เมื่อพูดถึง คริสเตียโน โรนัลโด ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ยังมีแฟนบอลบางกลุ่มมองว่าเขาคือตัวปัญหา และมีส่วนทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในฤดูกาลนี้

            กลุ่มแอนตี้โรนัลโดเชื่อว่า การตัดสินใจหวนกลับมาค้าแข้งยัง “โรงละครแห่งความฝัน” ของ “ซีอาร์ 7” สร้างความเสียหายให้กับระบบการเล่นของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ โอเล กุนนาร์ โซลชา วางเอาไว้ เนื่องจากนักเตะทุกคนต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสไตล์การเล่นของ กองหน้าทีมชาติโปรตุเกส

            ขณะที่บางส่วนมองว่า หากไม่มี โรนัลโด บางที แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะเข้าป้ายในอันดับท็อป 4 ได้อย่างสบาย ๆ เพราะในฤดูกาลก่อนที่ไม่มี โรนัลโด นั้น อสูรแดง จบฤดูกาลได้ในฐานะรองแชมป์เลยทีเดียว

            ทว่าหากเราลองมองเรื่องนี้โดยตัดความเชื่อทิ้งไป และยกเอาเหตุผลเข้ามาแทนที่ก็จะเห็นได้ว่า นอกจาก โรนัลโด จะไม่ใช่ตัวปัญหาแล้ว ยังเป็นคนที่เข้ามาช่วยแบกไม่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องตกต่ำไปมากกว่าที่เป็นอยู่อีกด้วย

            หากคุณเป็นคนที่ติดตามผลงานของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาตลอดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยไม่ได้ติดตามเฉพาะผลการแข่งขันจากแอพรายงานผลเจ้าต่าง ๆ ก็จะเห็นได้เลยว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้เล่นอย่างมีระบบ หรือ ที่แฟนบอลบ้านเราชอบเรียกกันง่าย ๆ ว่า เล่นแบบมีทรงมาตั้งนานแล้ว โดยเฉพาะในยุคของ โซลชา ยิ่งเละตุ้มเป๊ะ

            ส่วนเรื่องที่ น้าโอเล่ พาทีมคว้ารองแชมป์ได้ในฤดูกาลก่อน ก็ต้องบอกว่า นอกจากจะเก่งแล้ว ยังมีเฮงผสมอยู่ด้วยเพราะคู่แข่งในระนาบเดียวกันอย่าง ลิเวอร์พูล, ทอตแนม ฮอตสเปอร์ และอาร์เซนอล ต่างมีปัญหาเรื่องสภาพทีม และนัดกันฟอร์มตกแบบรูดมหาราชชนิดไม่ได้นัดหมาย โดยเฉพาะ หงส์แดง ที่เป๋ไปเลยหลังเสีย เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ไปตั้งแต่ต้นซีซั่น นั่นจึงเป็นการเปิดทางให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่สภาพทีมสมบูรณ์กว่าลอยลำเข้าป้ายในอันดับ 2 แต่ก็ยังโดนแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี ทิ้งชนิดไม่เห็นฝุ่นถึง 12 คะแนนอยู่ดี

            ขณะที่ในฤดูกาลนี้ เมื่อคู่แข่งอย่าง ลิเวอร์พูล, สเปอร์ส, เชลซี และอาร์เซนอล รวมทั้งทีมระดับกลางอย่าง เวสต์แฮม ต่างยกระดับขึ้นมา หากไม่มี 23 ประตูของ โรนัลโด อันดับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่น่าจะรูดลงไปแค่ที่ 6 และก็ไม่น่าจะผ่านเข้าไปถึงรอบน็อกเอาท์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นลองพิจารณากันดูเอาเองว่า กองหน้าวัย 37 ปี เป็นตัวปัญหาจริงหรือไม่?

            ในเกมนัดล่าสุดที่เสมอกับ เชลซี 1-1 ซึ่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเล่นกันไม่เป็นสับปะรด โดยเฉพาะเกมรับที่เปราะเหลือกำลังนั้น ก็ยังเป็น โรนัลโด ที่สวมบทฮีโร่ซัดประตูตีเสมอ และช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความปราชัยเป็นเกมที่ 3 ติดต่อกันได้อย่างหวุดหวิด หลังเพิ่งโดน ลิเวอร์พูล ยำใหญ่มา 4-0 และโดน อาร์เซนอล ทุบมาอีก 3-1

            จากฟอร์มการเล่น และทัศนคติอันยอดเยี่ยมของ โรนัลโด ในเกมเสมอ “สิงห์สำอาง” ทำให้ ราล์ฟ รังนิก กุนซือขัดตาทัพของ แมนฯ ยูไนเต็ด เชื่อว่า “ซีอาร์ 7” ยังมีพอที่จะอยู่เป็นกำลังสำคัญให้ ปิศาจแดง ต่อไปในยุคของ เอริก เทน ฮาก

            ทว่าทั้งนี้ และทั้งนั้นต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ กุนซือชาวดัตช์ และโรนัลโด เองด้วยว่า จะอยากร่วมงานกันหรือไม่ในฤดูกาลหน้า.

แท ยอน