มองจีนสยบโควิดเดลตา ทุกภาคส่วนรวมพลังเข้มแข็ง (2)
ขยับใกล้สิ้นเดือน ส.ค. กำลังจะครบกำหนดล็อกดาวน์ 29 จังหวัดที่ทาง ศบค.ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยสะสมทะลุเกิน 1 ล้านคนไปแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตก็กำลังจะถึงหลักหมื่นคน
ขยับใกล้สิ้นเดือน ส.ค. กำลังจะครบกำหนดล็อกดาวน์ 29 จังหวัดที่ทาง ศบค.ประกาศเอาไว้ก่อนหน้านี้ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยสะสมทะลุเกิน 1 ล้านคนไปแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตก็กำลังจะถึงหลักหมื่นคน
สถานการณ์มหาวิกฤติโควิด-19 ในระลอกนี้ ค่อนข้างยาวนานและยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่าจะยุติเมื่อไรถ้าไล่เรียงย้อนหลังกลับไปจากปลายเดือน เม.ย.64 โควิดระลอก 3 จาก คลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อ โดยเล่นงานจากเจ้าโควิด สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) ซึ่งก็ไม่ได้มีมาตรการล็อกดาวน์เข้มข้น กระทั่ง พ.ค.-มิ.ย. ยังมาเจอเชื้อสายพันธุ์ เดลตา(อินเดีย) ระบาดจากแคมป์คนงานใจกลางกรุงเทพมหานคร ก่อนระบาดไปทั่วประเทศ
ภายหลังจากสหรัฐอเมริกาได้บริจาค วัคซีนไฟเซอร์ 1,503,450 โด๊ส ส่งมอบให้กับประเทศไทยตั้งแต่ 30 ก.ค. 64 วัตถุประสงค์เพื่อฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็น 1 ใน 6 รัฐมนตรี ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในรอบนี้ ด้วยข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านที่ว่ามีพฤติการณ์ไม่ชอบมาพากลในโครงการขนาดใหญ่ของหน่วยงานที่อยู่ในกำกับดูแล จนเกิดการทุจริตในการประมูลหลายโครงการ
ยังเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสกับมหาวิกฤติโควิด-19 ในระลอกนี้ ตัวเลขยอดผู้ได้รับวัคซีนในประเทศไทย สะสม 23,592,227 ราย แบ่งเป็น เข็มแรก 17,996,826 โด๊ส (27.2%), เข็มสอง 5,109,476 โด๊ส (7.7%) และ เข็มสาม 485,925 โด๊ส (0.7%)
วิกฤติโควิด-19 ระลอกนี้ เจ้าเชื้อกลายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ยังแพร่ระบาดไปทั่วประเทศไทย ทั้งยอดติดเชื้อรายวัน และผู้เสียชีวิตไม่มีทีท่าลด กลุ่มเสี่ยง ยังเป็นผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว 7 โรค รวมไปถึงผู้มีน้ำหนักมากหรือ ภาวะอ้วน
วิกฤติโควิด-19 ที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ ปี 63 จนข้ามมาปี 64 ส่งผล กระทบต่อทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา จะเรียกว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ว่าได้ โดยเฉพาะด้านการศึกษา ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา นักเรียน-นักศึกษา ต้องเจอกับบททดสอบกับทั้งการเรียนการสอน-สอบออนไลน์
ท่ามกลางมรสุมวิกฤติโควิด-19 ระลอก 4 ที่กำลังระบาดไปทั่วประเทศไทย โรคอุบัติใหม่อย่าง “ลัมปีสกิน” หรือ “หูดวัว” ที่เกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงโค-กระบือซึ่งติดเชื้อกระจายไป 62 จังหวัดทั่วทุกภูมิภาคซึ่งอาจทำให้เกิดควาามเสียหายต่อเกษตรเป็นวงกว้าง
เสียงผู้คนบ่นกันในโลกออนไลน์ว่าน้ำมันขึ้นราคาอีกแล้ว ปรับขึ้นครั้งละ 40-50 สตางค์/ลิตร เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวขึ้น ขึ้นราคาต่อเนื่อง 3 ครั้ง แต่ลดราคาลงแค่ครั้งเดียว
เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจและต้องให้กำลังใจกับชาวจังหวัดสมุทรสาคร ที่ต้องผจญวิกฤติโควิด-19 มาตั้งแต่ 24 ธ.ค.63 ช่วงนั้นถูก ศบค. ประกาศให้ จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่การควบคุมสูงสุด จากคลัสเตอร์แรงงานต่างด้าว ตลาดกลางกุ้ง
เกือบตลอดทั้งเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อว่า เพียงแค่เดือนเดียว ยอดติดเชื้อสะสม 337,986 ราย ผู้เสียชีวิต 2,834 ราย (1 -31 ก.ค.64) ถึงแม้ว่าข้ามมาเดือน ส.ค. ทาง ศบค.ตัดสินใจยกระดับมาตรการคุ้มเข้มล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุด สีแดงเข้มจาก 13 จังหวัด เพิ่มเป็น 29 จังหวัด
เคยมีบทเรียนเจ็บปวด หลายต่อหลายครั้งที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นเรื่องที่ทุก ๆ ฝ่ายไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเพราะมันเหมือนเป็นการทุบหม้อข้าวของตัวเอง กว่าจะลบภาพฝันร้ายแต่ละครั้งเพื่อเรียกความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานความปลอดภัยกลับคืนมาก็ต้องใช้เวลาไม่น้อย
เกือบตลอด 1 เดือนเต็มที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เอง หรือชาวไทยทั่วประเทศทุกภาคส่วน โดยเฉพาะด้านท่องเที่ยว ต่างพยายามเอาใจช่วย โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เเต่สุดท้ายเหตุการณ์นอกความคาดหมายก็เกิดขึ้น
ตอนนี้อารมณ์คนไทยส่วนใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่เหล่าคนวงการบันเทิง เซเลบ เน็ตไอดอล แพทย์ พยาบาล รวมไปถึงสลิ่ม และอดีตสาวก “นกหวีด” บางส่วน กำลังเอือมระอาเต็มทนกับการบริหารจัดการโควิด-19 และการจัดหาวัคซีนที่ล่าช้าและไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
จากข้อมูลคนไทยการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ.-3 ส.ค. 64) รวม 18,578,096 โด๊ส ด้วยจำนวนผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 1 สะสม 14,492,385 ราย และผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม 4,085,711 ราย