่าเชื่อถือ เศรษฐกิจเติบโตเฉลี่ย 1% กว่า ๆ นักลงทุนหนีหาย

รัฐกู้เงินมาลงทุนในโครงการที่ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจต่ำ กู้เงินมาแจก มาติดสินบนประชาชนคนละเล็กละน้อย แต่ประเทศไม่เจริญเติบโต ทำให้ประชาชนตกงานมาก แต่จะดันทุรังอยู่ต่อไปเรื่อย ๆ

เหล่านี้คือสิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์ นักการเงินการคลัง สะท้อนภาพการทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ที่สร้างภาระหนี้อีนุงตุงนังไปหมด ทั้งหนี้สาธารณะ และหนี้ภาคครัวเรือนพุ่งสูงจนน่าเป็นห่วง

ท่ามกลางสารพัดปัญหามากมายทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว แต่คนไทยยังต้องอยู่กับ “ผู้นำ” ที่กินเงินเดือนหลวงมาทั้งชีวิต อยู่บ้านหลวงและใช้น้ำ-ไฟฟรี! มาค่อนชีวิต จึงหาเงินไม่เป็น!

แต่วันก่อนไม่พลาดที่จะเกาะกระแส “มิลลิ-ข้าวเหนียวมะม่วง” แต่พูดผิด ๆ ถูก ๆ “ซอฟต์แวร์” กับ “ซอฟต์ เพาเวอร์” สรุปคือ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ “อิน” กับ “ซอฟต์ เพาเวอร์” เสียเท่าไหร่ เพราะถ้า “อิน” คงไม่พูดหลุดออกไปขนาดนั้น

เนื่องจาก “ซอฟต์ เพาเวอร์” มันสวนทางกับแนวคิดหลุดโลกของผู้นำคนนี้ ที่บอกให้เลิกทำนา มาปลูกหมามุ่ยขาย ถ้าน้ำท่วมให้ทำประมง รัฐบาลจะหาห้องเย็นมาให้ และให้เลี้ยงไก่บ้านละ 2 ตัว รอให้โตเพื่อเอาไว้กินไข่

หลังสุดประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมาก็หงอย เหงา เพราะ “อนุทิน-วราวุธ” ลา! ส่วน “ประวิตร” ไปต่างประเทศ ขณะที่ “จุรินทร์” แถลงข่าวอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์ ด้วยเรื่องคาว ๆ ของ “ปริญญ์” สำคัญกว่าประชุม ครม.ใช่มั้ย?

จากสภาพเศรษฐกิจและฐานะการเงินการคลังย่ำแย่ ประชาชนมีกำลังซื้อน้อย ประชุม ครม.กันอย่างหงอยเหงา ที่สำคัญคือ พล.อ.ประยุทธ์หาเงินไม่เป็น! แล้วจะเป็นนายกฯ ต่อไปทำไม?

————–
พยัคฆ์น้อย